ลานบ้านชลบถพิบูลย์

ตุลาคม 23, 2011

ศิลปะกินได้?

Filed under: Uncategorized — ออต @ 13:06

เดิมที่เดียวการสอนศิลปะเน้นหนักไปในทางศิลปะปฏิบัติ แต่ทุกวันนี้ครูออตเห็นว่ามีแนวคิดใหม่ ๆ ทีน่าสนใจที่ครูศิลปะนำมาใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือการนำเอาศิลปะมาผนวกกับชีวิตจริงของมนุษย์ อย่าทำให้ศิลปะเป็นแค่งานจิตรกรรม ประติมากรรม แต่ให้เอาศิลปะมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้

ความจริงในวิถีชีวิตคนไทยเราก็ล้วนใช้ศิลปะกับของกินของใช้มาแต่โบราณ เห็นชัดจากการแกะสลักผักผลไม้ให้สวยงามก่อนนำขึ้นสำรับ น้ำพริกปลาป่นสีแดงจากสีพริกป่นก็ตัดกับต้นหอมสีเขียวดูน่าทาน ข้าวต้มมัดสีขาวก็ตัดกับถั่วสีดำทำให้มีสีสันขึ้น นอกจากอาหารการกินจะสวยงามขึ้นและหน้าตาก็น่ากินขึ้น ซึ่งให้ความอุดมไปในทางสุนทรียศาสตร์ แบบนี้เรียกว่าไม่ต้องเรียนศิลปะแต่ก็มีศิลปะอยู่ในตัว
แต่เมื่อเราเรียนวิชาศิลปะและมีกฏเกณฑ์ทางศิลปะเข้ามากำกับ เราจึงถูกแยกศิลปะออกไปจากชีวิต เราถูกสอนมาให้เรียกภาพวาด งานปั้นเท่านั้นว่างานศิลปะ เราแยกข้าวของเครื่องใช้ที่ผลิตด้วยมือกลายเป็นแค่หัตถกรรมหรือดูดีหน่อยก็เรียกมันว่าหัตถศิลป์ แต่สำหรับครูออตแล้วขอเรียกว่ามันคือศิลปะ ในสถาบันศิลปะหลายแห่งมุ่งตรงไปที่ศิลปะสุดโต่งหรือจะเรียกวิจิตรศิลป์ก็มาก แต่เมื่อให้ออกแบบศิลปะสำหรับมนุษย์ใช้พวกศิลปินมักตกม้าตาย ดังนั้นศิลปะสำหรับเด็กสมัยใหม่จึงควรปลูกฝังการใช้ศิลปะในชีวิตประจำวันด้วย

“ศิลปะที่กินได้” อันเป็นหัวข้อของศิลปะในห้องเรียนวันนี้ ครูออตชวนเด็ก ๆ ทำขนมปังในแบบของตัวเองโดยมีแผ่นขนมปังแทนกระดาษ มีแยมแทนดินสอและแทนสี มีกรรไกรและพิมพ์ช่วยตัดและทำรูปทรงต่าง ๆ งานนี้เราเริ่มด้วยการคุยเรื่องขนมปังในแบบที่เด็ก ๆ เคยกิน ตามมาด้วยให้เด็ก ๆ วาดขนมปังที่ตนเองเคยกิน ขนมปังที่ตัวเองอยากกินและขนมปังที่จะทำในวันนี้

เด็ก ๆ ลงมือวาดขนมปังในกระดาษ ซึ่งถือว่าเป็นถอดขนมปังจากจิตนาการ/ประสบการณ์ ออกมาเป็นรูปให้ครูออตดู(ประมวล ทบทวนความรู้เดิมที่เด็ก ๆ มี) เมื่อได้แบบสองสามแบบแล้ว ก็ให้เด็ก ๆ เลือกแบบที่ตัวเองจะทำจริงในการทำศิลปะกินได้ในวันนี้
หลังจากนั้นครูออตสาธิตคร่าว ๆ ในการใช้เครื่องไม้เครื่องมือก่อนที่จะให้เด็ก ๆ สวมผ้ากันเปื้อนและออกไปล้างมือให้สะอาดที่สุดที่ห้องน้ำ ก่อนจะลงมือทำขนมปังในจินตนาการให้กลายเป็นขนมปังที่กินได้ในวันนี้

๑.ในขณะที่ทำ ครูควรสังเกตให้ได้ว่าเด็กจะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไรเพราะขนมปังในกระดาษ กับ ขนมปัง/แยม ของจริงนั้นต่างกัน? เพราะนี่คือการประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงๆ

๒.การทำรูปทรงด้วยพิมพ์เด็ก ๆ จะได้ใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กในการควบคุมแม่พิมพ์ และกล้ามเนื้อมัดใหญ่ในการออกแรงกดแม่พิมพ์เพื่อให้ขนมปังขาดออกจากกัน

๓.เมื่อมีรูปทรงเยอะแยะเด็ก ๆ จะได้ออกแบบว่าจะจัดการวางขนมปังชิ้นเล็กชิ้นน้อยให้ออกมาเป็นขนมปังตามจินตนาการได้อย่างไร นี่เขาจะเรียนวิชาองค์ประกอบศิลป์อย่างไม่รู้ตัว

๔.เมื่อถึงคราวที่ต้องเติมสี ซึ่งเราใช้แยมแทน เราจะพบว่าเด็กต้องออกแรงบีบให้พอเหมาะในการควบคุมเส้นแยมให้ออกมาเป็นเส้นที่สวยงาม ในการออกแรงบีบแบบนี้เองทำให้เด็ก ๆ ใช้ประสาทควบคมการสั่งกล้ามเนื้อมัดเล็กให้ออกแรงมาก/น้อย รวมทั้งสายตาด้วยเพราะแผ่นขนมปังเล็กกว่ากระดาษมากต้องใช้สายตาอย่างดี บีบอย่างระมัดระวัง

๕.การทำงานศิลปะที่กินได้คราวนี้ เด็ก ๆ จะพูดมากไม่ได้เพราะครูออตชี้ชวนว่าเวลาเราพูดออกไป น้ำลายอาจจะกระเด็นทำให้เชื้อโรคกระเด็นไปกับน้ำลาย ไปโดนขนมปังหากคนอื่นรับประทานก็สามารถติดเชื้อโรคร้ายแรงได้ นี่เขากำลังเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ชัด ๆ เลย

๖.ด้วยเครื่องไม้ เครื่องมือมีน้อยและต้องพูดกันไม่มาก ดังนั้นเราจะเห็นการทำงานร่วมกับคนอื่นการสื่อสารกับคนอื่น เราจะเห็นการรอคอย เราจะเห็นปฎิสัมพันธ์ของเด็กต่อเด็กด้วยกัน แบบนี้เรากำลังสอนการอยู่ร่วมกันในสังคมไม่ใช่หรือ ซึ่งไม่จำเป็นต้องพร่ำสอนแต่สอนโดยใช้กิจกรรมศิลปะ

และแล้วผลงานศิลปะที่กินได้ของเด็ก ๆ ก็สำเร็จออกมาใส่จานคนละชิ้นสองชิ้น ใครขยันก็ทำหลายชิ้น บางคนอยากเก็บไปฝากน้องที่บ้าน ครูออตก็เอาจานกระดาษใส่ให้กลับบ้าน บางคนขณะรอคุณพ่อคุณแม่ก็อดกินไม่ได้ก็ให้ถือว่าเป็นอาหารว่างระหว่างรอ หลายคนก็ทานร่วมกับผู้ปกครอง ซึ่งผู้ปกครองที่น่ารักก็ชื่นชมผลงานของเด็ก ๆ เป็นการช่วยครูออตอีกทางหนึ่ง

แบบนี้ถ้าศิลปะถูกนำไปใช้กับหลายที่ หลายเวลา หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการทำห้องนอน การออกแบบเสื้อผ้า การออกแบบสวนครัว การออกแบบสนาม การตกแต่งของใช้สำหรับเด็ก ๆ ก็น่าจะทำให้เรามีศิลปะในหัวใจอยู่ตลอดเวลา เรื่องแบบนี้สอนกันตั้งแต่เด็กแบบนี้ล่ะน่าจะดี

3 ความคิดเห็น »

  1. ครูออตสอนวิธีเรียนวิชาที่ชิมได้ อร่อยๆทั้งน๊านนนนนนนนน อิ

    ความคิดเห็น โดย sutthinun — ตุลาคม 23, 2011 @ 20:16

  2. น่าจะเอาไปลงในหนังสือโมเดลอีสาน อิ

    ความคิดเห็น โดย sutthinun — ตุลาคม 23, 2011 @ 20:17

  3. Like
    และนึกถึงลูกชุบจ้ะน้องออต ทำไมลูกชุบต้องปั้นเป็นผลไม้เท่านั้น เราจะปั้นเป็นรูปทรงต่างๆไม่ได้หรือ สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม ทำลูกเต๋า วงกลมหลากสี หรือห้าเลี่ยม หกเหลี่ยมก็น่าจะดี น่ารักจะตาย อิอิอิ

    ความคิดเห็น โดย น้ำฟ้าและปรายดาว — ตุลาคม 23, 2011 @ 20:51

RSS feed for comments on this post. TrackBack URL

แสดงความคิดเห็น

*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word

Powered by WordPress