คุณภาพไหมสาวมือแบบพื้นบ้าน
ช่วงนี้ออกไปทางวุ่น ๆ กับชีวิตทั้งชีวิตตนเอง ชีวิตครอบครัว และสังคมเมืองไทย ที่กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงและดำเนินไปตามสภาพ งานส่วนตัวกำลังจะทำสตูดิโอทอผ้าจึงต้องเตรียมอาคารเอาไว้ทำให้ไม่มีเวลาจะมาเขียนเรื่องราวอะไรมากนัก วันนี้เลือกเรื่องที่จะมาเขียนออกไปทางพื้น ๆ แต่ทว่าผมว่าจำเป็นสำหรับคนสนใจงานผ้าทอพื้นเมือง
ผู้สนใจผ้าไหมมักเกิดคำถามอยู่ในใจว่าผ้าไหมที่ตนเองสนใจหรือมีไว้ในครอบครองหรือสะสมเป็นไหมชนิดใด เรื่องนี้พอมีชนิดของเส้นไหมมาเล่าสู่กันฟัง โดยปกติเมื่อดังรังไหมออกมาจากสาวด้วยมือแล้ว คนอีสานมักเรียกไหมเป็นหลายชนิดคือ
1.ไหมหลืบ หมายถึงไหมเส้นที่หุ้มอยู่บริเวณผิวรอบนอกของรังไหม ไหมส่วนนี้เส้นใยจะไม่ละเอียด จะมีลักษณะพองฟูหรือมีเศษใบหม่อนเศษไหมติดอยู่ด้วยเนื่องจากอยู่รอบนอกสุด ดังนั้นหากต้องการไหมคุณภาพดีต้องเอาไหมส่วนที่อยู่เปลือกนอกออกมาเสียก่อน ในภาษาอีสานเรียก หลืบ ในการสาวไหมในแต่ละวันแม่หญิงอีสานจะหลืบไหมเอาไว้ให้พร้อมก่อนจะสาวไหมคุณภาพในช่วงต่อไป เส้นไหมจากกระบวนการหลืบไหมนี้จึงเส้นใหญ่ไม่สม่ำเสมอ
2.ไหมน้อย หมายถึงไหมเส้นที่อยู่ในลำดับถัดไปจากการหลืบไหม จะมีเป็นไหมคุณภาพดี เส้นใยมีความสม่ำเสมอ สีเหลืองของไหมพื้นบ้านจะแวววาวและอ่อนนุ่มกว่าไหมหลืบมาก ไหมกลุ่มนี้จึงมีเส้นเล็ก แม่หญิงอีสานเรียก ไหมน้อย ในกระบวนการสาวไหมน้อยนี้ ช่างสาวไหมจะพีถีพิถันมาก โดยเฉพาะการควบคุมคุณภาพของอุณหภูมิน้ำร้อนจากการสาวไหม การเขี่ยรังไหมให้พอดีไม่มากเกินไปและน้อยเกินไป รวมทั้งจังหวะการสาวไหมเพื่อให้เส้นไหมมีความสม่ำเสมอ
3.ไหมแลง หมายถึง ไหมที่สาวตอนเย็นหรือตอนแลง โดยปกติช่างสาวไหมจะสาวไหมน้อยไปในระยะหนึ่งจะไปสาวจนเกือบหมดเส้นใย และจะเหลือกลุ่มเส้นใยที่อยู่ด้านในสุดก่อนถึงดักแด้เอาไว้ เพราะเส้นไหมส่วนที่ติดอยู่กับดักแด้คุณภาพไม่ดีนักเพราะอาจจะมีเศษของตัวหนอนไหมติดมาด้วย นอกจากนั้นยังมีรังไหมคุณภาพไม่ดีช่างสาวจะเอามารวมสาวในตอนสุดท้ายซึ่งโดยส่วนใหญ่ก็จะเย็นมาก จึงเรียกไหมกลุ่มนี้ว่าไหมแลง ซึ่งมีสีและขนาดไม่สม่ำเสมอ
4.ไหมสาวเลย หมายถึงไหมที่มีการสาวลวดเดียวโดยไม่ต้องมีการสาวหลืบ ดังนั้นเส้นใยของไหมสาวเลยจึงมีขนาดใหญ่กว่าไหมน้อย แต่คุณภาพดีกว่าไหมหลืบและไหมแลง โดยส่วนใหญ่ไหมสาวเลยนี้นิยมทำในช่วงที่แม่หญิงอีสานมีเวลาน้อยในการสาวไหม ดังนั้นจึงนิยมสาวเลยโดยไม่ต้องเสียเวลาสาวไหมหลืบ
ไหมแต่ละอย่างนี้ช่างทอผ้าของอีสานจะนำไปใช้ประโยชน์แตกต่างกัน นอกจากเอาไว้ขายซึ่งราคาจะแตกต่างกันคุณภาพของเส้นไหม แต่หากไม่ขายช่างทอผ้านิยมเอาไหมแต่ละชนิดไปใช้ต่างกันดังนี้
ไหมน้อย เป็นไหมคุณภาพดีที่สุดเป็นที่ต้องการ ในการทอจะมีความสะดวกที่สุด กระบวนการไม่ยุ่งยากมากเนื่องจากเส้นไยมีความสม่ำเสมอ ดังนั้นไหมน้อยจึงถูกนำไปทอเป็นผ้าโสร่ง ผ้าสิ่น ผ้านุ่งนาค หรือผ้าที่เตรียมไว้สำหรับ “ของสมมา” ญาติผู้ใหญ่ฝ่ายชายในงานแต่งงาน
ไหมสาวเลย เป็นไหมคุณภาพดีปานกลาง ในการทอจะมีความสะดวกทีสุด กระบวนการไม่ยุ่งยากมากเนื่องจาดเส้นไยมีความสม้ำเสมอดังนั้นไหมสาวเลยจึงถูกนำไปทอเป็นผ้าสิ่น ผ้าขาวม้าหรือผ้าที่เตรียมไว้สำหรับของสมมาญาติผู้ใหญ่ฝ่ายชายในงานแต่งงาน
ไหมหลืบและไหมแลงเป็นไหมคุณภาพไม่ดีมาก ในการสาวแต่ละคราวได้ไม่มากนัก จึงนิยมสะสมไว้เพื่อใช้ทอผ้าขาวม้า หรือทำหัวสิ่น ตีนสิ่น
โห พี่ต้องกลับไปดูแล้วว่าผ้าไหมที่มีเป็นชนิดไหน ไหมที่ทอแบบ 2ตะกรอ 4 ตะกรอ คุณภาพผ้ามีความแตกต่างกันยังไงจ๊ะ และใช้ไหมชนิดไหน
ความคิดเห็น โดย น้ำฟ้าและปรายดาว — พฤศจิกายน 28, 2008 @ 9:20
อิอิ ครับ ต้องดูบ่อย ๆครับ
ความคิดเห็น โดย ออต — ธันวาคม 27, 2008 @ 11:52