เพลงยาวกรุงรัตนโกสินทร์ ฉบับที่ 1
หลังจากได้ฟังม็อบกับรัฐบาลจีบกัน
คน 6 คนจาก 2 ฝ่ายพบปะกันตามมารยาทไทย
มีคนใส่ใจฟังอย่างจดจ่อทั่วประเทศ
และสนใจฟังไปทั่วโลก
เป็นการคุยกันนัดประวัติศาสตร์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ที่ได้บันทึกไว้ในใจของคนไทยเรียบร้อยแล้ว
การสื่อสารของประเทศนี้ทำหน้าที่ได้ดี
กราบขอบคุณพระสยามเทวาธิราช
ที่ดลบันดาลให้ 2 ฝ่ายตกลงปลงใจมานั่งคุยกัน
ขอบพระคุณ ศ.บวรศักดิ์ สุวรรณโณ มือประสานสิบทิศ
ขอบคุณสำนักสันติวิธีและสถาบันพระปกเกล้า ซึ่งเป็นเวทีกลาง
ขอบคุณคนไทยที่สละเวลามาร่วมรายการฉุกคิดประเทศไทย
เราได้เห็นความเหนียมอายเล็ก ๆ ที่น่ารักของทั้ง 2 ฝ่าย
ที่สะท้อนถึง..ยังไง ๆ เราก็ยังเป็นคนไทยเหมือนกันวันยังค่ำ
ถึงจะใส่เสื้อสีไหน ๆ แต่เลือดเนื้อยังเป็นชาติเชื้อไทย
ชีวิต-จิตใจ-ยังมีวัฒนธรรมไทยหลงเหลืออยู่
เป็นการคุยกันท่ามกลางความเครียดและกังวล
แต่ก็มีความปรารถนาดี ที่พร้อมแปลงเป็นความหวังดีร่วมกัน
หลังจากจับไม้จับมือกันแล้ว
การบ้านที่แต่ละฝ่ายทำมาก็เริ่มเปิดเผย
คนไทยได้เห็นวิธีการยกเอาปัญหาบ้านเมืองมาวางกลางแจ้ง
ให้คนทั้งโลกได้รู้เห็นไปพร้อม ๆ กัน
ผมคิดเอาเองนะครับว่า..นี่ไงประชาธิปไตยที่เราอยากเห็น
ความในใจ..มีอะไรก็ว่ามา
จะว่าอย่างไร..ก็มีคนร่วมฟังร่วมพิจารณา
ที่ไม่ใช่การพูดข้างเดียว แต่ร่วมกันพูดร่วมกันฟัง ร่วมกันใคร่ครวญ
ถ้ามีการนำวิธีนี้มาใช้บ้านเมืองเราคงจะสันติสุขไปนานแล้ว
จังหวะต่าง ๆ ช่วยถ่างความในใจไหลออกมาเป็นคำพูดได้มากมาย
ถึงแม้จะมีการสงวนท่าทีบ้าง
แต่ก็ให้วิจารณญาณอิสระ ที่จะเปิดและเผยแค่ไหนอย่างไร
เราจึงเห็นคำต่อว่าต่อขานที่นิ่มนวลน่ารัก
โดยเฉพาะ 3 เกลอหัวขวด ที่จำเป็นต้องแสดงบทฉีกหน้าใครต่อใคร
ถ้าเรามองอย่างเข้าใจจะถือสากันน้อยลง
ไม่มีม็อบประเทศไหนหรอก ที่ขึ้นเวทีแล้วจะจำนรรจา คะ ขา คุณ ผม
นึกอย่างเดียว จะก่นหาคำมาใช้จนสุดขั้วบรรณานุกรม
ซึ่งคนผู้นำม็อบนั้น ไม่ใช่ใครก็จะเป็นได้
ต้องถือว่าเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง
วันข้างหน้าถ้าเขาแปลงความมีศักยภาพพิเศษ ถูกที่ ถูกกาลเวลา
ประเทศนี้ก็จะได้ประโยชน์อย่างมหาศาล
คุณค่าในตัวคนไทยก็คือคุณประโยชน์ของแผ่นดิน
ทรัพย์ในตัวคนเป็นต้นทุนที่ดีที่สุดของประเทศนั้น ๆ
ผมหวังลึก ๆ ว่าในวันใดที่เขาเล่นบทพระเอกเขาจะมีเสน่ห์มาก
ผมเห็นความน่ารักในตัวของคุณจตุพร-คุณหมอเหวง-และคุณวีระ
ความอัดอั้นในอกแผ่รังสีทางใบหน้าและแววตา
เราก็ยังความยินดีท่ามกลางความหวังดีเจือจานออกมา
เมื่อพกคำตอบอย่างมั่นยืนมาแล้ว
ก็เสนอสิ่งที่รับปากกับผองเพื่อนไว้ตามเจตจำนงทุกประการ
ถ้าคนฟังรับฟังอย่างเห็นใจจะเข้าใจ
ดังนั้นการฟังเรื่องหนัก ๆ ประเภทนี้ผู้ฟังไม่ควรตัดสินใด ๆ..
พระอาจารย์ไร้กรอบ (ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ)
กล่าวไว้ในหนังสือ ฉลาดได้อีก..
“ฉลาดได้อีก! ถ้า..ห้อยแขวนคำพิพากษา
ห้อยแขวนคำพิพากษา หมายถึง
ถ้าได้เห็นอะไร ได้ยินอะไร ก็อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ
จงมองว่า..จริง ๆ แล้วเขาต้องการอะไร?
ในเบื้องลึก ๆ แล้วมันคืออะไร? จงสังเกต ๆ ๆ ๆ ๆ”
ที่ผ่านมา
การสร้างกติกาใหม่ขึ้นมาใช้กันเอง
สร้างทุกข์ แบ่งแยกชนชั้นด้วยคำพูดขึ้นมาเอง
เอาคำพูดมาตัดสินกันภายนอก ฯลฯ
ท่านสอนให้หัดสังเกต ๆๆๆๆ
เมื่อสังเกตหรือฟังไปจนสุด ก็จะปล่อยวาง
การปล่อยวาง ก็คือ เห็นแล้ว เข้าใจแล้ว
ยอมรับสภาพแล้ว สังเกตสุดแล้ว
ที่นี้เราจะฉลาดได้อีกไหม
คำตอบก็คือ ได้
ถ้าเราฟังให้ครบ
ดีดความคิดจรออกไปก่อน
ดีดความคิดปรุงแต่งออกไปก่อน
อย่าเพิ่งออกนอกเรื่อง
อย่าเพิ่งจิ๊ด ๆ ๆ ๆ
อย่าเบื่อฟัง ๆ ๆ ๆ ต่อไป..
เฮ้อ! จวนตี 4 แล้วพี่น้องเอ๊ย
ขออาบน้ำแต่งตัวไปสุวรรณภูมิก่อนเน้อ
จะไปขอนแก่น แล้วต่อไปมหาวิทยาลัยราชภัฏสารคาม
ไปหาป้าหวาน ไปหาเล่าฮู
แล้วจะกลับมามาเขียนต่อ..
เพอ่งจะเขียนได้ใจความ 20~%
พูดถึงเล่าฮูแสวง..ท่านก็ส่งข้อความมาถาม
“เรียกแท็กซี่แล้วหรือยัง”
ห่วงใยกันมันเป็นเช่นนี้แหละพี่น้องเอ๊ย!
บ๋าย บาย แทน แคว๊ก ๆ
Next : แ่อ่วเชียงใหม่แล้วไปลำพูน » »
3 ความคิดเห็น
พบกันที่คลีนิคป้าหวานครับ
อ้าว นึกว่าบ่ยุ้ อิอิ
โปรแกรมผมเปลี่ยนไป เลยยืดหยุ่นมากขึ้นครับ