คิดถึงลมหายใจ

โดย KL เมื่อ August 22, 2008 เวลา 19:59 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา #
อ่าน: 2653

เมื่อวานมีข่าวระเบิดที่ภาคใต้ หลายๆ ท่านคงทราบกันดีอยู่แล้ว ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างสูงกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บด้วยค่ะ แต่ที่จะพูดถึงในบันทึกนี้ ไม่ใช่เรื่องความรุนแรงที่เกิดขึ้น แต่เป็นเรื่องของความไม่แน่ไม่นอนของชีวิตคน

พอดีได้เข้าไปดูวีดีโอของเนชั่นมัลติมีเดีย ได้เห็นวีดีโอเหตุการณ์หลังเกิดระเบิดลูกที่สองเล็กน้อย ในวีดีโอ มีภาพของผู้ได้รับบาดเจ็บณ จุดเกิดเหตุหลายท่าน รวมถึงได้เห็นศพของผู้ที่เสียชีวิตถูกเพลิงใหม้จนดำอย่างชัดเจน

ก่อนหน้าที่จะดูวีดีโอได้เห็นภาพถ่ายขณะยังมีชีวิตของผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้จากหน้าหนังสือพิมพ์ และได้ฟังคำสัมภาษณ์ของผู้สื่อข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ ที่ให้สัมภาษณ์เมื่อคืนวานหลังเกิดเหตุเล็กน้อย เล่าถึงการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ที่เสียชีวิตกับตัวผู้ให้สัมภาษณ์ว่า เพิ่งคุยกันอยู่หยกๆ สนิทสนมกันมากทั้งครอบครัว…

เหตุนี้ทำให้ตัวผู้เขียนเองตระหนักถึงความไม่แน่นอน ความเป็นอนิจจัง ทุกขัง และอนัตตาของสรรพสิ่งจริงๆ

เมื่อครู่ยังคุยกันอยู่ สบายดีอยู่ อีกครู่หนึ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปเสียแล้ว…

——————————-

วันนี้ก็คุยกับแม่เรื่องของน้าที่ป่วยอยู่ ข่าวเพิ่มเติมก็คือ ตอนนี้ก็เข้าโรงพยาบาลอีกแล้ว หลังจากเพิ่งออกมาได้ ๓ วัน เพราะหายใจเกือบไม่ได้ และร่างกายบวมน้ำมาก นับว่าคุณน้ามีทุกขเวทนาสูงมาก หายใจแต่ละครั้งก็ลำบาก นับเป็นวิบากของการดำรงชีวิตจริงๆ

——————————-

หลังจากนั้นก็ฟังธรรมเทศนาของหลวงปู่สิม ทางวิทยุ FM 103.25 ของหลวงตามหาบัวฯ หลวงปู่สิมท่านก็บังเอิญเทศน์เรื่องมรณานุสสติพอดี นับเป็นเหตุการณ์ที่ไม่บังเอิญนัก

ท่านเทศน์ถึงตอนที่พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมกับพระอานนท์โดยถามพระอานนท์ว่า “ดูกรอานนท์..เจ้าคิดถึงความตายวันละกี่ครั้ง” พระอานนท์ตอบว่า “ข้าพระพุทธเจ้า คิดถึงความตายวันละหลายครั้ง พระเจ้าค่ะ” พระพุทธองค์ทรงได้ตรัสตอบว่า “ดูกรอานนท์ การคิดเช่นนั้นยังห่างนัก เจ้าจงอย่าประมาท เจ้าควรคิดถึงความตายในทุกลมหายใจ..”

หลวงปู่สิม ท่านยังได้เทศน์ต่อไปอีกว่า “ให้คิดว่าลมหายใจนั้นก็คืออาหารของกาย” เหมือนกับที่เรารับประทานอาหารเพื่อดำรงชีวิต ถ้าไม่มีอาหารนี้ ชีวิตก็สิ้นไป ดำรงอยู่ไม่ได้..

ผู้เขียนเองก็คิดไปในอีกมุมหนึ่งซึ่งได้ข้อสรุปใกล้เคียงกันว่า ลมหายใจนั้นเปรียบเหมือนอาหารของกาย หากมีแต่ลมเข้าไป มีแต่อาหารเข้าไป แต่ขับถ่ายปฏิกูล หรือหายใจออกมาไม่ได้ ก็ตายเช่นเดียวกัน … (เคยท้องผูกหนักๆ ไหมคะ นั่นแหละค่ะ.. ทรมานไหม ลองคิดดู..)

เราควรจะเจริญมรณานุสสติเข้าไว้ทุกลมหายใจ ดังที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนพระอานนท์ และควรทำในขณะที่เราร่างกายยังแข็งแรง จิตใจไม่โดนวิบากหรือทุกขเวทนาทางกายเข้าครอบงำ เหมือนคุณน้าในเวลานี้ ที่แม้แต่จะหายใจยังลำบาก และเมื่อเวลาของเรามาถึง จิตที่ฝึกมาดีแล้ว ย่อมจะแข็งแรง ไม่หวั่นไหวมีสติมีจิตใจเข้มแข็ง พร้อมเผชิญกับความตายที่จะต้องมาถึงในวันใดวันหนึ่งอย่างแน่นอนได้อย่างสงบ

ไม่มีใครรู้ว่า ตัวเองจะไปอย่างไร สภาพใด และไปเมื่อใด..

ต้องทำตัวให้พร้อม เจริญมรณานุสติอยู่เสมอ

ธรรมรักษาทุกท่านค่ะ

« « Prev : ดีใจกับน้องสอง

Next : หินข้างทาง » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 Sasinand ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 August 2008 เวลา 11:02

    อะไรๆก็ไม่แน่นอน พี่ยึดหลักความไม่ประมาทค่ะ

  • #2 KL ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 August 2008 เวลา 14:25

    ช่วงหลังนี้ได้เห็นอนิจจตาบ่อยมากๆ ปุ๊บปั๊บเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจริงๆ ขนาดพยายามมีสติไม่ประมาท บางครั้งเหตุการณ์ที่คิดไม่ถึงก็ทำให้เราประหลาดใจได้เสมอค่ะ เวลาเจอเซอร์ไพรซ์แล้วต้องตั้งสติดีๆ และทำใจค่ะ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.1246509552002 sec
Sidebar: 0.070791959762573 sec