ไม่มีสิ้นสุด!
อ่าน: 3046รู้สึกว่าเข้าใจคำว่า”ไม่มีสิ้นสุด”ขึ้นมาเฉยๆ
เรียกง่ายๆ ว่า “ปิ๊ง” ก็ได้
ปฏิกิริยาลูกโช่หรือ Chain reaction ก็น่าจะเป็นคำนิยามอีกอันที่ดีสำหรับคำว่าไม่มีสิ้นสุดเหมือนกัน
ทำเรื่องนี้เสร็จ ผลจากเรื่องนี้ จะส่งต่อไปอีกเรื่องหนึ่งทันที แล้วเราก็จะคิดจัดการกับเรื่องใหม่ ไปเช่นนี้เรื่อยๆ โดยถ้าไม่รู้ตัวก็ตกอยู่ในวงจรแห่งทุกข์ในความไ่ม่มีสิ้นสุดนี้
เข้าใจพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เดินเส้นทางนี้มาก่อนหน้า ท่านคงเห็นสิ่งที่ตัวเองเห็นมานานแล้ว..
ความไม่สิ้นสุดนี้ก็คือ อนิจจัง นำมาซึ่ง ทุกขัง และ เป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ มันแทรกซึมอยู่ทุกหัวระแหง ทุกอนู แห่งการมีชีวิตอยู่จริงๆ
การมีสติ ก็เหมือนมีความเข้าใจในไตรลักษณ์ ได้เห็นสัจธรรมในความวนเวียน เวียนวน ไม่จบไม่สิ้นนี้
หากไม่มีสติ ก็จะถูก โลภะ โทสะ และโมหะ พาไปวนเวียนไม่จบไม่สิ้นในวงจรแห่งความไม่สิ้นสุดนี้ เหมือนกับคนรวยที่ไม่เคยพอ คนที่ชอบอำนาจ ชอบตำแหน่ง คนที่ชอบเกียรติยศชื่อเสียง หรือคนที่ติดกับการมีชีวิตที่สุขสบายและดี หรือติดกับ “ความดี” โดยลืมความพอดี ความพอเพียงและสัจธรรมของชีวิต
ที่ร้ายก็คือ วงจรอันไม่สิ้นสุดนี้ บางครั้งคืบคลานเข้ามาในชีวิตประจำวันในรูปแบบที่คาดคิดไม่ถึง ไม่ใช่เรื่องเงินทองมากมาย ไม่ใช่เรื่องตำแหน่งใหญ่โต แต่อาจจะเป็นเรื่องเอาเปรียบเล็กๆ น้อยๆ เช่นเลือกซื้อเฉพาะของดีๆ ให้กับตนเอง งกเล็กๆ น้อยๆ หรือขาดคุณธรรมจริยธรรม ไม่ทำในสิ่งที่ควรจะทำก็ได้ พวกที่มาในรูปแบบเล็กๆ น้อยๆ แบบแทรกซึมนี้แหละที่เป็นตัวอันตราย เพราะตรวจจับได้ยาก
การมีสติ เป็นการหยุดวงจรทางอารมณ์ที่ “ไม่มีสิ้นสุด” เป็นการหยุดโลก ในขณะที่โลกก็ยังหมุนไปตามสภาพของมัน
ธรรมรักษาเสมอค่ะ
5 ความคิดเห็น
มีบาลีคำหนึ่งว่า อนมตคฺเค ซึ่งแปลกันว่า (ในกาล) อันมีเบื้องต้นและที่สุดอันบุคลไปตามอยู่รู้ไม่ได้แล้ว เมื่อแรกแปลนั้น รู้สึกว่าคำนี้ค่อนข้างยากที่จะจำ แต่พอแปลหลายๆ ครั้ง ก็รู้สึกว่ามีข้อคิดบางอย่างแฝงอยู่ในคำนี้…
อนึ่ง เคยเห็นบางท่านนำมาใช้ว่า อนมตัคคธรรม = ธรรมอันมีเบื้องต้นและที่สุดอันบุคลไปตามอยู่รู้ไม่ได้แล้ว
เจริญพร
กราบนมัสการหลวงพี่มหาชัยวุธ
ขนาดอ่านคำแปลที่หลวงพี่แปล อนมตคฺเค มาให้ ยังต้องอ่านหลายรอบเลยค่ะ
คิดว่าพอจะเข้าใจความหมายนิดๆ แต่คงยังไม่ลึกซึ้งเท่าใดนักค่ะ ^ ^
เพิ่มเติม
สืบเนื่องจากที่หลวงพี่มหาชัยวุธ BM.chaiwut ได้ให้ธรรมทานในเรื่อง อนมตัคคธรรม ไว้ ก็เลยทำให้ไปค้น เพราะอ่านๆ แล้วยังงงๆ อยู่ ก็ไปเจอ link ที่ อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท พาลวรรคที่ ๕ ขยายความเข้าใจเพิ่มอีกหน่อย แล้วก็่คลิกต่อไปที่ สํ. นิทาน. เล่ม ๑๖/ข้อ ๔๒๑. ก็ทำให้เข้าใจดีมากขึ้น ดังประโยคที่คัดลอกมาต่อไปนี้ว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ..
ขอบพระคุณหลวงพี่มากค่ะ ^ ^
มาเยี่ยมยามค่ะอาจารย์ขา มาแล้วก็ได้ความรู้และข้อเตือนสติ
การได้ดีทำให้สติกระเจิงมากกว่าการมีทุกข์ การติดดีพาหลงทางจริงๆอย่างที่อาจารย์ว่าค่ะ
กราบนมัสการหลวงพี่ ณ ที่นี้เลยค่ะ
พี่เป็นคนที่แพ้บาลีมากๆ เจอคำเหล่านี้ทีไร หูปิด สมองปิดทุกทีไปไม่รู้ยังไง เห็นทีจะให้อาจารย์เป็นที่พึ่งพาซะแล้ว
มาขอสมัครเป็นลูกศิษย์นะค่ะ ขอให้เป็นอาจารย์ช่วยแปลบาลีเป็นคำสามัญให้เข้าใจง่ายๆกันหน่อยค่ะ
ขอบคุณค่ะ….โอ๊ะ โอ๋ เพิ่งเหลือบไปเห็นข้อความตัวเอง….ข้างบนนะไม่ใช่คำสั่งนะค่ะ….เป็นคำขอค่ะ…..อิอิอิ
สวัสดีค่ะพี่หมอตา
แหะๆ สงสัยจะเป็นที่พึ่งทางบาลียากค่ะ สั่งได้เสมอนะคะ แต่จะทำให้ได้หรือเปล่านั้นอีกเรื่องหนึ่ง ฮ่าๆๆๆ
ตอนนี้ก็ต้องอาศัยหลวงพี่เป็นพระอาจารย์อยู่ แล้วก็ุคุณครูกูเกิ้ล กับพระไตรปิฏกออนไลน์ค่ะ
ขอบคุณที่มาเยี่ยมยามเสมอนะคะ ^ ^