ความมั่นคงทางอาหาร 32(จำลองนา)

อ่าน: 2576

จำลองนาข้าวที่บ้าน ทดสอบการปลูกข้าวต้นเดี่ยวโดยใช้แหนแดงและปุ๋ยอินที่ย์ชีวภาพ ในภาชนะแบบต่าง หาความเหมาะสมปริมาณดิน/ต้นกล้าข้าวหนึ่งต้น และการแตกกอของกล้าข้าวหนึ่งต้นในพื้นที่จำกัด ดูแลการเจริญเติบโต ศึกษาระบบนิเวศเล็กๆ ดูห่วงโซ่อาหาร ทำความรู้จักกับกองทัพพิทักษ์ต้นข้าว ทับบก ทับเรือและทับอากาศ โอ้ย…มีอะไรมากมายให้เรียนรู้ ทดลองใช้สมุนไพรไล่แมลง และกำจัดศัตรูพืช ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพเป็นอาหารให้ต้นข้าว เอาใจต้นข้าวแต่ละสายพันธุ์ ว่าจะชอบแบบไหน ….แล้วสังเกตุว่าเขาชอบอาหารจานด่วน หรืออาหารไทยปรุงเองกับมือ…อิอิอิ…ชักสนุกแล้วซิ เอาเป็นว่าถ้าอยากรู้ว่าอาม่าปลูกข้าวอย่างไร

โปรดติดตามจากภาพค่ะ โดยดูจากภาพล่างสุด แล้วค่อยๆ เลื่อนขึ้นมาดูภาพบนที่ถัดมาที่ละภาพๆ จนถึงรูปแรก จากนั้นห็เชิญทำตามอัธยาศัยค่ะ

ปัญหาเกิดขึ้นแล้วกับนางเอกของเราเริ่มมีอาการไม่ยอมแตกกอ และใบเริ่มเหลืองค่ะ มาถึงบางอ้อ ก็หนูเป็นสาวแล้วนี่ค่ะ ต้องการที่อยู่ที่ให้มีขนาดใหญ่หนูจะได้แตกกอเพิ่มได้ อยู่ในกาละมังเก่ามันคับแคบไปแล้วค่ะ….อาม่าขอโทษนะที่ย้ายหนูช้าไป… โอ๋ๆๆอย่าประชดหนือประท้วงอาม่านะคะ

พอ ๖๓ วัน มีคนมาเยี่ยมถึงกับพูดไม่ออก ไม่ถามอะไรเลยประเภท…..

พออายุได้ ๕๘ วัน ข้าวหอมดอกมะลิเริ่มออกรวง และพากันตั้งท้องอย่างสบายใจแล้วค่ะ…ดีจังเลยที่เธอพากันรักษาสุขภาพอย่างดีเยี่ยม

พออายุได้ ๔๑ วันเจอเพลี๊ยมากัดกินน้ำเลี้ยงช่อรวงข้าวหอมดอกมะลิ ดังภาพที่เห็น อาม่ากำจัดด้วยชีวะ วิธี เอามือรูดทิ้งค่ะ…อิอิ นี่ถ้าเป็นแปลงนาใหญ่ๆ ใช้วิธีอาม่าไม่ได้แน่ๆ ก็ดอกข้าวมันหอมชวนเชิญแมลงมาตอมช่วยผสมพันธุ์นี่ค่ะ แต่เพลี๊ยมาได้ไงนี่….อย่างนี้ต้องเอาออกๆๆๆๆๆ

เอาลองเข้ามาดูใกล้ซิค่ะ รวงข้าวยังอยู่และข้าวก็แตกกอแตกใบสวยงามค่ะ แต่ท่อซีเมนต์นี้เก็บขังน้ำไม่อยู่ เลยสมมติให้เป็นนาดอนค่ะ โดยให้น้ำทุกวัน แล้วก็แห้งทุกวันเช่นกัน เหมือนปลูกไม้ดอกไม้ประก็แล้วกัน

ผ่านไป ๒๓ วัน ทุกอย่างก็คลี่คลายพากันเจริญเติบโต แตกกอแบบสบายใจ…โดยมีพี่เลี้ยงเป็นนางฟ้าผู้ใจดีก็พี่แหนแดงไงค่ะ

สังเกตุการเจริญเติบโตของต้นข้าวหอมมะลิแดงสี่ต้นในกาละมังสีชมพูปลูกได้ ๒๓ วันแตกกอเป็นต้นละสามกอ

ปลูกข้าวหอมดอกมะลิในท่อซีเมนต์ได้เพียง ๕ วัน เห็นข้าวตั้งท้องรีบออกรวงเล็ก เป็นลักษณะอาการกลัวตายรีบออกรวงให้ ให้มีลูกสืบสกุลค่ะ ตอนแรกก็ตกใจเหมือนกัน เกรงว่าจะเลี้ยงลูกไม่ได้พาลจะตายทั้งต้นแม่…….

เริ่มปักดำข้าวในภาชนะต่างๆ แถวหน้าจากซ้ายไปขวาถัดจากถุงพลาสติกเลี้ยงแหนแดงสองถุง เป็นตระเกรง ปลูกข้าวหอมนิลสองต้น(กล้าถอนจากแปลงนาอายุประมาณเดือนกว่า)ใช้ตระแกรงที่แตกชำรุดใช้การไม่ได้ ใช้ถุงพลาสติกหนาหุ้มตระแกรงให้ใส่น้ำแล้วไม่รั่ว ใส่ดินใส่น้ำทำเทือกเพื่อปลูกข้าวหอมนิลสองต้น ถัดมาปลูกในกระถางดำที่ใช้ปลูกไม้ดอกไม้ประดับธรรมดาหุ้มด้วยถุงพลาสติกด้วยเหตุผลต้องขังน้ำได้ปลูกข้าวนิลหนึ่งต้น มาถึงกาละมังสี่เหลี่ยมสีชมพูนางเอ้กนางเอก ปลูกข้าวหอมมะลิแดงอายุต้นกล้า๗วัน ถัดไเป็นกาละมังเก่าสีฟ้าที่ยังใช้การได้ดีปลูกข้าวหอมนิลสี่ต้น

สำหรับท่อซีเมนต์สองท่อ ใช้ปลูกข้าวหอมดอกมะลิ กล้าที่ใช้ถอนจากแปลงนาสาธิตอายุเดือนกว่าๆ อาม่าตัดใบออกครึ่งหนึ่งลงปลูกในท่อๆ ละ ห้าต้นเผื่อมีอันเป็นไปต้องจากไปในเวลาต่อมาโดยไม่คาดคิด เพราะไม่กล้าข้าวสำรองมาใช้ปลูกแซม ในที่สุดถูกหอยกัดขาดไปกระถางละสองต้น จึงเหลือเพียงสามต้น/ท่อค่ะ


ต้องไปบางกอกซิบอกให้

อ่าน: 2497

๑๔ มิย. ๒๕๕๔

อาม่ามีภารกิจต้องเดินทาง ไปเคารพศพ ร่วมทำบุญและฟังสวดศพ คุณพ่อของลูกเขยที่วัดแคนางเลิ้ง (วัดสุนทรธรรมทาน)

กลางใจเมืองบางกอก ว่ากันว่าบางกอกนั้นรถติดชนิดตังเมเรียกพี่ ยิ่งเป็นช่วงวันปกติ(วันราชการ) นั้นช่วงเย็นนั้นรถติดขนาดไหน อาม่าเคยอยู่บางกอกมาก่อน และชอบตลาดนางเลิ้งมากค่ะ คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ที่มีอาหารอร่อยๆ ให้เลือกกินมากมาย

วันนี้ต้องมานางเลิ้ง จึงวางแผนเดินทางเข้าบางกอกบ่ายโมงออกจากโคราช เพราะไปให้ทันงานสวดตอนหนึ่งทุ่ม และเดินทางกลับโคราชหลังฟังสวดเสร็จ

ก่อน บ่ายโมงหมอแหลม สามีหมอหยกขับรถมารับออกเดินทางเข้าบางกอก แวะเอาเม็ดขนุนไพศาลทักษิณให้หมอหยกไปเพาะขยายพันธุ์เพราะเป็นทางผ่าน ออกเดินทางเข้าเมืองกรุงหมอแหลมเตรียมการเดินทางอย่างดีเยี่ยม อาม่าเองเตรียมข้อมูลจากกูเกิลแมป ข้อมูลตรงกัน เราจะลงทางด่วนที่ยมราชแล้วเข้าหลานหลวง เลี้ยวขวาซอยที่สองก็ถึงวัด โทรฯบอกลูกสาวว่ามาถึงวัดแล้ว ลูกงงมากทำไมมาถึงเร็วจังเลย ลูกบอกว่ากำลังเดินทางจากลาดพร้าวคงจะถึงประมาณ ห้าโมงกว่าๆ

บ่าย สามโมงครึ่งเดินทางมาถึงวัด เป็นอะไรที่เหลือเชื่อมากๆ รถโล่งคล่องตัวอย่างอัศจรรย์ใจมาก ลึกๆในใจอ่าม่ากะว่าจะมาหาอะไรอร่อยกินที่ตลาดนางเลิ้ง พอมาถึงก่อนเวลาอย่างนี้ถือว่า….รีบเข้าไปที่ศาลาเพื่อไปทักทายแม่ของลูก เขยและมอบซองทำบุญ และบอกว่าจะหาอะไรแถวใกล้ๆ กิน เพื่อนที่ช่วยพัยกระดาษเงินกระดาษทองอยู่    รียบอกว่าจะพาชี้ไปทางลัดเข้าตลาดนางเลิ้งแถมบอกว่าเพิ่งกินอะไร ที่นั่นมา ว่าแล้วก็พาอาม่าไปชี้ทางลัด เป็อะไรที่มันเหลือเชื่ออีกแล้ว ของโปรดที่อาม่าอยากกินมากๆ คือใส้กรอกปลาแหนม ที่ไม่ได้กินมานานแล้ว และข้าวแช่ หมีกรอบ สิ่งแรกทีอาม่าทำเมื่อถึงตลาดนางเลิ้งไปทำบุญกราบพระประจำตลาดค่ะ

จากนั้นก็เดินชมตลาดที่กำลังวายค่ะ ได้บรรยากาศไปอีกแบบที่ไม่เคยทำมาก่อนค่ะ

คนนั่งโขกหมากรุกกัน ขณะที่แม่ค้าพ่อค้าคนขายของเก็บของเกือบหมดตลาดแล้วค่ะ

แต่อาหาร และขนมยังคงมีขายอยู่ ขณะทีกำลังถ่ายรูปบรรยากาศในตลาดนางเลิ้งยามเย็น อาม่าโดนถ่ายรูปโดยหนุ่มน้อยคนนี้ค่ะ พอได้พูดคุยกันก็กลายเป็นแฟนคลับกันที่ไม่เคยเจอตัวจริงมาก่อน น้องกันเป็นทีมงานสนุกดอดคอมถ่ายภาพเพื่อทำเรื่องการท่องเที่ยว รีบบอกอาม่าว่าอาม่าอย่าลืมเข้าไปดูด้วยนะครับ

หลังจากเดินหาใส้กรอกปลาแนมเจ้าดังเจ้าเก่าแก่ เจอหมีกรอบ เจอข้าวแช่ และของกินอร่อยๆ อีกมากมาย แวะนั่งร้านเย็นเตาโฟ สั่งของกินมาเพิ่มแล้วเริ่มกินของอร่อยๆ ที่ซื้อมา พออิ่มแล้วก็คิดถึงคนอื่น เลยซื้อของฝากต่ออีกนิดหน่อย มีเมี่ยงลาว ข้าวตังหน้าตั้ง ขนมเปี๊ยะ ข้าวเกรียบข้าวโพด ไม่ลืมซื้อของฝากหนูชินจังและหมอหยก เจออะไรอร่อยๆ ก็อยากให้คนอื่นได้กินบ้างค่ะ หมอแหลมน่ารักมากตามใจอาม่าทุกอย่างแถมเป็นคนหิ้วถุงพะลุงพะลังค่ะ

โชคดีเหลือเกินตลาดวายแล้วแต่มีของโปรดของอาม่ารออาม่าอยู่ ขอบคุณตลาดนางเลิ้ง ที่ทำให้อาม่าได้บรรยากาศเก่า…ได้ภาพบรรยากาศสุดท้ายที่ประทับใจมากค่ะปลูกผักลอยและต้นไม้ฟ้าคะ

สุขใจริงๆ  ..จึงเอาบุญ และความสุขเล็กๆ มาฝากค่ะ


ช่วยกันลดภาวะโลกร้อน

อ่าน: 2246

การช่วยกันคนละไม้ละมือ เพื่อช่วยโลกใบนี้ให้ยืดอายุให้นานที่สุด มีหลากหลายวิธี สุดแท้แก่กาละเทศะ

สำหรับอาม่าเลือกใช้วิธีนี้ค่ะ เลือกใช้พวงหรีดเคารพศพผู้ล่วงลับ ใช้ต้นไม้ค่ะดีๆ เป็นพวงหรีดค่ะ เป็นการสร้างบุญอย่างต่อเนื่องแก่ผู้ล่วงลับ  เพราะต้นไม้จะยังคงเจริญเติบโตต่อไป และสร้างบุญให้สรรพสิ่งที่มีชีวิตอยู่อย่างต่อเนื่อง กระสุนนัดเดียวยิงนกได้เป็นฝูงค่ะ

  • อับดับแรกใช้ต้นไม้แทนพวงหรีดดอกไม้สด แสดงความเคารพผู้ล่วงลับ
  • สร้างความเย็นตาเย็นใจให้แก่ผู้ มาร่วมงานเคารพศพ
  • สร้างจิตรสำนึกถึงโลกที่เราอยู่ร่วมกันอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • เพิ่มออกซิเจน และลดคาร์บอนไดออกไซด์ในช่วงกลางวันค่ะ
  • ช่วยลดภาวะโลกร้อน หากทุกคนร่วมมือใช้ต้นไม้แทนพวงหรีดดอกไม้สด หรือดอกไม้แห้ง
  • ลดขยะ
  • นี่คือตัวอย่างเล็กๆ ที่อาม่าพอจะทำได้ค่ะ

อาม่าจะดีใจมากๆ หากบันทึกนี้จะเป็นประโยชน์ต่อ ลูกศิษย์ เพื่อน พ้องน้องพี่ทั้งหลาย นำไปประยุกต์ใช้ตามความเหมาะสม ในยุคเศรษฐกิจพอเพียง


กิจกรรมปลูกต้นไม้ลดโลกร้อน

อ่าน: 2768

๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๔

กิจกรรมของ ชมรมผู้สูงวัย ศูนย์อนามัยที่๕ ในวันนี้คือปลูกต้นไม้ลดโลกร้อน ผู้นำกิจกรรมวันนี้คือท่านรองประธานฯ กำจัด คุณมานิตย์ คุณลาวัลย์ และทีม

คุณอารี ปรม้ตถาวร ผู้ใหญ่ใจที่ดูแลพวกเรา สว. ตั้งแต่โครงการ ๙ สัปดาห์สู่สุขภาพดี จนถึงปัจจุบันวันนี้มอบเงินให้ชมรมฯ อีกหนึ่งพันบาท ทางชมรมขอขอบพระคุณยิ่งค่ะ นอกจากนั้นยังจัดทีมงานที่ขยัยขันแข็งดูแลใส่ใจชมรมฯ น่าประทับใจมากค่ะ

กิจกรรมประจำเดือน มิถุนายน ของชมรมผู้สูงอายุฯ ศูนย์อนามัยที่ 5 นครราชสีมา คือปลูกต้นไม้ลดโลกร้อน ทางชมรมฯ ได้เลือกต้นลำดวน ซึ่งดอกลำดวนเป็นสัญญลักณ์ของผู้สูงวัย เราตั้งใจปลูกรอบเรือนลำดวนค่ะ ก่อนจะปลูกต้นไม้ อาม่าในฐานะประธานชมรมฯ เอาขนึนมาจากบ้าน ได้แกะขนุนไพศาลทักษิณเตรียมไว้เสริมพลัง หนุ่มน้อย-สาวน้อยผู้มาร่วมกิจกรรม และให้เอาเม็ดไปเพาะไว้ก่อนปีหน้าจะเอายอดมาเสียบค่ะ ส่วนเลขาชมรมฯ คือคนใกล้ตัว อ.แพนด้า ทำหน้าที่ตากล้องประจำชมรมฯด้วยอีกหนึ่งหน้าที่ค่ะ

แกะขนุนเสร็จรีบไปปลูกต้นลำดวนค่ะ

หลังจากปลูกต้นไม้เสร็จก็พักรับประทานของว่าทั้งน้ำขนมและ ขนุนไพศาลทักษิณ หลังจากนั้นเป็นการเรียนรู้การออกกำลังกายที่เหมาะกับผู้สูงวัยด้วยผ้ายางยืด หมอตุ๊ได้มาสอนท่าออกกำลังกาย ส่วน ขา แขน ไหล่ ให้แข็งแรงค่ะ

หลังจากยืดเส้นยืดสายแล้วมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่อง ผัก การปลูกผักชนิดต่างๆ ในช่วงเวลาไหนดีที่สุด ท่านรองประธานฯ กำจัด สุขถาวร ได้กรุณาแจกเอกสารตารางเพาะปลูกที่เป็นประโยชน์มากค่ะ จากนั้นก็ปรึกษาหารือเรื่องจะจัดทัศนศึกษานอกสถานที่งานผลไม้จังหวัดศรีสะเกษ(๑๗-๒๓ มิย.๕๔) กำลังประสานงานเรื่องรถ ซึ่งน้องนาทและน้องปุ๊จะแจ้งตารางจองรถให้ทราบค่ะ กิจกรรมในเดือนต่อไปคือ การศึกษาธรรมชาติ ตกลงว่าจะไปวัดหนองลังกา มีอีกประเด็นกำลังจะทำช่วยเสริมสร้างให้ทางชมรมฯเข้มแข็ง คือเอกสารของขมรมฯ แสดงมีวิสัยทัศน์กฏระเบียบของชมรมฯ แลเชิญชวนผู้สูงวัยทั่วไปมาเป็นสมาชิก เพื่อดูแลสุขภาพให้แข็งแรง โดยปฏิบัติตามหลักสาม อ. ที่เราได้เรียนรู้มา ให้อยู่ดีมีสุขครอบครัวอบอุ่น เพื่อจะได้เป็นพลังเสริมสร้างสังคมให้น่าอยู่ค่ะ


วัฒนธรรม ลูกศิษย์- อาจารย์ที่ปรึกษาจีออ มช.

อ่าน: 1784

วัฒนธรรม ลูกศิษย์- อาจารย์ที่ปรึกษาจีออ มช.

อาม่ากล้าใช้คำว่า วัฒนธรรม เนื่องจากระบบอาจารย์ที่ปรึกษาของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นระบบที่มีมายาวนานกว่า ๔๗ ปี
อาจารย์ที่ปรึกษาทำหน้าที่ดูแลให้คำปรึกษา ตลอดหลักสูตร(สี่ปีอย่างต่อเนื่อง)

ให้คำปรึกษา เรื่องการเรียน: วางแผนการเรียนที่เหมาะสมกับความสามารถ ของนักศึกษา ให้ประสบความสำเร็จ จบการศึกษา ตามกฏเกณฑ์ ของหลักสูตร(สีปี) แต่สามารถใช้เวลาเรียนเต็มที่ถึง แปดปี ภายใต้ข้อกำหนดกฏเกณฑ์

ให้คำปรึกษา : ดูแลช่วยแก้ไข ปัญหาที่เกิดขึ้น นอกเหนือจากการเรียน ที่เกิดขึ้นจากการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยตลอดสี่ปี ตามหลักสูตรปกติ แต่บางคนอาจใช้เวลามากกว่านั้น ก็ต้องติดตามดูแลจนจบหลักสูตรทุกคน บางคนก็แนะนำหรืออนุญาต ให้ย้ายสาขาฯ  หรือคณะฯ ตามความถนัดและความตั้งใจ  ถึงแม้จบการศึกษาในสาขาหรือคณะใหม่ก็ตาม ก็ยังคงผูกพันธุ์กับอาม่าไม่เปลี่ยนแปลง แม้เวลาจะผ่านไปนาน มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เขาแนะนำตัวเจ้าบ่าวว่าจบป.ตรี เศรษฐศาสตร์ อีกแล้วหรือ…อิอิ

อาม่า เคยเป็นเด็กมาก่อนเคย ได้รับการดูแลใส่ใจจากอาจารย์ที่ปรึกษามาก่อน จึงรู้ว่าอะไรที่เราชอบ และเราไม่ชอบ จึงจดจำสิ่งดีๆเอาไว้ และหลีกเลี่ยงสิ่งที่เราไม่ชอบ

มันเป็นกรรมการกระทำของอาม่าที่ทำหน้าที่ตามธรรมชาติ มาโดยตลอด เพราะถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่เคยคิดว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นการเกินหน้าที่ หรือคนอื่นเขาไม่ทำกัน ไม่เคยรู้จริงๆ ว่าคนอื่นเขาไม่ทำเหมือนที่อาม่าทำ อาม่ามีพ่อแม่ แล้ว อาม่าก็มีลูก จึงเอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่อะไรที่จะทำให้พ่อแม่ภาคภูมิใจ และมีความสุขเท่าเห็นลูกประสบความสำเร็จเรียนจบและเป็นคนดี

แต่กรรมสนองอาม่าเข้าแล้ว ลูกศิษย์ในความดูแลของอาม่า ไม่ว่ารุ่นไหน ต่างมีความรักความผูกพันธุ์กับอาม่าเหมือนญาติสนิท เหมือนลูกแท้ๆ ของอาม่า แล้วขยายวงออกไปสู่รุ่นน้องๆ และเพื่อนของลูกศิษย์ เมื่ออาม่ามีโอกาสเข้ามากรุงเทพ ไม่ว่างานอะไร ก็จะมาดูแลจับเป็นตัวประกันเสมอ คราวนี้มางานแต่งงานของลูกศิษย์ ซึ่งอาม่าจะทำเป็นประจำ ถ้าบอกอาม่าจะไป เพื่อไม่ให้เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจกัน จะให้ความสำคัญกับทุกคน จนเป็นที่รู้กัน พองานเลี้ยงแต่งงานจบลง ก็ถูกลูกศิษย์ยึดเป็นตัวประกัน แล้วก็พาไปเที่ยวกลางคืนจนร้านปิด จึงเอาตัวประกันมาส่งบ้าน เราใช้เวลาสองสามชั่วโมงที่มีคุณค่า ในการเล่าสารทุกข์สุขดิบ การใช้ชีวิตและการทำงาน มีการเติมเต็มประสบการณ์ และแลกเปลี่ยนกันอย่างน่าฟังยิ่ง แต่สิ่งหนึ่งไม่เปลี่ยนคือผลัดกันฟ้อง ผลัดกันแซวเป็นเด็กๆ สร้างความสุขให้กับทุกคน เหมือนชาร์จแบตเตอรี่ให้กับทุกๆ คน  พอรู้ว่าอาม่าจะกลับในวันรุ่งขึ้น ป้ออาสาจะขับรถมาส่งถึงโคราช จนอาม่าขอร้องว่าอย่าทำ เพราะให้รินไปรับที่บ้านมาส่งขึ้นรถทัวร์ซึ่งสะดวกอยู่แล้ว ขอให้ทุกคนทำงานตามปกติเพราะเป็นวันทำงาน เอาเป็นว่าตามนี้นะ ออกจะเป็นคำสั่งเด็ดขาด  ทุกคนรู้จักอาม่าดี ยอมปฏบัติตามโดยดี อาม่ารู้ว่าทุกคนอยากทำสิ่งดีๆ ที่สุดให้อาม่า แต่อาม่าจะพิจารณาว่ารับได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานะการณ์ งานนี้เจอลูกศิษย์ จากหลายจังหวัด อุดร เชียงใหม่ นตรปฐม กรุงเทพ และปริมณทล ความสุขเล็กๆ ที่อบอุ่นที่ทำได้ก็แค่นี้แหละ



Main: 0.047093152999878 sec
Sidebar: 0.046100854873657 sec