โลกมนุษย์คงจะดีกว่านี้แน่

อ่าน: 10055

ระหว่างที่มีรายการขย่มกรุงยุ่ง ๆ เย๊ว ๆ นี่นะครับ พวกเราคงทำอะไรไม่ได้มากนัก นอกจากนั่งถอนใจทำตาปริบ ๆ  ในเมื่อคนไทยมองไม่เห็นจุดที่เป็นแก่นสารของชาติตนเอง อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นละครับ เรื่องทั้งหมดอย่าไปโทษใคร โทษคนไทยทั้งหมดนี่แหละที่มีส่วนทำให้เกิดหมายเหตุประเทศไทย ถ้าทุกคนมีมิติทางสังคมในหัวใจ ไม่ปล่อยปะละเลยให้พวกที่รักประเทศไทยจนน้ำลายไหล ทำอะไรเลยเถิดเรื่องมันก็จะไม่เข้าตาจนเช่นนี้

วัฒนธรรมไทยก็มีส่วน ที่คนส่วนใหญ่มองว่าธุระไม่ใช่ ฉันไม่ไปยุ่งเกี่ยวเดี๋ยวจะพลอยโดนหางเลข คิดง่าย ๆ นึกว่าจะพ้น ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับบ้านเมืองเป็นเรื่องกระแทกกระทั้นถึงกันหมด จะไปหลบอยู่มุมไหนก็ไม่พ้นหรอก เจอหางเลขทั่วหน้าไม่มากก็น้อย เหตุแห่งความแตกแยกมันค่อย ๆ สะสมมานาน แล้วก็บานปลายออกไปเรื่อย ๆ  เพราะประเทศนี้ไม่มีภูมิคุ้มกันทางสังคมที่เข้มแข็งพอจะดูแลความสงบสุขของบ้านเมือง คนไทยหยวนให้กับทุกเรื่อง เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ก็รับกรรมกันไปเถิดนะต๋อย

ถ้าเอาแต่บ่นเดี๋ยวก็โดนคุณหมอจอมป่วนจวกอีก ถามว่า..นับแต่นี้ไปคนไทยควรจะคิดและทำอะไรในเรื่องที่ผันผวนจนยากที่จะจับต้นชนปลายไม่ถูก คงต้องหันมาดูหน้าที่ของคนไทยกระมังครับ หน้าที่โดยตรงต่อการงานรับผิดชอบ และหน้าที่ ๆ ช่วยกันดูแลสังคม ถ้าไม่มีหน้าที่ตัวหลัง ลอยเพสังคมให้ตกอยู่ในมือของคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดโดยไม่มีหางเสือ  ก็จะเกิดก๊ก เกิดเหล่า จ้องเจี๊ยะผลประโยชน์ส่วนรวม  คราวนี้ละครับที่ประเทศไทยจะเป็นไปอย่างซึมกะทือ ชักหน้าไม่ถึงหลัง แบ่งเขตแบ่งพื้นที่ของข้าใครอย่าเตะ ผิดกลิ่นเข้ามาเป็นโดนไล่โฮ่ฮาเขวี้ยงปากระเจิง จะหาเสียงก็ยาก จะปกครองก็ยาก จะทำมาหากินก็ยาก เกิดอำนาจเถื่อนซ้อนอำนาจรัฐ เมื่อเป็นไปถึงปานฉะนี้เราจะนั่งดูดำดูดีอย่างไร?

อ่านต่อ »


สวรรค์ล่มจนได้

อ่าน: 1650

..ตะวันตกดินกำลังโพล้เพล้ ไก่ต๊อกและนกยูงเริ่มโผบินไปเกาะคอนเตรียมหลับนอนในค่ำคืนนี้ โฉมยงถามว่า จะรับประทานมื้อเย็นที่ไหน ก็เอาตรงชานบ้านนี่แหละน้อง เป็นมุมอาหารที่แวดล้อมไปด้วยความรื่นรมย์ เปิดสปริงเกอร์โปรยละอองชุ่มชื่นให้ปลิวไสว มีไก่ยำมะม่วง น้ำพริก/ผักลวก ปลาตัวเล็ก ๆ อบกรอบ ตามด้วยมะม่วงสุกตบท้าย นั่งคุยไปคุยมานึกขึ้นได้ว่าเมื่อตอนกลางวันเอามะละกอสุกแช่เย็นมาชิม เป็นของว่างยามบ่ายที่เหมาะยิ่งกว่ารายการคลายเครียดเสียอีก มะละกออย่าเอาที่สุกเกินไป ฝานตอนที่เนื้อยังกึ่งแข็งกึ่งนิ่ม เนื้อสีทองไม่หวานมากนักเป็นคุณสมบัติของมะละกออีสาน โฉมยงเก็บมาตุนไว้ทีละ 2-3 ลูก กลายเป็นผลไม้ประจำในช่วงนี้เสียแล้ว

ตอนที่หมอเจ๊มาได้ชวนปลูกมะละกอไปหลายต้น

หลังจากนั้นก็เพาะและปลูกเพิ่มเรื่อย ๆ

พบว่ามีทั้งมะละกอที่งอกเองและที่เราปลูก

สังเกตได้จากที่เป็นแถวเป็นแนวและขึ้นเปะปะทั่วไป

เนื่องจากไม่ใช่ไม้ยืนต้นจึงปล่อยให้ขึ้นตามอำเภอใจ

ลูกสุกคาต้นก็ปล่อยให้เป็นอาหารนกหนู

เมล็ดร่วงลงมาไก่ไปจิกนกไปชิมแล้วเอาก้นหว่านไปทั่ว

บอกให้โฉมยงเก็บเมล็ดไว้จะเพาะขยายปลูกให้เต็มสวน

อ่านต่อ »



Main: 0.019312143325806 sec
Sidebar: 0.051542997360229 sec