มทส. ร่วมสนองพระราชดำริฯในหลวง วิจัยและพัฒนาการประยุกต์ใช้น้ำมันจากพืชในโครงการ ไทไฟโตเลียม ( Thai Phytoleum )
โครงการ ไทไฟโตเลียม ( THAI PHYTOLEUM ) มีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุน การศึกษาวิจัย และ พัฒนา องค์ความรู้ด้านการผลิตพืชน้ำมัน และ การประยุกต์ใช้น้ำมันจากพืช เพื่อสนองความต้องการของมนุษย์ ทั้งในภาคการพลังงานและอุตสาหกรรม ทดแทนน้ำมันจากหินหรือฟอสซิล ที่เรียกว่า ปิโตรเลียม ( PETROLEUM ) งานโครงการนี้จะครอบคลุมตั้งแต่การคัดเลือก และ ปรับปรุงพันธุกรรมของพืชน้ำมัน การคัดเลือกพื้นที่ปลูกที่เหมาะสม การพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสม ในการสกัดน้ำมัน การปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพน้ำมัน การปรับแต่งเครื่องยนต์ การศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการพัฒนาระบบฐานข้อมูลเพื่อการศึกษาวิจัย และ สารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ( Internet ) โดยมีองค์กร และ คณะทำงานประกอบด้วย ภาครัฐ เอกชน และ ประชาชน เข้าร่วมสนองพระราชดำริฯ หลายองค์กร รวมทั้งนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ( มทส. ) ด้วย
วันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม 2544 ซึ่งเป็นวันฉัตรมงคล ได้เวียนมาอีกวาระหนึ่ง ในปีนี้นอกจากปวงชนชาวไทยจะได้ร่วมถวายพระพรชัย เช่นทุก ๆ ปีที่ผ่านมาแล้ว ปวงชนชาวไทยยังได้รับทราบข่าวทั้งทางโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง และสื่ออื่น ๆ ถึงพระอัจฉริยภาพของในหลวงของเราที่ ได้ทดลองนำเอาน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่หาได้ภายในประเทศ มาใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล และพบว่าน้ำมันปาล์มมีศักยภาพใช้แทนน้ำมันดีเซลได้ โดยได้ยื่นจดสิทธิบัตร ไว้ที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาเรียบร้อยแล้ว จากข้อมูลระบุว่าสามารถใช้น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์อย่างเดียว หรือ ใช้ในรูปสารผสมกับน้ำมันดีเซลทุกอัตราส่วนเป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลได้ และเพิ่มกำลังให้กับเครื่องยนต์โดยไม่ต้องดัดแปลงเครื่องยนต์ ระบบส่งน้ำมันหรือติดตั้งเครื่องกรองและอุปกรณ์กำจัดไอเสีย
นอกจากนั้น ในช่วงเวลาสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาเราก็คงได้รับทราบข่าวการใช้น้ำมันพืชชนิดอื่น เช่น น้ำมันมะพร้าวผสมกับน้ำมันก๊าช หรือ น้ำมันปาล์มผสมน้ำมันก๊าซและน้ำมันดีเซล มาใช้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง แทนน้ำมันดีเซล ในหลายจังหวัด เช่นที่ อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และที่ จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นต้น และเรียก น้ำมันผสมนี้ว่า ไบโอดีเซล ( BIODIESEL ) ซึ่งโดยความหมายที่ในต่างประเทศใช้กันนั้นคำว่า ไบโอดีเซล จะหมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการเปลี่ยนน้ำมันจากพืช น้ำมันหรือไขจากสัตว์ หรือ จากสาหร่ายบางชนิด โดยการทำปฏิกริยากับ แอลกอฮอล์ เช่น เอทานอล ( ETHANOL) หรือ เมทานอล ( METHANOL ) ในสภาวะที่มีตัวเร่ง ( Catalyst ) เพื่อเปลี่ยนน้ำมันให้เป็น เอทิลเอสเทอร์ (ethyl ester) หรือ เมทิลเอสเทอร์ (methyl ester) ดังนั้นการเรียกส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าว หรือ น้ำมันปาล์ม กับน้ำมันก๊าซ และ/หรือ น้ำมันดีเซล เพื่อใช้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ดีเซล จึงไม่น่าจะเรียกว่า ไบโอดีเซล ทางกลุ่มคณะวิจัยและพัฒนาของเราเสนอว่า ควรจะเรียกว่า ไฟโตดีเซล ( PHYTODIESEL ) เนื่องจากแตกต่างจากไบโอดีเซลตามที่มีมาตรฐานกำหนดไว้แล้วในต่างประเทศ ไฟโตดีเซล หมายถึง น้ำมันเชื้อเพลิงที่ทำมาจากน้ำมันพืช หรือส่วนอื่นใดของพืช ไม่ว่าจะเป็นพืชชนิดใด ๆ ก็ได้ โดยการนำมาเพื่อใช้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ดีเซลโดยตรง หรือ ผสมกับน้ำมันชนิดอื่นหรือ เติมสารปรุงแต่งบางอย่างลงไป เพื่อให้มีคุณสมบัติใช้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดี ไฟโตดีเซล เป็น ผลิตภัณฑ์ชนิดหนึ่งที่คณะวิจัยและพัฒนาของเราได้มีการวิจัยและพัฒนามาช่วงหนึ่งแล้ว โดยเป็นส่วนหนึ่งของ โครงการ ไทไฟโตเลียม ( THAI PHYTOLEUM ) คำว่า PHYTOLEUM มาจากการนำเอาคำสองคำมาเชื่อมเข้าด้วยกัน คือ คำว่า PHYTO ซึ่งมาจากภาษากรีก แปลว่า พืช ( Plant ) กับคำว่า OLEUM ซึ่งเป็นภาษาละติน แปลว่า น้ำมัน ( Oil ) รวมกันหมายถึง น้ำมันจากพืช ( Oil from plant ) การนำคำว่า PHYTOLEUM นี้มาใช้ จะช่วยสื่อความหมายและกระตุ้นให้ประชากรไทย และ ประชาคมโลก หันมาสนใจพัฒนาพืชน้ำมัน ให้เป็นแหล่งพลังงานทดแทนน้ำมันปิโตรเลียม ที่กำลังจะหมดไปในอนาคตอันใกล้นี้อย่างจริงจัง
อ้างอิง : http://portal.in.th/phytoleum/news/1825/