พัฒนาการของนักเรียน(แบบ)
การลอกภาพวาดกันของเด็กไม่ใช่เรื่องผิดแต่ประการใดโดยเฉพาะเด็กที่ผ่านโรงเรียนที่ครูใช้คะแนนเป็นตัววัดผลการเรียนของนักเรียน นักเรียนที่วาดรูปได้คะแนนน้อยย่อมหันไปลอกภาพวาดของเด็กที่ได้คะแนนมากเป็นธรรมดา แต่ที่ HUG SCHOOL ครูออตไม่ได้เน้นคะแนนเราจึงมีแนวทางที่จะเปลี่ยนจากเด็กช่างลอกเลียนแบบมาเป็นเด็กนักสร้า้งสรรค์ อย่างเช่นกรณีน้องจิ่นนี่และน้องมิ้น
เด็กทั้งสองคนมีพื้นฐานจากโรงเรียนเดียวกันคือเรียนห้องเดียวกัน ครูสอนคนเดียวกัน มาเรียนที่ HUG SCHOOL พร้อม ๆ กันเพราะผู้ปกครองต่างชวนกันมา เมื่อมาแรก ๆ ทั้งสองคนเปรียบเสมอืนคนคนเดียวกัน ไม่ยอมหนีไปไหนคนเดียว เมื่อจะไปไหนต่อไหน ทำอะไรก็ต้องไปด้วยกันไม่ยอมห่าง รวมทั้งการเรียนศิลปะด้วย
เด็กทั้งสองคนต่างกันตรงที่น้องมิ้นเป็นนักสร้างสรรค์ มีจินตนาการและอดทนมีสมาธิ แม้จะมีเรื่องงอแงมาจากบ้านแต่เมื่อมาถึงห้องเรียนศิลปะน้องมิ้นจะปรับตัวเร็วมากและสนุกสนานในการเรียนศิลปะกับเพื่อน ๆ การวาดการทำงานมากในครั้งแรก ๆ เราจึงเห็นน้องมิ้นทำงานเสร็จเรียบร้อยสวยงาม สร้างสรรค์และของานกลับทุกครั้ง
น้องจินนี่เป็นเด็กหญิงน่ารักพูดน้อย อาการติดเพื่อนเป็นพฤติกรรมแรก ๆ ที่น้องจินนี่แสดงออกให้ครูเห็นนอกจากนั้นการลอกเลียนงานของเพื่อนอย่างน้องมิ้นจึงมีให้ครูออตเห็นบ่อย ๆ เมื่อแรกหากน้องมิ้นวาดปลา น้องจินนี่ก็จะวาดปลา น้องมิ้นวาดบ้าน น้องจิ่นนี่ก็จะไม่วาดอย่างอื่นนอกจากนั้น การลอกเลียนงานน้องมิ้นชัดเจนจนภาพจะกลายเป็นภาพเดียวกัน ส่วนมิ้นเองก็ไม่ได้สนใจว่าใครจะลอกงานของตนเอง ยังคงมุ่งมั่นทำงานต่อไป อีกอย่างที่เห็นชัดคือสมาธิในการทำงานของจิ่นนี่มีน้อย วาดได้นิดก็เหนื่อย ปวดแขน เมื่อยและสารพัดที่อ้าง สุดท้ายก็ขอมานั่งใกล้ ๆ ครูออตและเล่าสรรพเหระตามประสาเรื่องที่น้องจินนี่อยากเล่า
ครูออตเล่าสถานการณ์นี้ให้ผู้บริหารฟังอยู่เรื่อย ๆ และพยายามเปลี่ยนนักลอกเลียนมาเป็นนักสร้า้้งสรรค์ กิจกรรมประการหนึ่งคือการฝึกให้นักเรียนของเราคิดเยอะ ๆ (ที่ไม่ได้หมายถึงคิดมาก) การคิดเยอะ ๆ เท่ากับน้องจิ่นนี่มีทรัพยากรในสมองมาก ๆ ดังนั้นช่วงแรกจึงไม่ได้เน้นที่ภาพขนาดใหญ่แต่ให้วาดบนกระดาษ a4 ไม่เน้นการลงสีแต่เน้นลายเส้น
ที่นั่งระหว่างทั้งสองคน ครูออตก็พยายามเปลี่ยนแปลงให้นั่งตรงข้ามแทนที่จะนั่งเรียงกัน อย่างน้อยก็ลดโอกาสของการเลียนแบบภาพของกันและกัน ซึ่งการเปลี่ยนตำแหน่งการนั่งทำงานก็นับว่าได้มากเพราะทั้งสองคนเปลี่ยนคู่สนทนาเป็นคนอื่นนอกจากเพื่อนตนเอง อิทธิพลส่งผลต่อกันจึงน้อยลงไปมาก
ในการเรียนกลาง ๆ คอร์สเราพบว่าสถานการณ์เปลี่ยนเล็กน้อย แต่อยู่ในความคาดหวังที่ดีของครูเพราะน้องจิ่นนี่มีพฤติกรรมบางอย่างเปลี่ยนไป แม้ไม่ชัดเจนแต่ก็เป็นสถานการณ์ที่ดีขึ้นจากแรกเริ่มเรียน การวาดของจิ่นนี่แม้จะลอกบ้างแต่ก็เป็นการปรับรูปทรงให้แตกต่างเช่นในทะเลน้องมิ้นวาดปลา น้องจินนี่ก็เปลี่ยนเป็นวาดเต่า,น้องมิ้นวาดบ้านน้องจิ่นนี่จะวาดตึก สำหรับครูออตแล้วมันเป็นสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปในทางที่ดี เพราะแม่รูปทรงจะต่างกันเล็กน้อยแต่รอบ ๆ บ้านที่น้องจิ่นนี่วาด มีอะไรต่อมิอะไรมากมาย
สำหรับคอร์สศิลปะเด็กที่โรงเรียนนี้มีจำนวน 12 ครั้งสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายที่น้องจินนี่กับน้องมิ้นมาเรียน และเมื่อมานั่งดูอย่างพิจารณาครูออตพบพัฒนาการของเด็กนักลอกคนนี้ กลายเป็นนักสร้า้งสรรค์อย่างที่เราต้องตะลึง ในชั่วโมงนี้รูปวาดของทั้งสองไม่เหมือนกันเอาเสียเลย มิหนำซ้ำน้องจิ่นนี่ทำงานของตนเองเสร็จก่อนใครเพื่อนในห้อง นี่เป็นปรากฏการณ์ที่ช่วยบอกครูออตว่าน้องจินนี่มีสมาธิมากขึ้นตามลำดับ
(ผลงานในสัปดาห์สุดท้ายของจินนี่)