ลานบ้านชลบถพิบูลย์

กันยายน 5, 2009

ฮูบแต้มแคมของ : ม่วนซื่นละครเด็ก

เกือบจะพลบค่ำแล้ว พี่เลี้ยง“ค่ายฮูบแต้มแคมของ” เรียกรวมเด็ก ๆ ชาวค่ายพร้อมกันหน้าวิหารใญ่วัดมโนภิรมณ์ วิหารที่เป็นเสมือนเพชรน้ำเอกของลุ่มน้ำโขง วิหารที่ไม่ได้มาชมไม่ได้มาศึกษาแล้วอย่าอุตริด่วนสรุปเรื่องสถาปัตยกรรมอีสาน เพราะวิหารแห่งนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับวิหารอื่น ๆ ที่พบในแถบอีสาน

พี่เลี้ยงสอบถามเรื่องราวของจิตรกรรมฝาผนังอีสานวัดศรีมหาโพธิ์กับนักเรียน เพื่อประมวลสรุปการเรียนรู้ การเยี่ยมชมและการทำกิจกรรมอีกครั้ง หลังจากสรุปกันพอควร เราจะสังเกตว่าเด็ก ๆ ชาวค่ายจำเนื้อเรื่องที่ปรากฎบนจิตรกรรมฝาผนังได้ แต่ยังขาดรายละเอียดอีกเล็ก ๆ หรือเราจะพบว่าแม้จะตอบถูกต้องแต่ยังไม่มีความมั่นใจในคำตอบของตนเองมากนัก ซึ่งหลังจากนี้พี่เลี้ยงค่ายโยนเครื่องมือเรียนรู้ชนิดต่อไปให้เด็ก ๆ ทันที เครื่องที่ว่านี้คือ ละครสำหรับเด็ก

กลุ่มกิจกรรมของชาวค่ายมีทั้งสิ้นสามกลุ่ม ดังนั้นพี่เลี้ยงจึงแบ่งกัณฑ์ต่าง ๆ ในเรื่องพระเวสสันดรชาดกซึ่งเป็นวรรณกรรมที่ปรากฎในสิมวัดศรีมหาโพธิ์ ออกมาให้เหมาะสมกับการแสดงของเด็กทั้งสามกลุ่ม โดยมีรวมเอากัณฑ์ที่สำคัญมาไว้เป็นตอน 3 ตอนให้ครบตามจำนวนกลุ่มเด็ก วิธีการนี้จะช่วยให้เด็กแสดงละครของตนเองได้อย่างมีเอกภาพบนเวทีการแสดงคืนนี้

กลุ่มที่หนึ่ง จัดการแสดงตั้งแต่กัณฑ์ทศพรไปจนถึงทานกัณฑ์ ซึ่งมีเนื่อหากล่าวถึงการจุติของนางผุสดีเพื่อมาเป็นมเหสีของพระเจ้าสัญชัยพร้อมกับพรสิบประการ การแต่งงานของพระเวสสันดรกับนางมัทรี การทานช้างปัจจัยนาเคน การไล่พระเวสออกจากเมืองและเดินทางสู่เขาวงกตเพื่อบำเพ็ญบารมี

กลุ่มที่สอง จัดการแสดงตั้งแต่กัณฑ์จุลพนไปจนถึงกัณฑ์กุมาร ซึ่งมีเนื้อหากล่าวถึงชูชกขอทานผู้สกปรก การได้นางอมิตตดามาเป็นเมีย การกล่าวด่าตำหนิติเตียนของเหล่าเมียพราหม์ต่อนางอมิตดาและการออกไปขอกัณหาชาลีมาเป็นคนใช้ของชูชก ตลอดจนการไปพบพรานเจตบุตร การโกหกพระฤาษีเพื่อหาหนทางไปเขาวงกตและการทานสองกุมารของพระเวสสันดรให้กับพราหม์

กลุ่มที่สาม จัดการแสดงตั้งแต่กัณฑ์มัทรีไปจนถึงนครกัณฑ์ ซึ่งมีเนื้อหากล่าวถึงการขวางทางกลับอาศรมของพระอินทร์ที่กระทำต่อนางมัทรี การลากสองกุมารเข้าเมืองของชูชก การไถ่สองหลานของพระยาสัญชัยและการขบวนเชิญพระเวสสันดรและนางมัทรีกลับมาครองเมือง

เด็ก ๆ แต่ละกลุ่มหลังรับเครื่องมือไปแล้วต่างหาสนามหญ้าสีเขียวงามบริเวณลานหน้าวิหาร บ้างก็จับจองลานริมแม่โขงให้เป็นสตูดิโอสำหรับฝึกซ้อมการแสดง ต่างกลุ่มต่างวางแผนและซักซ้อมกันอย่างขมีขมัน โดยข้าง ๆ กลุ่มมีพี่เลี้ยงคอยดูแลให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด งานนี้เราจะเห็นปฏิสัมพันธ์ที่ดีของเด็กกับเด็ก และปฏิสมพันธ์ที่ดีระหว่างเด็กกับพี่เลี้ยงประจำแต่ละกลุ่มอย่างชัดเจน

แสงแดดอ่อนแรงลงข้างฝั่งทิศตะวันตก บอกถึงเวลาที่เราจะเคลื่อนย้ายเด็ก ๆ กลับสถานที่จัดค่ายแล้วเพื่อเด็ก ๆ อาบน้ำและรับประทานอาหาร ก่อนที่เราจะได้ชมมหรสพที่สร้างสรรค์จากฝีมือการแสดงของพวกเขาเอง เราเหล่าพี่เลี้ยงประจำกลุ่มต่างคอยลุ้นถึงผลงานของเด็ก ๆ ในกลุ่มของตนเองอย่างจดจ้อง พระอาทิตย์ลาลับไปจนวิหารใหญ่วัดมโนภิรมณ์ดูขึงขลังขึ้นมา เด็ก ๆ ต่างทยอยขึ้นรถและสนุกสนานส่งเสียงร้องเพลงตลอดเส้นทาง ซึ่งละครและการแสดงออกช่วยผลักพลังการแสดงออกเด็กได้อย่างดีที่เดียว

Powered by WordPress