ไม่เอาเรื่อง
อ่าน: 2630เ้มื่อวานขับรถเข้าไปแถวๆ เพลินจิต ไม่ค่อยได้เข้าไปบ่อยนัก พอมีธุระต้องเข้าไปก็เลยเจอดี โดนชนท้ายเลย
ตอนที่โดนชนก็ตกใจเล็กน้อย แล้วก็คิดว่า เห็นทีจะไปตามนัดไม่ทันเสียแล้ว แล้วเบอร์ประกันของเราเบอร์อะไรหนอ.. แล้วก็ลงมาดูแผลที่ท้ายรถ
รถที่มาชนเป็นรถ pick up ผลลัพธ์ก็คือ bumper สีแตก แต่ไม่ยุบ แต่ดูแล้วคนที่มาชนคงไม่ใช่เจ้าของรถที่ขับมา เขาก็ลงมาดูกับเราพร้อมๆ กัน พร้อมกับชี้ไปที่แผลว่า ไม่เป็นอะไรเลย (แต่สีถลอกและแตก) เราก็ชี้ไปให้ดูว่า สีมันแตกและถลอกนะ พูดจบก็ถอนหายใจหนึ่งที เพราะดูแล้วเขาคงไม่อยากจะชดใช้อะไร แล้วก็เดินกลับไปที่รถ แต่รถติดสัญญาณไฟเยอะก็เลยออกรถไม่ได้ สักแป๊บคู่กรณีก็เดินมาที่ข้างรถ ก็เลยเปิดประตูไปบอกเขาว่า “ไปเถอะ ไป..” พร้อมกับโบกมือ ถือว่าไม่เอาความกัน เพราะถ้าเอาความก็คงจะไม่ได้ความ (อิอิ) แถมเสียเวลา และเสียอารณ์ด้วย
ทำธุระเสร็จ ขับรถกลับบ้าน มานั่งนึกดู..อืมมม สติดีใช้ได้อยู่ อารมณ์โกรธก็ไม่มี อารมณ์เสียก็ไม่ใช่ ใช้ได้ๆ ถือว่าใช้กรรม และเป็นบททดสอบสติ และอารมณ์เป็นอย่างดี เห็นเลยว่าปล่อยวางเป็นแล้ว (ฮ่าๆๆๆ)
เขียนบันทึกเป็น memo ไว้เฉยๆ ไม่มีอะไรมาก แค่อยากบันทึกไว้เท่านั้น ^ ^
7 ความคิดเห็น
[...] “ไม่เอาเรื่อง” ไป [...]
โดนเหมือนกันเลยครับอาจารย์ ตอนติดไฟแดง แต่ของจอมป่วนโดนข้อหาปล่อยรถไหลถอยหลังไปชนหน้ารถเค้า อิอิ
ต่างคนต่างไป แถมเป็นหนี้บุญคุณที่เค้าไม่เอาเรื่องอีกต่างหาก แต่อารมณ์ก็ยังคงดีอยู่ อิอิ
เมื่อรถออกจากบ้านความเสี่ยงก่ทวีมากขึ้น
ยิ่งอยู่ใน กทม. ความเสี่ยงยิ่งทวีคูณ
ดีแล้วครับ ทำดีแล้วครับ
แถวนั้นรถมันติดคนก็ยิ่งรีบ ยิ่งรีบก็ยิ่งขับจ่อ อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากความใจร้อน คือถ้าเว้นระยะก็คงไม่มีปัญหาอะไร อย่างน้อยก็เบรกทัน แต่ส่วนใหญ่คนที่คิดว่ามือแน่มักจะไม่แน่จริงค่ะพี่ เราถือคติ ปลอดภัยไว้ก่อน รีบน่ะรีบ แต่อยากไปถึงโดยสวัสดิภาพมากกว่า
สวัสดีค่ะคุณหมอจอมป่วน
อิอิ ชะตาเกือบเหมือนกัน ดีแต่ว่าเขาไม่ลงมาบอกว่าเราถอยไปชนเขา ^ ^
สวัสดีค่ะพี่บางทราย
ปรกติจะไม่ค่อยได้เข้าไปตรงที่รถเยอะๆ เท่าไหร่ นอกจากจะจำเป็นมีธุระจริงๆ เพราะรถแถวนั้นมักจะติดมากๆ ถ้าเลือกได้ไม่ดึกไปจะใช้บริการรถไฟฟ้า แต่ถ้าเลือกไม่ได้ก็เอารถเข้าไป วันนั้นพอโดนชนแล้วยังคิดเลยว่า ดีนะที่ไม่มีอะไรรุนแรง ^ ^
สวัสดีจ้าศิษย์น้อง
เจ้าคนที่ขับชนดูเหมือนจะเป็นคนขับรถส่งของน่ะ เขาคงรีบเป็นประจำ รถก็ไม่ใช่ของเขา ก็เลยขับจี้มากแบบไม่ยั้งคิดนะ นับเป็นโชคร้ายของเราที่ไปอยู่หน้าเขาพอดีจริงๆ