ลานบ้านชลบถพิบูลย์

มกราคม 19, 2010

วิกฤตจิตรกรรมฝาผนังอีสาน

ช่วงสัปดาห์นี้มีภารกิจที่ผูกพันมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม นั้นคือหาเรื่องส่งบทความไปร่วมประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่นประจำปีนี้หลังจากปีที่แล้ว กล้าหาญส่งไปและได้รับรางวัลการนำเสนอ มาปีนี้เลยส่งงานวิจัยอีกเรื่องเข้าร่วมประชุมวิชาการในครั้งนี้ และเผอิญได้รับคัดเลือกให้ร่วมนำเสนอด้วย

งานช่วงนี้จึงอยู่ที่การเตรียมสไลด์เพื่อนำเสนอ เมื่อวางรูปลงในโปรแกรมแล้วก็พบว่ามันไฟล์ใหญ่มาก มากจนไม่สามารถส่งไฟล์ทางอีเมลล์ให้แก่องค์การที่จัดการประชุมได้ เหตุที่มันใหญ่เพราะผมบรรจุภาพที่ตะเวนไปถ่ายสิมวัดต่าง ๆ และอยากให้ผู้ฟังเห็นเป็นรูปมากที่สุดเพื่อจะได้เห็นชัด ๆ ว่า จิตรกรรมฝาผนังอีสานเผชิญภาวะวิกฤตอะไรบ้าง

งานวิจัยชุดนี้ไม่ได้เป็นงานท้องถิ่นนิยมแบบสุดโต่งและไม่ใช่งานวิจัยเชิงวิพากษ์ที่จะไปอาจหาญวิจารณ์ใคร ๆ ที่เป็นปัจจัยต่อวิกฤตของจิตรกรรมฝาผนัง เป็นแต่เพียงชี้ให้ผู้สนใจและหน่วยงานที่รับผิดชอบหันมาตะหนักถึงภาวะคุกคามที่มีต่อจิตรกรรมฝาผนังอันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของอีสาน นำภาวะวิกฤตที่ได้จากการศึกษามาวางแผนในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อให้มรดกทางวัฒนธรรมคงอยู่ต่อไปให้นานที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้ อย่างน้อยก็ในชั่วชีวิตของเราที่เราทำได้

ท่านไหนสนใจร่วมงานครั้งนี้สามารถเดินทางไปได้ครับที่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเชตหนองคาย ออตเองขึ้นนำเสนอในวันที่ 21 มกราคม ช่วงบ่าย ๆ อิอิ ขอกำลังใจด้วยนะครับ  สนใจติดตามข่าวสารของการประชุมจัดการประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติ “การพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน” ครั้งที่ 2 คลิ๊กนี่เลย

กุมภาพันธ 3, 2009

คนแซ่เฮ ได้เฮ ในวงวิชาการ

เมื่อเช้าสื่อสารผ่าน MSN กับลุงเอก ท่านทักมา ขอแสดงความยินที่ได้รับรางวัล ผมเองยังงงงง ว่ารางวัลอะไร ท่านย้ำว่า รางวัลผ้าไหมไง เจอคำตอบลุงเอกยกสองยิ่งงไปใหญ่ หรือลุงเอกจำผิดคนหรือเปล่า อุอุ เรื่องนี้คาใจอยู่นาน แต่ใจก็คิดถึงรางวัลหนึ่งแต่ไม่ใช่ผ้าไหมโดยตรงแต่เป็นรางวัลที่ไม่คาดหวังนัก

รางวัลที่ว่านั้น ผมไม่ได้คาดหวัง เพราะผมเองเรียนรู้งานอิงระบบ ไม่ได้อยู่ในระบบข้าราชการ และรางวัลที่เขาให้ก็น่าจะเป็นงานวิชาการ ส่วนผมมันทำงานนอกภาควิชาการ กลายเป็นวิชาเกิน วิชานอกกรอบไป ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจนัก รางวัลที่ว่าคือรางวัลการนำเสนอผลงานวิจัย การพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน ที่จัดโดยมหาวิทยาลัยขอนแก่นเมื่อวันที่ 29-30 มกราคม ที่ผ่านมา

ผมสงสัยขึ้นสมอง จึงโทรไปสอบถามและคำตอบที่ได้ก็แทบไม่น่าเชื่อหู เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่า นายสำรวย เย็นเฉื่อยได้รับรางวัลนำเสนอในกลุ่ม สังคมและภูมิปัญญา อิอิ ตื่นเต้นแต่ออกไปทางจั๊กจี่ เพราะวันที่นำเสนอผมเล่นนำเสนอแบบตลก ๆ ปนฮา ๆ ไม่วิชาการอะไรเลย

ส่วนชาวแซ่เฮอีกท่านนอกจากชื่อและผลงานจะถูกเกริ่นโดยประธานในการแสดงปาฐกถาแล้วยังได้รับรางวัลการนำเสนอประเภทโปสเตอร์นั้นคือ ท่านเล่าฮู ดร.แสวง รวยสูงเนินของเราชาวเฮฮาศาสตร์ งานนี้งานวิจัยท่านได้ดังใหญ่จากการทำนาอินทรีย์แบบไม่ไถ่ของชาวนา ดร.

นี่เป็นข้อดีของการทำงานอิงระบบ ที่ทำให้งานของคนอิงระบบมีทั้งกระบวนทัศน์ที่เป็นวิชาการและกระบวนทัศน์ของงานนอกระบบอันผูกติดกับสังคมและชีวิตผู้คน งานนี้การได้รับรางวัลเช่นนี้ก็น่าจะเป็นแรงผักดันให้ยึดมั่ง เชื่อมั่นในแนวทางของการทำงานอิงระบบได้ดีที่เดียว

Powered by WordPress