ความมั่นคงทางอาหาร35(แปลงนาสาธิต)

117 ความคิดเห็น โดย Lin Hui เมื่อ กรกฏาคม 9, 2011 เวลา 22:08 ในหมวดหมู่ ความมั่นคงทางอาหาร, เรื่องเล่าของLin Hui #
อ่าน: 4259

๙ กค. ๒๕๕๔ อาม่าในฐานะวุฒิอาสาธนาคารสมอง จ.นครราชสีมา น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ สร้างความมั่นทางอาหารให้กับ เกษตรกรบ้านใหม่อุดม อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ใช้หลักให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยให้ความรัก ให้ความรู้ ให้ความเข้าใจ อาม่าจัดหาผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องมาให้ความรู้ฝึกอบรมให้ ตลอดปีที่ผ่านมา จนมาถึงวันนี้ สามารถทำแปลงนาสาธิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทุกขั้นตอนมีการเตรียมการอย่างรอบคอบตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ อาม่าได้รับความช่วยเหลือจากน้องต้นกล้า และทีมงานของสยามคูโบต้า มีน้องพงษ์ กับน้องรัตน์ ผู้รับผิดชอบงานสาธิต ๘ จังหวัดในภาตอิสาน มาช่วยทำแปลงนาดำด้วยเครื่อง จัดหาเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ ๑๐๕ ทำการเพาะเมล็ดพันธุ์ในกะบะเพาะ เพื่อทำแผ่นกล้าที่ม้วนขนย้ายได้สะดวกเพื่อใช้กับเครื่องปักดำ โดยกล้าไม่ช้ำ

น้องรัตน์จะอธิบาย และสาธิตการเพาะกล้าในกะบะทุกขั้นตอนอย่างละเอียด จากนั้นก็นำเครื่องปักดำลงแปลงนาเพื่อทำการปักดำให้เกษตรกรดู

ทีมงานของอาม่ากำลังช่วยน้องรัตน์ เอาเครื่องปักดำลงแปลง ใช้วิธีถอยหลังลงค่ะ

ระดับน้ำในแปลงสูงเกินไปต้องระบายออกให้พอดีในการปักดำ ถ้าน้ำมากเกินไปต้นข้าวบางส่วนจะหลุดลอยได้ค่ะ ต้องช่วยปักดำแซม ถ้าเราเตรีมดินให้น้ำแค่ปิ่มๆ หน้าดินก็พอแล้วค่ะ เครื่องปักดำจะทำงานได้สะดวกค่ะ

อ.สงครามอยากลองปักดำดูบ้าง เลยขอเปลี่ยนไม้จากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน

น้องพงษ์เป็นไม้สุดท้ายเก็บรายละเอียดจนเต็มแปลงนา

สร้างความสุขให้เจ้าของนามากค่ะ และรับปากว่าพรุ่งนี้ จะพ่นสมุนไพรป้องกันหอยเชอรี ตามขั้นตอนป้องกันและกำจัดหอยเชอรี และปูนาที่พบอยู่ในแปลงนาค่ะ ถ้าเป็นไปได้ต้องดักไข่หอยเชอรีก่อนปล่อยน้ำเข้าแปลงนาค่ะ หลังจากนี้ หนึ่งอาทิตย์ให้ฉีดสมุนไพรบำรุงรากข้าวให้แข็งแรงจะได้หาอาหารกินทางรากได้เองค่ะ ผลิตภัณฑ์ทุกชนิดจากสมุนไพร ทีมงานอาม่าจัดให้ทั้งหมดตลอดฤดูกาลนี้ค่ะ


ความมั่นคงทางอาหาร 34(แปลงนาสาธิต)

อ่าน: 2214

๕ กค. ๒๕๕๔ แม่แดงเกษตรกร บ้านใหม่อุดม อ.หนองบุญมาก โทรศัพท์มาบอกอาม่า แจ้งข่าวคืบหน้าว่า ฝ่ายแปลงนาสาธิตของสยามคูโบต้าภาคอิสาน จะเข้ามาปักป้ายแปลงนาสาธิตวันนี้ และจะนำกล้าข้าวมะลิ ๑๐๕ ที่เตรียมเพาะไว้ในแผ่นกะบะเพาะกล้าไว้แล้ว พร้อมนำมาปักดำด้วยเครื่องจักรปักดำ ในแปลงนาที่ทางเกษตรกร  เจ้าของนาเตรียมทำเทือกไว้พร้อมสำหรับใช้เครืองจักรปักดำ ซึ่งทางบริษัทคูโบต้านัดปักดำ วันที่ ๙ กค. ๒๕๕๔ เวลา ๙.๐๐ น. บ้านใหม่อุดม อ.หนองบุญมาก ขอเชิญชวนทุกคนที่สนใจทั้งเกษตรและคนทั่วไป ที่สนใจการทำนาอย่างมีคุณภาพ มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันนะค่ะ  และ
กลับมาพัฒนารูปแบบ ระบบการทำนาใหม่ โดยใช้โครงสร้างทางสังคม ของชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชน
ทำนาอินทรีย์ มาดูวิธีการปักดำนา ที่อาม่าและน้องต้นกล้า (คุณสุภชัย ปิติวุฒิ) ชาวนาวันหยุดเป็นคนหนุ่มที่มีความมุ่งมั่นเหมือนอาม่า เพื่อนซี้ต่างวัย ที่ร่วมด้วยช่วยกัน แบ่งปันแลกเปลี่ยเรียนรู้ เพื่อพ้ฒนารูปแบบการทำนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และฟื้นฟูมิติทางสังคมการรวมกลุ่มทำนาแบบลงแขกผสมผสานเทคโนโลยี เป็นการลดต้นทุน เพิ่มผลิต เทคนิคต่างๆ จึงถูกนำมาพัฒนาต่อยอด เพื่อลดค่าใช้จ่าย จึงเริ่มตั้งแต่การใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวอย่างมีประสิทธิภาพ มีการวางแผนเพาะข้าวในแผ่นเพราะกล้า เพื่อปักดำด้วยเครืองจักร ที่กำหนดระยะห่างระหว่างกอและแถวได้ ทำให้นาเป็นระเบียบสะดวกต่อการดูแล กำจัดวัชพืชและแมลง ฯลฯ นอกจากนั้นการใช้แหนแดงคลุมแปลงนา เพื่อป้องกันวัชพืช และเป็นปุ๋ยมีชีวิตช่วยเลี้ยงต้นข้าว และน้ำที่ใช้ในนาปริมาณก็น้อยมาก นอกจากนั้นยังมีวิธีแกล้งต้นข้าว เราช่วยเหลือพึ่งพากันมาตลอด นับตั้งแต่ น้องต้นกล้ามาเป็นสมาชิกของ G2K ต่างคนต่างชื่นชมการทำงานของกันและกัน และแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันมาตลอด ต่างฝ่ายต่างเติมเต็มความรู้ความเข้าใจ จากประสบการณ์จริง อาม่าส่งสารสะกัดสมุนไพรไปให้น้องต้นกล้ากำจัดหอยเชอรรี่ และสารจกำจัดแมลงในต้นข้าว น้องต้นกล้าส่งโรตารี่วีดเดอร์มาให้อาม่าใช้ เป็นสังคมแบ่งปันที่อาม่าชื่นใจมากค่ะ  จึงมีวันนี้ค่ะ วันที่บริษัทสยามคูโบต้ามาช่วยอาม่า ทำแปลงสาธิตนาดำด้วยเครื่องจักร และนำเทคนิคต่างๆ ที่พัฒนามาใช้ในการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่น้องต้นกล้าลงมือเป็นชาวนาวันหยุด และอาม่าก็เป็นชาวนาแปลงจิ๋ว…. มาสอนชาวนาทำนา สอนด้วยการลงมือทำและให้ความรู้ความเข้าใจทุกขั้นตอน อาม่าจะติดตามและรายงานผลให้ทุกคนทราบเป็นระยะๆ ค่ะ


หน้าที่ผลเมือง

2 ความคิดเห็น โดย Lin Hui เมื่อ กรกฏาคม 3, 2011 เวลา 10:37 ในหมวดหมู่ เรื่องเล่าของLin Hui #
อ่าน: 2378

วันนี้อาม่าไปทำหน้าที่ผลเมืองอีกครั้งแล้วค่ะ เพราะเป็นผลเมืองของประเทศไทย เกิดและเติบใหญ่ในประเทศไทย พ่อแม่เลี้ยงดูและปลูกฝังเรื่องความกตัญญรู้คุณ โดยเฉพาะการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินเกิด อาม่าเองเคยใช้ชีวิตในต่างแดนเป็นช่วงๆ ตั้งแต่วัยเรียน วัยทำงาน และวัยสูงอายุ(เป็นการท่องเที่ยวระยะสั้นๆ) สำหรับอาม่าแล้วขอบอกได้เลยว่าไม่ที่ไหนอยู่ได้อย่างสุขสบายเหมือนกับอยู่ใน ประเทศไทย ถ้าเราไม่ไยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่ไร้คุณธรรมจริยธรรม แม้จะเคยโดนขโมยยกเค้าหมดบ้าน ทรัพย์สินเงินทอง(ส่วนใหญ่เป็น ทองเพชรพลอยเครื่องประดับที่มีค่า กำปั่นแต่งงานที่ได้ตอนแต่งงานทั้งหมดมูลค่าหลายล้าน) ตำรวจก็มากันเต็มบ้าน มาตรวจร่องรอยและรอยนิ้วมือ ทำท่าคึกคักขึงขัง แล้วก็หายไปจนถึงทุกวันนี้

ก็คิดแบบง่ายๆ ว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าเรามีของมีค่า ทั้งๆเราก็ไม่เคยใช้ของมีค่าให้ใครเห็น เพื่อนๆที่เชียงใหม่ตกใจมากว่าทำไมเก็บของมีค่าไว้ที่บ้าน……มันเสียหาย ไปแล้วพูดอะไรก็แก้ไขไม่ทัน ต้องปลอบโยนเพื่อนๆว่าไปเสียใจเลย……อาม่าเองยังไม่เสียใจเลยเพราะถึงมี ก็ไม่ได้ใช้….เสียดายไหมเสียดายค่ะ เป็นเครื่องเพชรที่แม่ให้ ญาติให้ มันสำคัญ…..แต่ก็คิดได้ว่าไม่มีก็ดีไม่ต้องกังวลใจ เพียงแต่ต้องจดจำไว้ไม่ลืม…….หวังพึ่งตำรวจนั้นลำบากค่ะเพราะทำงานหนัก มากค่ะ

วันนี้ไปเลือกตั้ง ความผิดพลาดแบบเดิมๆ ที่มันเกิดขึ้นกับหน่วยเลือกตั้ง แต่ครั้งนี้มันเห็นได้ชัดเพราะคนออกมาเลือกตั้งมากจริงๆ….ซึ่งไม่เคยเกิด ขึ้นมาก่อน ความผิดพลาดง่ายๆคือป้ายหน่วยเลือกตั้งเอาไปติดไว้ในห้องใต้อาคาร ซึ่งต้องเข้าไปถึงก่อนแล้วจึงเห็น แทนที่จะติดตั้งที่ปากทางเข้าหน่วยเลือกตั้งซึ่งอยู่ที่โล่งใครเห็นก็จะรู้ ว่าหน่วยที่ตัวเองจะไปลงคะแนนอยู่ที่นี่ ไม่ใช่ไปเข้าแถวรอยาวเยียดโดยหารู้ไหมว่าไม่ใช่หน่วยที่ตัวเองมีชื่ออยู่ เพราะเป็นอีกหน่วยที่อยู่ติดกัน ทำให้วุ่นวายมาก

อีกอย่างคือเจ้าหน้าที่มากเกินความจำเป็น เฉพาะโต๊ะที่เซนต์ชื่อรับบัตรเลือตั้งใช้ถึงห้าคน ทั้งที่คนที่ทำงานหนักมากคือคนที่หนึ่งตรวจชื่อ,บัตรประชาชนให้ตรงกับหมาย เลขลำดับที่ที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง พร้องต้องเซ็นต์รับรองว่ามาใช้สิทธิ์แล้ว จึงให้ผู้มาเลือกตั้งลงลายมือชื่อในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์ จากนั้นมีคนที่สองคอยจดหมายเลขลำดับที่มาใช้สิทธิ์ในแผ่นกระดาษเล็กๆ ตามที่คนที่หนึ่งบอก จากนั้ไปรับบัตรเลือกตั้งเขตที่คนที่สาม ต้องเซ็นต์ชื่อรับบัตร  ถัดไปเซ็นต์ชื่อรับบัตรเลือกตั้งพรรค(ปาร์ตี้ลิสท์)กับเจ้าหน้าที่คนที่สี่ คนสุดท้ายคือคนที่ห้า ทำหน้าที่พับบัตรเลอกตั้ง…….ห้าคนทำหน้าที่แค่จ่ายบัตรเลือกตั้งให้กับ คนหนึ่งคน  ถ้าเป็นหน่วยเลือกตั้งที่มีคนน้อยๆ ก็ไม่ค่อยมีปัญหา แต่วันนี้เห็นแล้วคงมีปัญหาแน่ๆ เพราะคนมาใช้สิทธิ์มากเกินความคาดหมาย


ความมั่นคงทางอาหาร 33(พึ่งพากัน)

อ่าน: 13083

โครงการความมั่นคงทางอาหาร นอกจากเราจะต้องอนุรักษ์เมล็ดพันธุ์พืชพื้นบ้านแล้ว ต้องหมั่นเอามาขยายพันธุ์ให้มากพอ และแจกจ่ายให้เกษตรกรในชุมชนที่เข้าร่วมโครงการนำไปใช้ปลูกเพื่อกิน และกระจายแบ่งปันเพื่อนเกษตรกรต่อๆ ไป จะทำให้พันธุ์พืชพื้นบ้านไม่สูญายหายไปจากท้องถิ่น

อาม่ามีความพยายามที่จะช่วยเปลี่ยนเกษตรกรเคมี มาเป็นเกษตรอินทรีย์แบบค่อยเป็นค่อยไป ทีมงานอาม่านั้นศักยภาพสูง เราทำงานร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดกับเกษตรกร เอาปัญหาของเกษตรกรมาศึกษาวิเคราะห์ แล้วแก้ปัญหาเป็นขั้นเป็นตอน ส่วนใหญ่เกษตรกรที่เคยชินกับการใช้สารเคมีจะใจร้อน มักจะทำแบบเดิมๆ …อ้างว่าไม่มีเวลา……นี่คือปัญหาหลัก แต่เราก็ไม่ย่อท้อทำให้ดูและช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด ให้เกษตรกรที่ให้ความร่วมมือ เมื่อผลผลิตออกมาแล้ว….นั่นคือคำตอบ อาม่าบอกเสมอว่าให้ผลงานแทนคำพูดเถิด คนเราไม่เหมือนกันสอนคนที่เราสอนได้ก่อน….

ผลสรุปของทีมงานหลังจากลงมือทำงานศึกษาวิเคราะห์แล้ว ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานพอสมควร  จึงตกลงกันว่าต้องผลิตสารจากสมุนไพร ที่มีประสิทธิ์ภาพ แทนสารเคมีที่เกษตรกรใช้ ทุกชนิด ตอนนี้ทีมงานพร้อมแล้ว ตั้งแต่ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ ที่มีคุณภาพเหมาะกับพืชแต่ละชนิด และแต่ละช่วงอายุ ปริมาณการใช้น้อยมาก/ไร่ ต้นทุนต่ำมาก  ได้ผลผลิตไม่ต่ำกว่าการใช้สารเคมีเป็นอย่างน้อย สารสมุนไพรกำจัดโรคพืช แมลงศัตรูพืช ตลอดจนสารสมุนไพรกำจัดหญ้าแต่ละชนิด ผลพลอยได้คืออนุรักษ์จุลินทรีย์สิ่งมีชีวิต คืนระบบนิเวศน์เล็กๆ และคืนระบบห่วงโซ่อาหารกลับคืนสู่ ท้องไร่ท้องนาเกษตรอินทรีย์ ชีวีก็มีสุข และที่สำคัญที่สุดเป็นมิตรกับธรรมชาติสิ่งแวดล้อม แน่นอนที่สุด ปลอดภัยต่อชีวิตรเกษตรกร

เมื่อวานทีมงานไปพบกับน้องต้นกล้า(สุภชัย ปิติวุฒิ) ชาวนาวันหยุด คนดังเกษตรอินทรีย์ผสมผสานเทคโนโลยีแห่ง G2K

เช้าวันนี้น้องต้นกล้ารายงานอาม่าดังนี้ค่ะ
“จัด rotary weeder ฝากไปกับหมอหยก กับหมอแหลมแล้วครับ ขอบคุณอาม่า สำหรับชุด จัดการหอย และเเมลงในเเปลงนา กับสารอินทรีย์ชีวภาพ ครับ จะลองเอาไปใช้ และแจ้งผลให้ทราบครับ”

Large_img_3294

Large_img_3069

อาม่าเลยส่งสารสกัดสมุนไพรไปให้น้องต้นกล้ากำจัดหอยเชอรี่และปูนา ไม่อันตรายต่อสัตว์เลี้ยง และเกษตรกรค่ะ


น้ำใจ

อ่าน: 2742

ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน

เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น อาม่ารีบไปรับสาย เพราะคนที่จะโทรฯมาเบอร์นี้ คือญาติๆ ลูกๆ และเพื่อนสนิทจริงๆ ที่จะคุยนานจะได้ประหยัดค่าโทรฯ..อิอิ พอได้ยินเสียงก็ดีใจเพราะเป็นเจ้าประจำที่โทรฯ มาหา เรื่องของเรื่องคือเป็นเพื่อนวุฒิอาสาธนาคารสมองโคราชด้วยกัน ชอบพออัธยาศัยกัน นิสัยคล้ายๆกัน เป็นนายช่าง(ผู้หญิง) รพช.เก่า ไปมาหาสู่เป็นประจำ เมื่อกลางกุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ เธอปรึกษาเรื่องการรักษามะเร็งเต้านม ที่เธอเพิ่งทราบจากการไปตรวจที่โรงพยาบาลมหาราช   หมอบอกให้ตัดออกทันที่รอไม่ได้แล้ว เธอขอเวลาทำใจ เธอจิตตกมากโทรฯ มาปรึกษาอาม่า ซึ่งปกติก็จะปรึกษาเกือบทุกเรื่อง ตั้งการปลูกพืชปลอดสารพิษ เรื่องการรักษาสุขภาพด้วยการกินอาหารที่เหมาะกับร่างกายวัยแและจิตใจ อาม่าพอมีข้อมูลการรักษาโรคภัยไข้เจ็บของแพทย์ทางเลือกในปัจจุบันที่ก้าวหน้าไปมาก ซึ่งมักมีผู้คนที่เคารพนับถือเอาหนังมาให้อ่าน ประกอบกับการค้นคว้าช้อมูลเพิ่มเติม ก็พอจะทราบวิธีการรักษาแบบต่างๆ และได้พูดคุยกับคนที่รักษาตัวด้วยวิธีนี้รอดชีวิตมาก็หลายคน(มะเร็งขั้สุดท้าย)

อาม่าเข้าใจความรู้สึกของเธอดี จึงพูดคุยให้เธอสบายใจ แล้วก็เล่าเรื่องดีๆให้ฟัง หาข้อมูลแพทย์ทางเลือกที่รักษาโรคมะเร็งในสภาพต่างๆให้ฟัง พร้อมทั้งให้ข้อมูลชื่อหมอ พร้อมเบอร์โทรศัพทย์ เพื่อจะได้คุยกันก่อน  และให้หาข้อมูลการรักษาของแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งเธอมีหลานที่เป็นหมอทำงานที่รพ.มหาราช เพื่อให้มีข้อมูลจากหลายๆ แหล่ง ข้อมูลจากหลานซึ่งเป็นหมอ เป็นประโยชน์มากเพราะค้นหาข้อมูลระบบการรักษาทั้งของต่างประเทศและในประเทศ แล้วสรุปความคิดเห็นว่า น่ารักษาด้วยแพทย์ทางเลือก และเอาข้อมูลทางการรักษาแพทย์ทางเลือกมาให้ดู   ซึ่งตรงกับข้อมูลอาม่าที่มีอยู่ อย่างน้อยที่สุดมีเสียงสนับสนุนตรงกันทั้งสองฝ่าย และด้วยความบังเอิญพี่อ้อยซึ่งเป็นสมาชิกชมรมผูสูงอายุฯ เป็นเพื่อนนักเรียนสุรนารีกับเธอ พอทราบข่าว พี่อ้อยพาไปพบหมอที่อาม่าเคยบอกไว้ทันที่ เธอตัดสินใจรับการรักษาตามแพทย์ทางเลือก และทำการรักษาตัวอย่างเคร่งครัดครบสามเดือน ตอนนี้เป็นการรักษาขั้นที่สี่แล้ว ไปไหนมาไหนได้ตามสบาย แต่ต้องดูแลเรื่องอาหารอย่างเคร่งครัด อาม่าขอสารภาพความจริงว่า อาม่าไม่คยไปเยี่ยมเธอที่บ้านแม้แต่ครั้งเดียว อาม่าใช้วิธีโทรศัพท์หาเธอเป็นระยะๆ ตลอดมา เวลาเธอจิตตกก็จะโทรฯมาบอกว่าจิตตก อาม่าก็หาวิธีทำให้เธอหายโดยหันเหความไม่สบายใจ โดยชวนคุยในเรื่องดีๆ สนุกๆ จนได้ยินเสียงหัวเราะ

เมื่อวานเธอโทรฯ มาบอกว่าจะมาหา เธอมาพร้อมของฝากที่เป็ผลไม้ที่อาม่าชอบมาก สละสองช่อใหญ่ๆ ไม่พูดพร่ามทำเพลงเธอแกะสละทั้งสองช่อจนหมดเก็บใส่กล่องสองกล่องใส่ตู้เย็น ทีเหลืออาม่ากินคนเดียว เพราะเป็นข้อห้ามของเธอ เธอจำได้ว่าอาม่ากลัวสละและปอกไม่เป็นแต่ชอบกิน และมีต้นสละตัวเมียโดดเดี่ยวที่บ้านด้วย อาม่าทำอาหารเย็นให้เธอกิน เราคุยกันจนมือค่ำ ความสุขเล็กๆ ที่แบ่งปันให้กัน เธอช่างมีน้ำใจจริงๆ เธอบอกว่าอยากมาหาให้เห็นด้วยตาจริงว่าเธอมีสุขภาพเป็นอย่างไร เราไม่คุยเรื่องนี้เลย กลายเป็นคุยเรื่องราวสนุกๆ จนเพลินค่ะ นี่แหละน้ำใจ การรักษาใจเป็นหัวใจในการรักษากายค่ะ



Main: 0.085186958312988 sec
Sidebar: 3.0546538829803 sec