วันก่อการดี ๒๔ มีค.๒๕๕๔

อ่าน: 4240

วันก่อการดี ๒๔ มีค.๒๕๕๔ เป็นวันนัดหมาย ตามที่ผู้นำชุมชนบ้านใหม่อุดม ต.บ้านใหม่ ขอความช่วยเหลืออบรมหลักสูตรการเกษตร…ให้พี่น้องในต.บ้านใหม่ อ.หนองบุญมาก โคราชบ้านเอ๋งนะ

คณะผู้ก่อการดีอาม่าเป็นผู้ ชวนฝ่ายมีดีในการฝึกอบรม คือฝ่ายปรับแปลงและถ่ายทอดเทคโนโลยี เทคโนธานี มทส.  ฝ่ายกองหนุน คือชมรมสว.๙ ศูนย์อนามัย๕ พร้อมเจ้าหน้าที่  และกองติดตามจากวุฒิอาสา ฯ.

อบรมที่บ้านใหม่

จัดฝึกอบรมที่ห้องประชุมโรงเรียนบ้านใหม่ไทยเจริญ ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จาก ท่าน ผอ.กุศล เดชวรรณ มาร่วมต้อนรับ ด้วยตัวเองแล้วยังให้รองผอ. สงคราม ผู้เชี่ยวชาญการใชเทคโนโลยี และพร้อมคุณครูอีกหลายท่านมาอำนวยความสะดวกทั้งวัน ตั้งแต่เช้าจดเย็น อาม่าขอขอบพระคุณอย่างยิ่งไว้ในโอกาสนี้ด้วยค่ะ ทุกคนที่เข้ารับการฝึกอบรม ในครั้งนี้ ตั้งใจมากๆ เห็นแล้วชื่นใจ ยกเว้นอาม่าและชมรม สว.๙. ศูนย์อนามัยที่ ๕ บางท่าน  เจ้าหน้ที่ศูนย์อนามัย ลงสำรวจพื้นที่ทั้งตำบล โดยมีคุณจินดาผู้นำชุมชน พาศึกษาสภาพพื้นที่แหล่งน้ำตามธรรมชาติ สภาพดิน สภาพการทำการเกษตร และพบปะกลุ่มอาชีพต่างๆ นอกเหนือทำการเกษตร กลุ่มอาชีพธุรกิจชุมชนทำข้าวตังหน้าหมูหย่องระดับโอท๊อปห้าดาว ที่อร่อยกว่าของร้านเจ้าสัว แน่นอนอาม่าเป็นลูกต้าประจำ นำทีมซื้อทั้งหมด ๗๐๐ บาท  กลุ่มจำลองแกะหินสลักที่ฝีมือสุดยอด อาม่าซื้อผลงานมาหนึ่งชิ้น เป็นจำลองหินแกะสลักสะท้อนวิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง อีกหน่อยใครมาเยี่ยมอาม่าก็จะให้หินแกะสลักชิ้นนี้อธิบายแทนวิถึชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง….

เศรษฐกิจพอเพียง

หลังจากกลับมาร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับผู้เข้ารับการฝึกอบรม ทุกคนชมว่าอาหารอร่อยทุกอย่าง ทำเอาแม่ครัวเป็นปลื้ม เขาไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกค่ะ เกษตรกรที่ปลูกข้าวต้นเดี่ยวที่เข้ารับการฝึกอบรมเมื่อวันที่ ๙ กพ.นี้เอง หลังจากจบการฝึกอบรม เราก็ถ่ายรูปร่วมกัน ต่างคนแยกย้ายกันกลับ ยกเว้นกลุ่ม อาม่าผู้ก่อการดี ที่ต้องไปติดตามผลงานการปลูกข้าวต้นเดี่ยว แล้วจะเอาภาพมาให้ดูแทนคำตอบ

แปลงนาปลูกข้าวต้นเดี่ยว

จากนั้นไปสวนผักหวานของคุณเจริญเป็นที่ถูกอกถูกใจ ชมรมสว.๙ ฯ. เห็นพันธุ์ผักหลากหลายชนิดและผักหวาน ต่างก็ซื้อกันสนุกสนาน แล้วแยกย้ายกันกลับ

พันธุ์ผัก

แต่มีรถเก่งอีกคันที่เดินทางมาจากวังน้ำเขียว ตามมาเพื่อขอพบอาม่า เลยบอกให้ขับรถตามรถ มทส.ซึ่งอาม่ากับทีมงานฝ่ายปรับแปลงและถ่ายทอดเทคโนโลยี ยังมีภารกิจต่อ ไปเยี่ยมสวนมะละกอฮอลแลนด์ต่อ

มะละกอฮอลแลนด์

และในที่สุดกลับมาถึงมทส.ส่ง อ.สถาพร ซ้อนสุข น้องฝน น้องนุช แล้วรถก็มาส่งอาม่ากับหมียักษ์ที่บ้าน แต่รถคันที่ขับตามมา กว่าจะถึงบ้านอาม่าก็มืดค่ำแล้ว เพราะไปรับคุณแม่ที่เดินและช่วยตัวเองไม่สะดวก อายุมาแล้วมาด้วย หลังจากได้คุยกันจนมืดค่ำก่อนจะกลับลำดับความไปมาเป็นญาติเสียแล้ว แม่ของจิ๋วบอกให้นับญาติกันค่ะ เลยได้น้องสาวเพิ่มอีกหนึ่งคน


ความมั่นคงทางอาหาร 13(เมื่อชุมชนขอมา อาม่าก็จัดให้)

อ่าน: 2096

ด้วยความตั้งใจที่จะสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน  โดยน้อมนำหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้ให้สอดคล้องกับ ภูมิสังคม และความต้องการของชุมชน ที่อาม่าในฐานะวุฒิอาสาธนาคารสมอง โคราช ดูแลถึงสี่หมู้บ้าน  จึงมีแผนงานที่จะนำองค์ความรู้ที่เป็นหลักสูตร ในการทำการเกษตรรูปแบบต่างๆ ที่เป็นความต้องการของชุมชนในแต่ละพื้นที่  แต่ด้วยความพร้อมของแต่ละชุมชน แต่ละหมู่บ้านไม่เท่ากัน จึงจำเป็นที่จัดให้ชุมชนที่มีความพร้อมก่อนค่ะ

บ้านใหม่อุดม ต.บ้านใหม่ อ.หนองบุญมาก ซึ่งมีความพร้อมที่สุด อาม่าร่วมกับ ฝ่ายปรับแปลงและ่ถ่ายทอดเทคโนโลยี เทคโนธานี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้นำหลักสูตรต่างๆ ลงไปจัดฝึกอบรมและติดตามผล

การจัดฝึกอบรมมีดังนี้

ครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ ลงไปจัดฝึกอบรมฯ เมื่อวันที่๙ กพ. ๒๕๕๔

ครั้งที่ ๒/๒๕๕๔

หลักสูตรที่จะอบรมวันที่ ๒๔  มีนาคม  ๒๕๕๔
ช่วงเช้า ๑. เกษตรประณีต ๑ ไร่ …..                     ๒. แก๊สชีวภาพ
ช่วงบ่าย ๓. การปลูกผัก ปลอดสารพิษ……..            ๔. การเพาะถั่วงอกอย่างง่าย
พออบรมเสร็จช่วงบ่าย จะไปดูแปลงปลูกข้าวต้นเดี่ยวที่ ลงมือปลูกหลังการฝึกอบรมฯ เมื่อ ๙ กพ. ๒๕๕๔   เพื่อติดตามผล หากมีปัญหาจะได้เก็บข้อมูลนำไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไปค่ะ


อีกครั้งกับ เกษตรประณีต ๑ไร่

อ่าน: 9488

มีคำเรียกร้องจากหลายท่าน “สนใจเครือข่ายเกษตรปราณีต และ ขอคำแนะนำ” อาม่าหลินฮุ่ยขอบอกเลยว่าแค่คิดจะทำเกษตรประณีต อาม่าถือว่าสมัครใจที่ลงมือทำเกษตรประณีต ถ้าลงมือทำถือว่าเป็นเครือข่ายได้เลย อาม่าขอเวลาเรียบเรียง และย่อยข้อมูลให้ทุกคนทำได้ไม่จำกัดพื้นที่
คือการประยุกต์ใช้ นวัตกรรม ของปราชญ์ชาวบ้าน คือ

“เกษตรประณีต”  สามารถสร้างสังคมชนบทให้อยู่ดีมีสุข เน้นสังคมเกษตรกรรมให้เป็นสังคม น่าอยู่ น่าอาศัย สร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างสังคมให้น่าอยู่

เกษตรประณีต ต้องใช้พื้นที่มากน้อยแค่ไหน จึงจะอยู่ได้ อยู่ดี มีสุข คำตอบของเครือข่ายปราชญ์ชาวบ้านอีสาน ที่ทำการศึกษาทดลองจนประสบผลที่เป็นประจักษ์ มีคำตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เกษตรประณีต ๑ ไร่ สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ และอาจมากกว่า จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น หลังจากเหลือกินเหลือแจก ก็เกิดแลกการแลกเปลี่ยน ซื้อขายกันตามความต้องการของตลาดในชุมชน

ผลการศึกษาวิจัย ๑๘ เดือนของ พ่อจันทร์ที ประทุมภา(ปราชญ์ชาวบ้าน)

เก็บข้อมูลพื้นฐานของพื้นที่ ดิน น้ำ ต้นไม้ สัตว์  เก็บข้มูลปุ๋ยคอก เก็บข้อมูลปัจจัยนำเข้า-นำออก(รายรับรายจ่าย) เป็นข้อมูลรายจ่ายในครัวเรือน และรายรับจากการทำเกษตรแบบเดิม ก็จะเห็นรายรายรับรายจ่ายชัดเจน

พิจารณารายจ่าย -อะไรที่ต้องซื้อกินเป็นอันดับแรก แก้ด้วยการลดการซื้อด้วยการปลูกพืชผักทุกอย่างที่ซื้อ เลี้ยงสัตว์ทุกอย่างที่กิน  พูดแล้วมันง่ายนะแต่ความเป็นจริงต้องใช้เวลา และ ต้องมีน้ำ ดิน และปุ๋ย ก็ต้องใช้ความเพียร แล้วก็จดบันทึกทุกอย่างไว้ เมื่อมีน้ำเลี้ยงปลาได้ จะเป็นปลาจากธรรมชาติ(ฟรี) หรือซื้อลูกปลามาเลี้ยง เลี้ยงเป็ดไก่ หมู และ วัวควาย ก็จะได้ปุั๋ยธรรมชาติ เศษผักเศษหญ้าเป็นอาหารสัตว์ และ หมักทำปุ๋ยบำรุงดิน ทำให้มีไม้ผล พืชผักพื้นบ้านและสมุนไพรกินตลอดทั้งปี  ปลูกเพิ่มตามกำลังก็จะเหลือเพื่อเอาไปแจกจ่ายและขาย เป็นพืชผักสมุนไพร  คนในชุมชนคนในครอบครัวได้กินอาหารที่มีคุณภาพปลอดสารพิษ อิ่มท้องนอนอุ่นชีวิตก็เริ่มดีขึ้น หนึ่งปีผ่านไปเหลือกินเหลือใช้ เอาไปขายในตลาดชุมชน รายได้เพิ่ม รายจ่ายแทบไม่มี กลายเป็นมีเงินเก็บ ทำการสำรวจความต้องการของตลาด แล้ววางแผนปลูกพืชผักที่เป็นที่ต้องการ เพื่อขาย เลี้ยงปลาที่ขายได้ทั้งปี ทำอาหารปลาเอง  แค่หนึ่งงานก็พอเพียงอย่าว่าแต่หนึ่งไร่ ข้อสำคัญต้องมีการวางแผน อย่างดีเพื่อให้มีผลผลิตออกมาอย่างต่อเนื่องทั้งปี ไม่ว่าการปลูกผัก เลี้ยงปลา เลี้ยงหมูเป็ดไก่ ส่วนวัวควายไว้ใช้งานและผลิตปุ๋ยธรรมชาติ

ไม่สูตรสำเร็จของการทำเกษตรประณีต ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิสังคม ของท้องถิ่น ให้พิจารณาว่า มีความรู้เรื่องการเกษตรที่พอเพียงหรือยัง กำจัดความไม่รู้ด้วยการเรียนรู้ แล้วแลกเปลี่ยนเรียนรู้ วิธีเรียนลัดก็มีค่ะ เรียนรู้ดูงานคุยกับปราชญ์ชาวบ้าน ดีกว่าการอบรมรมจนกรอบในห้องสี่เหลี่ยม ที่จัดในที่หรููๆ ” ไม่ลอง ไม่รู้ “ นานาจิตตัง ทำอะไรแล้วมีความสุข ใช่เลยเรามาถูกทางแล้วค่ะ

อาม่าตอบเป็นเบื้องต้นแค่นี่ก่อนส่วนเรื่องเทคนิคต่างๆ ก็คงให้ปราชญ์ชาวบ้านตอบให้เป็นกรณีๆ ไปค่ะ


ความมั่นคงทางอาหาร 12 (ทริปเปิลด็อกส์..)

อ่าน: 3152

วันมาฆบูชา สวดมนต์ไหว้พระ แล้วก็ทำบุญด้วยเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิแดง

สืบเนื่องจากการสร้างเครือข่าย เกษตรอินทรีย์ เกษตรประณีตปลูกข้าวต้นเดี่ยว ฯ วันนี้ถึงคิวไปเยี่ยม คุณ ไพสิษฐ์ นาคำ แห่งศูนย์เรียนรู้การเกษตรและสมุนไพรอินทรีย์   ผู้ที่ตั้งใจจะขยายเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ให้เข้มแข็งและยั้งยืน อาม่าจึงนำเมล็ดพันธุ์ข้าวฯ มาให้ในวันมงคล เพื่อให้ความมั่นคงทางอาหารเจริญงอกงามในหัวใจเกษตรอินทรีย์ หลังจากไปดูสวนเกษตรผสมผสาน(ตัวอย่าง)ที่ ไร่สุขนิรันดร ถนนมหาวิทยาลัย ไม่ไกลจากบ้านอาม่า ก็มองเห็นวิสัยทัศน์ของคุณพิสิษฐ์ ที่ทำเกษตรอินทรีย์ ครบวงจร รวมถึงการตลาด ต่างประเทศ และมีประสบการณ์สูง ผ่านวิกฤติมามากมาย เห็นทางรอดความมั่นคงทางอาหารด้วยวิธีการเกษตรอินทรีย์ที่ได้มาตรฐานสากล ซึ่งเป็นที่ต้องการของต่างประเทศ และมีออร์เดอร์พืชอยู่ในมืออยู่แล้ว จึงเห็นสอดคล้องกันว่าเกษตรอินทรีย์ที่เข้มแข็ง นำพาความมั่นคงทางอาหาร เกษตรผู้ผลิตอาหารที่ปลอดภัย จะเป็นเกษตรที่พอเพียงทั้งความรู้ ทั้งความเข้าใจระบบเกษตรอินทรีย์ที่ปลอยภัยและมั่นคงทางอาหารและชีวิต อาม่าเริ่มจะมองเห็นแสงที่ปลายอุโมงค์.แล้วค่ะ ต้องเพียรต่อไป…..

วันนี้ได้ยินเสียงนกกระรางหัวหัวขวาน ร้องต้อนรับ เป็นนกที่สวยมากซึ่งไม่เคยมาก่อนกลับมาหารูปในหนังสือนก จึงรู้ว่าเป็นนกกระรางหัวขวาน แต่ตัวที่เห็นหงอนที่หัวยาวกว่าปกติ และสีออกขาวๆ ปลายแต้มสีดำนิดหน่อย แต่ในหนังเป็นสีน้ำตาล กล้องมีปัญหาอีกแล้วถ่ายรูปไม่ได้ เลยจับภาพนกไม่ได้เบลอไปหมด กล้องมีเสียงร้องปี๊ปๆๆๆ แล้วค้างทำอะไรต่อไปไม่ได้ เป็นอันว่าตวรหารูปมาให้ดู จึงเข้าไปค้นในอินเตอร์เน็ต  เจอนกกระรางหัวขวาน แต่ก็สีหงอนที่หัวทั้งสั้น และสีต่างกับ ตัวที่อาม่าเจอที่มีหงอนสีออกขาวๆ  และยาวคล้ายนกกระกาตั้วของอินโดนิเซีย


จึงนำภาพมาให้ดูหน้านกกระรางหัวขวานทั่วๆไป  ขอ ขอบคณเจ้าของภาพไว้ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

เพื่อความั่นคงทางอาหารเพราะเป็นเวลาเที่ยง หมียักษ์แนะนำร้านก๋วยเตี๋ยวด็อกเตอร์ ที่แถวการเคหะ จึงไปฝากความมั่นคงทางอาหารที่นั่น เจออาจารย์มทส. ที่นั่นอีกคน เลยกลายเป็นทริปเปิลด็อกส์(เตอร์)โดยไม่นัดหมาย ในวันมาฆบูชาค่ะ


ความมั่นคงทางอาหาร 11 (ดอกยอเก้า )

อ่าน: 2384

สืบเนื่องจากการไปศึกษาดูงานที่ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมพวง ของพ่อจันทร์ที ประทุมภา บ้านโนนรัง ต. ตลาดไทร อ.ชุมพวง จ. นครราชสีมา เมื่อ วันที่ ๑๒ กพ. ที่ผ่านมา ด้วยเหตุที่อาม่าเป็นเครื่อข่ายผู้ก่อการดีของที่นี่ มีการแบ่งปันความรักความรู้เสมอมา มาคราวนี้ก็เจอสมุนไพร ที่ต้องไปศึกษาต่อ สมุนไพรตัวที่สองที่ พ่อบอกว่าชื่อ “ยอเก้า” และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่ากินไม่ได้ หน้าที่ผู้ก่อการดีก็แค่หาทางรู้ให้ได้ว่า ยอเก้า มีชื่อว่าอะไร และมีสรรพคุณ มีประโยชน์ทางยา อย่างไรบ้าง อาม่ามีเพื่อนเป็นปราชญ์(กูรู)หลายด้าน จึงใช้วิธีคุยกับปราชญ์ (คุยกับปราชญ์หนึ่งเพลา ดีกว่าไปท่องตำราเป็นสิบปี)
สมุนไพร

หลังจากปรึกษา คุณ Shinobi Sakka (สัมปชัญญบรรพ)ผู้ที่เคยเป็นลูกศิษย์หมียักษ์ในสมัยมาเข้าค่ายวิทยาศาสตร์ที่ มทส.ตอนเป็นนักเรียนระดับมัธยมค่ะ เป็นเพื่อนอาม่าในเฟสบุ๊ค มีความสนใจเรื่องของต้นไม้สมุนไพร เหมือนอาม่าเราเป็นเพื่อนกันนานพอสมควร จึงรู้ว่าอาม่าใช้นามสกุลของหมียักษ์ ก็ยิ่งมีความรักความผูกพันธ์แน่นแฟ้นกลายเป็นศิษย์อาจารย์กัน นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สร้างความมั่นคงทางปัญญาเพิ่มขึ้น ก็ช่วยกันค้นหาข้อมูล จนในที่สุด เราก็ใช้บริการของ แมกโนเลียไทยแลนด์ แหล่งรวมกูรูผู้รู้เรื่องพืชระดับเทพ(รวดเร็วเหมือนเทพ) อาม่าจึงมีเครื่อข่ายเทพด้วยค่ะ อยากรู้อะไรก็ต้องหาเครื่อข่ายที่เป็นกูรูเรื่องนั้นๆ มาช่วยเติมเต็มความรู้ผ่านครือข่าย สังคมออนไลน์ ด้วยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ อาม่าขอขอบคุณ กูรู ทุกๆคนที่ช่วยค้นหาและให้คำตอบ ที่รวดเร็วดุจเทพค่ะ
หลังจากนั้นอาม่าก็ตามไปหาความจริงของเส้นทางชี้แนะของกูรู

ข้อมูลจาก
http://www.thaiherb.most.go.th/
เสนียด

ชื่อวิทยาศาสตร์:

Justicia adhatoda L.

วงศ์:

ACANTHACEAE

ชื่อพ้อง:

Adhatoda vasica (L.)

ชื่อสามัญ:

Adhatoda;Malabar Nut Tree;Vassica

ชื่ออื่น:

กระเหนียด (ภาคใต้);กุลาขาว;บัวลาขาว;บัวฮาขาว (ภาคเหนือ);โบราขาว (เชียงใหม่);โมรา;เสนียดโมรา (ภาคกลาง);หูรา (นครปฐม);หูหา (เลย)

ลักษณะทางพฤกศาสตร์

ลำต้น:

เป็นไม้พุ่มใหญ่ แตกกิ่งก้านก้านสาขามากมายรอบๆ ต้น ลำต้นสูงประมาณ 3 เมตร

ใบ:

เป็นไม้ใบเดี่ยว ขนาดใหญ่ ลักษณะใบเป็นรูปหอก ปลายแหลม โคนใบแหลมสอบ ขอบใบเรียบ พื้นใบเป็นสีเขียว และมีขนอ่อนๆ ปกคลุมอยู่ ขนาดของใบกว้างประมาณ 1.5- 2.5 นิ้ว ยาว3.5-7 นิ้ว

ดอก:

ออกเป็นช่ออยู่ตรงง่ามใบ ส่วนยอดของต้น ช่อดอกจะรวมกันเป็นแท่ง ใบเลี้ยงที่รองรับดอกมีสีเขียวเรียงกันเป็นชั้นๆ กลีบดอกแยกออกเป็นปาก ด้านบนมี 2 แฉกสีขาว ส่วนด้านล่างมี 3 แฉกสีขาวประม่วง เกสรมี 2 อัน

สรรพคุณตามตำรับยาไทย

ส่วนที่ใช้และสรรพคุณ:

ใบ : ใช้ห้ามเลือด หรือเข้ายาหลายอย่างที่เกี่ยวกับเลือดเช่น บำรุงเลือด ฯลฯ แก้ฝี แก้หืด แก้ไอและขับเสหมะ

วิธีทำ/วิธีใช้:
นำเอาน้ำคั้นจากใบสดประมาณ 15 มิลลิลิตร ผลมกับน้ำผึ้งหรือน้ำขิงสดกิน



Main: 0.046202898025513 sec
Sidebar: 0.06401515007019 sec