ไม่น่าแปลกใจ

โดย KL เมื่อ January 7, 2009 เวลา 13:01 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา, ครอบครัว #
อ่าน: 2983

มีเวลาอ่านข่าว online หน่อยนึง เจอข่าวเรื่องของเด็กกับผู้ปกครองสองเรื่องที่ทำให้เห็นถึงเหตุและผล ความเป็นไปต่างๆ เรียกว่าได้คิดเยอะเลย
เรื่องแรกคือ “ไอ้หนูมะกัน 6 ขวบพลาดรถเมล์เลยพยายามขับรถที่บ้านไปเรียนเอง

7 มกราคม 2552 06:20 น.

ตำรวจรัฐเวอร์จิเนียเปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า เด็กชายวัย 6 ขวบตนหนึ่งพลาดรถบัสที่จะไปโรงเรียนเมื่อวันจันทร์ จึงนำกุญแจรถไปสตาร์ทรถยนต์ซีดานยี่ห้อฟอร์ด เทนุส รุ่นปี 2548 ของครอบครัว และขับรถ มุ่งหน้าไปทางโรงเรียนในขณะที่มารดายังนอนหลับอยู่ ในที่สุดได้เกิดอุบัติเหตุบนถนนสายที่ 360 เมื่อเวลาประมาณ 07.40 น. ห่างจากเมืองริชมอนด์ไปทางตะวันออก 100 กิโลเมตร ทำให้เด็กชายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า มือใหม่หัดขับคนนี้ขับรถไปได้ไกล 10 กิโลเมตรโดยไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย เขาขับตกขอบถนนหลายครั้ง ก่อนที่ในที่สุด รถจะชนเข้ากับเขื่อนกั้นถนน ขณะอยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณ 2 .5 กิโลเมตร และในที่สุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับรถพาเขาไปส่งที่โรงเรียนในช่วงหลังเที่ยงวัน หลังจากได้ให้แพทย์ที่โรงพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่งตรวจร่างกายของเขาแล้ว ทางตำรวจเปิดเผยด้วยว่าเขามุ่งมั่นมากที่จะไปโรงเรียน พอออกจากรถตำรวจก็เดินเข้าโรงเรียน และว่าเขาไม่อยากพลาดอาหารเช้ากับ วิชาพลศึกษา

ผู้ปกครองคือนางจ๊าคเกอลีน ดีน่า วัลท์แมน อายุ 26 ปีกับนายเดวิด ดอดสัน วัย 40 ปีต่างถูกตั้งข้อหาทำให้เด็กตกอยู่ในอันตราย วัลท์แมนถูกคุมขังโดยไม่ให้ประกันตัว ขณะที่ดอดสันได้ประกันตัวไปในวงเงิน 5000 ดอลลาร์ ( ราวๆ 175,000 บาท) ส่วนเด็กชายตัวต้นเหตุกับน้องชายวัย 4 ขวบ ถูกส่งไปอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่

ส่วนอีกเรื่องคือ ศาลสิงคโปร์จำคุกแม่ใจโหด ปล่อยพ่อเลี้ยงตีลูก100ครั้ง

6 มกราคม 2552 22:26 น.

หนังสือพิมพ์สเตรท ไทม์ส ของสิงคโปร์ รายงานว่า แม่ใจโหดที่ถูกระบุว่า ยืนมองดูลูกชายวัย 10 ขวบ ถูกสามีใหม่ของเธอ ตีไม่ยั้งราว 100 ครั้ง ได้ถูกศาลตัดสินลงโทษแล้ว รายงานระบุว่า หญิงวัย 39 ปี ที่ไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อ ได้ส่งไม้เรียวทำด้วยหวาย 2 อัน ให้สามีของเธอ ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของเด็กชายเคราะห์ร้าย ตีเด็กชายที่เป็นลูกในไส้ ตีที่สะโพก แขนและหลัง นานถึง 2 ชั่วโมง เมื่อวันที่ 15 กันยายน ปี 2550
เด็กชายเคราะห์ร้าย ถูกนำส่งโรงพยาบาลและต้องรักษาตัวนาน 8 วัน และศาลได้ตัดสินจำคุกพ่อเลี้ยงของเขา 9 เดือน ส่วนแม่ของเด็กชาย ถูกตัดสินจำคุก 4 ปี และปรับเงินอีก 4 พันดอลล่าร์สิงคโปร์ หรือราว 9 หมื่น 5 พันบาท ส่วนเด็กชาย ถูกส่งตัวไปยังบ้านพักเด็กที่ถูกล่วงละเมิดและขาดความอบอุ่นแล้ว

แต่ละท่านที่อ่านคงได้ข้อคิดที่แตกต่างกันไปจากเรื่องราว 2 เรื่องนี้ ที่ตัวเองเห็นก็คือเรื่องการลงโทษผู้ปกครองในการไม่ดูแลเด็ก และวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ ที่ต่างจากประเทศไทยออกไป อ่าน 2 เรื่องนี้แล้วก็ไม่แปลกใจในสิ่งที่เห็นรอบๆ ตัวในเมืองไทยและในโลกนี้เท่าไหร่

« « Prev : มาแล้วก็ไป..

Next : ผู้นำควรมี.. » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

6 ความคิดเห็น

  • #1 ศิษย์น้อง ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 January 2009 เวลา 14:46

    ประเด็นข่าวแรกน่าจะเกิดจากการขาดความใส่ใจ เด็ก 6 ขวบยังต้องการคนดูแลใกล้ชิดกว่านี้ ถึงจะมีรถมารับก็ยังต้องคอยดูจนกว่าจะขึ้นรถไป เคยเห็นเด็กอายุราว 5-6 ขวบเดินจากโรงเรียนกลับบ้านเองริมถนนพระราม 4 หลังก็สะพายเป้ใบโตใส่กางเกงแดงแบบเด็กอนุบาล เดินดุ่มข้ามสี่แยกไฟแดงซึ่งอันตรายมากสำหรับเด็ก แต่ก็ไม่รู้ว่า background มันเป็นยังไง เลยไม่สามารถตัดสินเฉพาะหน้าที่มองเห็น เพียงแต่เป็นห่วงเด็กเล็กคนนั้น 

    ส่วนประเด็นสอง แม่คนนั้นเหี้ยมผิดปกติ ตีเด็กหรือลงโทษนั้นมีจุดประสงค์ให้หลาบจำ ไม่ใช่ระบายอารมณ์ เอาไม้เรียวฟาดน่องสองสามทีก็น่าจะเพียงพอแล้ว ใจทำด้วยอะไรกัน กับหลานตัวเองก็จะตีขาหรือก้นสักทีสองทีแล้วก็อบรมกันหนึ่งยก ได้ผลมากกว่าตีให้เขาเจ็บมากๆ แต่ไม่อธิบาย เด็กก็ไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควรเหมือนเดิม

  • #2 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 January 2009 เวลา 20:02

    มันคงเป็นการเตือนว่า  ถ้าสังคมไทยไม่ช่วยกันดูแลกันและกัน  คงจะเจอเรื่องแบบนี้บ่อยๆในอนาคต  อิอิ

  • #3 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 January 2009 เวลา 22:18

    สวัสดีปีใหม่ค่ะ อาจารย์ค่ะ ดีใจที่กลับมาค่ะ

  • #4 KL ให้ความคิดเห็นเมื่อ 8 January 2009 เวลา 20:46

    สวัสดีจ๊ะศิษย์น้อง
    ตอนพี่อ่านเรื่องแรกตอนแรกๆ ก็ค่อนข้างจะประหลาดใจมากๆ ที่เด็ก ๖ ขวบสามารถขับรถได้ ตัวต้องโตพอควร และสังเกตเป็นรู้ว่าขับรถอย่างไร   รู้แต่ไม่มีทักษะประสบการณ์และไม่รู้ consequences และที่สังเกตเห็นภายหลังคือบทลงโทษและเหตุผลของการลงโทษผู้ปกครอง ดูเหมือนแรง แต่ก็สมน้ำสมเนื้อดีอยู่ เห็นความเข้มข้นของตัวบทกฎหมายและระบบของเขาด้วย
    อ่านอีกพัก มาเจอเรื่องที่สอง ซึ่งจริงๆ แล้วบริบทต่างกันมาก แต่ก็มีความเหมือนในเรื่องความไม่รับผิดชอบในบทบาทของผู้ปกครอง ซึ่งควรจะดูแลเด็ก แต่ไม่ได้ทำ ก็เลยโดนบทลงโทษที่รุนแรงมากๆ เช่นกัน
    สังคมไทยคงมีเรื่องประเภทนี้เพิ่มขึ้น ที่เด็กถูกละเลย แต่เรื่องการลงโทษผู้ปกครองยังเห็นไม่ชัดเจน คิดว่าคงจะยังไม่เห็นอีกนาน และผลก็จะส่งถึงเด็กที่จะมาเป็นผู้ใหญ่ในอนาคตนั่นเอง

  • #5 KL ให้ความคิดเห็นเมื่อ 8 January 2009 เวลา 20:49

    สวัสดีค่ะคุณหมอจอมป่วน
    สถาบันครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ จริงๆ ค่ะ เมืองไทยเคยมีสถาบันครอบครัวที่เข้มแข็ง แ่ต่ตอนนี้อ่อนแอลงเรื่อยๆ การที่จะเห็นสภาพเด็กถูกละเลยในรูปแบบต่างๆ คงมีมากขึ้นจริงๆ ค่ะ

  • #6 KL ให้ความคิดเห็นเมื่อ 8 January 2009 เวลา 20:50

    เกือบจำพี่หมอไม่ได้แน่ะค่ะ รูปเท่ห์มากเลย
    สวัสดีปีใหม่เช่นกันค่ะ ^ ^


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 1.0453329086304 sec
Sidebar: 0.22372698783875 sec