โลกมนุษย์คงจะดีกว่านี้แน่

อ่าน: 10066

ระหว่างที่มีรายการขย่มกรุงยุ่ง ๆ เย๊ว ๆ นี่นะครับ พวกเราคงทำอะไรไม่ได้มากนัก นอกจากนั่งถอนใจทำตาปริบ ๆ  ในเมื่อคนไทยมองไม่เห็นจุดที่เป็นแก่นสารของชาติตนเอง อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นละครับ เรื่องทั้งหมดอย่าไปโทษใคร โทษคนไทยทั้งหมดนี่แหละที่มีส่วนทำให้เกิดหมายเหตุประเทศไทย ถ้าทุกคนมีมิติทางสังคมในหัวใจ ไม่ปล่อยปะละเลยให้พวกที่รักประเทศไทยจนน้ำลายไหล ทำอะไรเลยเถิดเรื่องมันก็จะไม่เข้าตาจนเช่นนี้

วัฒนธรรมไทยก็มีส่วน ที่คนส่วนใหญ่มองว่าธุระไม่ใช่ ฉันไม่ไปยุ่งเกี่ยวเดี๋ยวจะพลอยโดนหางเลข คิดง่าย ๆ นึกว่าจะพ้น ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับบ้านเมืองเป็นเรื่องกระแทกกระทั้นถึงกันหมด จะไปหลบอยู่มุมไหนก็ไม่พ้นหรอก เจอหางเลขทั่วหน้าไม่มากก็น้อย เหตุแห่งความแตกแยกมันค่อย ๆ สะสมมานาน แล้วก็บานปลายออกไปเรื่อย ๆ  เพราะประเทศนี้ไม่มีภูมิคุ้มกันทางสังคมที่เข้มแข็งพอจะดูแลความสงบสุขของบ้านเมือง คนไทยหยวนให้กับทุกเรื่อง เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ก็รับกรรมกันไปเถิดนะต๋อย

ถ้าเอาแต่บ่นเดี๋ยวก็โดนคุณหมอจอมป่วนจวกอีก ถามว่า..นับแต่นี้ไปคนไทยควรจะคิดและทำอะไรในเรื่องที่ผันผวนจนยากที่จะจับต้นชนปลายไม่ถูก คงต้องหันมาดูหน้าที่ของคนไทยกระมังครับ หน้าที่โดยตรงต่อการงานรับผิดชอบ และหน้าที่ ๆ ช่วยกันดูแลสังคม ถ้าไม่มีหน้าที่ตัวหลัง ลอยเพสังคมให้ตกอยู่ในมือของคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดโดยไม่มีหางเสือ  ก็จะเกิดก๊ก เกิดเหล่า จ้องเจี๊ยะผลประโยชน์ส่วนรวม  คราวนี้ละครับที่ประเทศไทยจะเป็นไปอย่างซึมกะทือ ชักหน้าไม่ถึงหลัง แบ่งเขตแบ่งพื้นที่ของข้าใครอย่าเตะ ผิดกลิ่นเข้ามาเป็นโดนไล่โฮ่ฮาเขวี้ยงปากระเจิง จะหาเสียงก็ยาก จะปกครองก็ยาก จะทำมาหากินก็ยาก เกิดอำนาจเถื่อนซ้อนอำนาจรัฐ เมื่อเป็นไปถึงปานฉะนี้เราจะนั่งดูดำดูดีอย่างไร?

(แผ่นดินร้อน นอกจากรดน้ำแล้ว ควรใช้ใบไม้ปกคลุม)

ในระหว่างที่ยึกยักยึกยือกันอยู่นี้ ผมก็หันมาดูเรื่องของตนเอง สิ่งที่ได้เรียนรู้แต่ละวัน ขออนุญาตเอามารำพัน ถ้าเป็นเรื่องเขารู้แล้วละลุงก็ขออภัย เรื่องแรกได้แก่การดูแลความชุ่มชื่นในแปลงผัก สิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุดก็คือขนใบไม้มาปกคลุมหน้าดิน จะช่วยบรรเทาความร้อนแล้งได้พอสมควร เคยรดน้ำทุกวันก็จะลดลงได้ 3 วันครั้ง เรื่องวัชพืชอย่าไปทำลาย ปล่อยให้ปกคลุมพื้นดินไว้ จะช่วยรักษาความชื้นได้พอสมควร

(ผักบุ้งคนกรุงต้องมีรั้วรอบขอบชิด แต่ผักพื้นถิ่นปลูกแบบโล่งโจ้งสบายๆ)

การเลือกปลูกพืชที่เหมาะสมกับหน้าแล้ง ถ้าเป็นผักชาวกรุงจะยุ่งยากเรื่องสัตว์เลี้ยงรบกวน เช่นการปลูกผักบุ้ง เราจะต้องทำรั้วรอบกันสัตว์เลี้ยง ซึ่งตรงกันข้ามกับผักพื้นถิ่นที่เกิดเอง รดน้ำช่วยอย่างเดียวก็เขียวสะพรั่งแล้ว ชาวบ้านยังไม่ตระหนักในเรื่องนี้ ว่าการดูแลผักที่เกิดตามธรรมชาตินั้นมีจุดดีมากมาย รวมทั้งวิธีการปลูกผักยืนต้นระบบชิด ถ้าแล้งอย่างนี้แถมมีน้ำจำกัด ขอแนะนำให้เพาะกล้าไว้จะดีกว่า ฝนมาก็จะได้ปลูกได้ทันกาล ดีกว่าที่จะมายักแย่ยักยันปลูกด้วยเมล็ดเหมือนผม สุดท้ายแล้วก็จะโตพอๆกัน แต่หยอดเมล็ดยุ่งยากและสิ้นเปลืองมากกว่า แต่ถ้าไม่ทดลองก็ไม่รู้ มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ทำการวิจัย คือการปลูกผักหวานบ้านด้วยราก และค้นพบว่า ต้นเหรียงนั้นสามารถเพาะชำรากมาปลูกได้เช่นกัน แต่คงจะยุงยากกว่าการปลูกด้วยเมล็ด แต่รู้ไว้ก็ใช่ว่าใส่บ่าแบกหามใช่ไหมละครับ

(มะเขือพวงจะมีรูปใบยัก)

การปลูกมะเขือ ที่สวนป่ามีต้นมะเขือเล็ก ๆ งอกเองมากมาย ถ้าเราสังเกตก็จะพอแยกชนิดได้โดยดูจากใบ ใบของมะเขือพวงจะเป็นแฉก ๆ มีหนามตามก้าน ส่วนมะเขือทั่วไปใบจะมีรูปมนรี เราต้องเลือกอีกว่าชอบรับประทานมะเขือชนิดไหนมากกว่ากัน ในเครือญาติแซ่เฮจะชอบมะเขือพวงกับมะเขือยาว ผมจึงย้ายกล้ามาเข้าแถว คาดว่าจะปลูกประมาณ 100 ต้น บางต้นก็เริ่มออกดอกแล้ว อีกหน่อยก็จะออกช่อเห็นเป็นพวง ๆ ให้เด็ดไปโม้อีก ส่วนมะเขือเทศกำลังจะวาย ได้ทดลองต้นต้นแก่ทิ้งแล้วปล่อยให้แตกหน่อใหม่ ยังไม่ทราบว่าจะเป็นไปได้แค่ไหน เผื่อกันเหนียวก็หว่านเมล็ดทิ้งไว้แล้ว มะเขือการ์ตูนที่อุ้ยกับหมอเบิร์ดให้เมล็ดมา เพาะไว้ต้นโตพอที่จะย้ายปลูกแล้ว จึงขอบอกผู้อุปการะด้วยความคิดถึง

(ชมจันทร์ปลูกง่าย 2 เดือนก็เก็บดอกได้แล้ว)

ผักชมจันทร์ พบว่าปลูกง่ายดายเหลือเกิน ระหว่างที่ออกดอกเมล็ดก็ทยอยแก่ตามไปด้วย ผมเริ่มเก็บมาสะสมไว้แล้ว ต้นเล็ก ๆ ที่ปลูก พอตั้งตัวไต่ราวก็ออกดอกให้ชมรวดเร็ว การปลูกชมจันทร์ทำได้หลายวิธี ง่ายที่สุดเอาเมล็ดไปฝังไว้ใต้ต้นไม้ หาลำไม้ไผ่ปักไว้ให้เกาะด้วย แค่นี้ก็จะได้ชมจันทร์ชมใจแล้วละครับ ผมปลูกไปเรื่อย ๆ   คาดว่าอีก 2 เดือนจะมีดอกชมจันทร์มาโม้อย่างมโหระทึก

(เก็บฝักเหรียงมาแช่น้ำแกะเมล็ดออกได้ง่าย)

ลูกเหรียง

ช่วงนี้ฝักทยอยหล่นลงมาเรื่อย ๆ

เก็บมาแกะเอาเมล็ดยากเหมือนกัน

ฝักมีความเหนียวไม่น้อย

ผมทดลองเอาไปฝักไปแช่น้ำ 1 สัปดาห์

ฝักจะเปื่อยยุ่ยแกะเอาเมล็ดออกมาได้ง่าย

ไม่ทราบว่าพี่น้องทางใต้ใช้วิธีนี้หรือมีดีกว่านี้

ผมค้นเจอเรื่องง่าย ๆ ก็เอามาโม้ตามลีลาคนขี้คุย

ถ้าทราบแล้วเปลี่ยน

แคว๊ก ๆ

« « Prev : สวรรค์ล่มจนได้

Next : หาไม่เจอแต่ก็เจอ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

3 ความคิดเห็น

  • #1 ป้าชุ(ก.ด) ให้ความคิดเห็นเมื่อ 22 กรกฏาคม 2010 เวลา 18:07

    ต้องการรู้เรื่องเครื่องแกะเหรียง

  • #2 ป้าชุ(ก.ด) ให้ความคิดเห็นเมื่อ 22 กรกฏาคม 2010 เวลา 18:08

    ขอความกรุณาหน่อย

  • #3 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 24 กรกฏาคม 2010 เวลา 22:14

    ป้าครับ ผมไม่มีเครื่องแกะครับ
    เพียงแต่เอามาแช่น้ำประมาณ 3 วัน ฝันกจะนิ่ม
    หลังจากนั้นเอามือแกะเอาเมล็ดออกได้ง่าย


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.33559012413025 sec
Sidebar: 0.073246002197266 sec