เชิญเยี่ยมชมวิธีการปลูก “ดอกคิดถึง” ของผมครับ

9 มิถุนายน 2009 / 1 ความคิดเห็น » / โดย สายลมครับ

อ่าน: 2413

วันนี้เป็นวันพิเศษสำหรับผมอีกหนึ่งวันครับ 

จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้พิเศษอะไรมากมายหรอกครับ  ก็เหมือน ๆ กับทุก ๆ วัน เพียงแต่ว่าวันนี้มีความพิเศษคือผมมีโอกาสได้มานั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์แล้วก็มาเล่าเรื่องอะไรต่อมิอะไรที่ไร้สาระให้ทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนบ้านน้อยหลังนี้ครับ

  

วันนี้มีเรื่องมาเล่าครับ เป็นเรื่องที่อยากจะเล่ามาสักพักนึงแล้วครับแต่ไม่มีเวลา วันนี้เลยถือโอกาสซะเลยครับ แฟน ๆ คงไม่ว่ากันนะครับ 555555

  

ต้นเดือนพฤษภาคมที่แล้วผมได้ “หัว” มาหัวนึงครับ  อิอิ ไม่ต้องกลัว อย่าคิดไปไกล .. เป็นหัวของดอกไม้ชนิดหนึ่งครับตอนคนขายเค้าขายให้ เค้าบอกชื่อแล้วครับผมจำไม่ได้ ชื่อเป็นภาษาปะกิตยาว ๆ นิดนึง ผมเห็นดอกของต้นนี้แล้วชอบมาก ๆ ครับ เลยซื้อมาเพื่อที่จะปลูกไว้เชยชมเอง อิอิ 

  

เนื่องจากผมจำชื่อจริง ๆ ของเจ้าดอกไม้ชนิดนี้ไม่ได้

ผมจึงขอตั้งชื่อแบบเหมาเองเองครับว่าเป็นต้น “ดอกคิดถึง” นะครับ

เพราะตอนที่ผมจะซื้อเจ้าดอกคิดถึงนี่มา ผมได้เห็นดอกของเจ้าต้นนี้จากต้นตัวอย่างที่เจ้าของปลูกโชว์อยู่หน้าร้าน ทำให้ผมคิดถึงใครคนหนึ่ง  คนที่ผมรักที่จะเรียกเค้าว่า “ดวงดาวดวงนั้น” ผมคิดเองเออเองว่า ถ้าเค้าได้มีโอกาสเห็นช่อดอกของเจ้าต้นดอกคิดถึงที่ผมปลูก  ดวงดาวดวงนั้นคงจะมีความสุขไม่น้อย 

  

  

เอาเป็นว่าวันนี้จึงขอแนะนำวิธีการปลูกเจ้า “ดอกคิดถึง” ด้วยวิธีการของผมเองนะครับ

1. เตรียมเจ้าหัวของต้น “ดอกคิดถึง” ล้างให้สะอาดแล้ววางใส่ภาชนะทิ้งไว้สักครู่

2. เตรียมภาชนะที่จะใช้ปลูก  ซึ่งผมคิดว่าไม่จำเป็นต้นหากระถามที่สวยงามอะไรให้เสียเวลา ผมใช้ถ้วยแก้วใบเก่า ๆ และ ขวดน้ำพลาสติกใส ๆ ตัดครึ่งไว้เพื่อเตรียมที่จะปลูก  สาเหตุที่ผมไม่ปลูกในกระถางที่สวย ๆ งาม ๆ เพราะผมเชื่อว่า ดอกไม้จะสวยและงามได้นั้นขึ้นอยู่กับการดูแลและเอาใจใส่อย่างทะนุถนอมของเจ้าของเอง และดอกไม้ก็มีคุณค่าและความงดงามอยู่ในตัวของเค้าเองอยู่แล้วครับ เพราะฉะนั้น “กระถาง” สำหรับผมถือว่าเป็นเปลือกภายนอกที่ไม่จำเป็น 555

3. ดินที่จะปลูก ตอนที่ซื้อมาเจ้าของร้านเค้าบอกว่าให้ปลูกลงในดิน แต่อย่าให้ดินกลบจนหมด ปล่อยให้ครึ่งหนึ่งของเจ้าดอกคิดถึงอยู่ในดินและอีกครึ่งโผล่อยู่บนดิน  อิอิ และทั้งนี้ทั้งนั้น เนื่องจากผมเลือกวิธีที่สะดวกที่สุดสำหรับผม ผมจึงเลือกทดลองปลูกลงในดินวิทยาศาสตร์ซึ่งหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายต้นไม้ดอกไม้ครับ

  

(รูปนี้อายุการปลูก 14 วันแล้วครับ สังเกตใบเขียว ๆ กำลังงอกครับ)

  

และแล้วผลงานก็ออกมาเป็นอย่างที่เห็น

แม้ว่าวิธีการของผมนั้นอาจจะไม่เป็นที่ถูกใจสำหรับคนที่รักและชื่นชอบดอกไม้หลาย ๆ คน แต่ผมก็อยากจะบอกว่า สำหรับผม การปลูกเจ้าดอกคิดถึงของผมนี่ คุณค่าอยู่ที่หัวใจครับ คุณค่าอยู่ที่ความรู้สึกและความรู้สึกที่ว่าคือ  หากดวงดาวดวงนั้นของผมมีโอกาสได้เห็นเจ้าดอกคิดถึงที่ผมปลูก  ดวงดาวดวงนั้นคงจะมีความสุขไม่ใช่น้อยเลยล่ะครับ  ถึงอย่างไรหากดวงดาวดวงนั้นไม่สามารถที่จะรับรู้ถึงความงามของเจ้าดอกคิดถึงของผม  อย่างน้อยความสุขของเจ้าดอกคิดถึงก็ได้เบ่งบานขึ้นในหัวใจของผมอย่างเงียบ ๆ แล้วล่ะครับ อิอิ

  

ข้อแนะนำหลังการปลูก  … 

ควรทักทายเจ้าดอกคิดถึงทุก ๆ ครั้งเมื่อมีโอกาส  อาจเป็นช่วงตอนเช้า ๆ อากาศดีดี หรือช่วงเย็นหลัง

เลิกงาน  พูดคุยกับเค้าบ้างนะครับ เจ้าดอกคิดถึงจะได้ไม่เหงาและจะเจริญเติบโตได้ดีและแข็งแรง

ควรสังเกตการเปลี่ยนแปลงของดอกคิดถึงในทุก ๆ วัน แล้วคุณจะเห็นถึงความมหัศจรรย์แห่งชีวิต

รวมทั้งความมหัศจรรย์ของความสุขจะค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไปในหัวใจของคุณแน่นอนครับ

  

ขอบคุณครับ

นายสายลม  อักษรสุนทรีย์

……………………………………..

คำสำคัญ: , , ,




ถึงเธอที่รักของฉัน ( ในสนามรบแห่งชีวิตของเธอ )

22 พฤษภาคม 2009 / 3 ความคิดเห็น » / โดย สายลมครับ

อ่าน: 3179

เธอที่รักของฉัน  ในดงขวากหนามแห่งสนามนักสู้ของวิถีชีวิต  ฉันรู้ว่ามันไม่ได้ราบเรียบและลื่นไหลดั่งที่ใจของเธอคิด  บนท้องถนนแห่งการต่อสู้นั้นกราดเกลื่อนไปด้วยซากศพและร่องรอยร้าวแห่งการต่อสู้ และเธอก็คือหนึ่งในนักรบของสนามรบแห่งชีวิตของเธอเอง  และแน่นอนที่สุดบาดแผลซึ่งเป็นผลจากการต่อสู้ของเธอในแต่ละครั้ง  แต่ละแผลล้วนฝังเขี้ยวเล็บของความทรงจำที่มิอาจมาโอสถขนานใดมาเยียวยารักษาให้เลือนหายไปจากร่างกายและจิตใจได้

  

แต่นั่นแหละ  ในกาลเวลาข้างหน้าของเธอที่รักของฉัน  กาลเวลาข้างหน้า บาดแผลเหล่านี้จะกลับกลายเป็นยาวิเศษ เป็นโอสถทิพย์ที่ใช้หล่อเลี้ยงร่างกายและจิตใจของเธอ  เป็นแรงพลังให้เธอที่รักของฉันได้ใช้เติมต่อสู้ในสนามแห่งชีวิตที่เพี้ยนบ้าแห่งโลกใบนี้  หากความคิดของฉันไม่ได้ผิดเพี้ยนไป  ฉันขอให้เธอยิ้มรับกับบาดแผลเหล่านี้อย่างเต็มความภาคภูมิ  เปรียบเหมือนว่าเธอที่รักของฉันได้รับเหรียญตราแห่งการต่อสู้ ได้รับถ้วยรางวัลจากการแข่งขันจากสังคมสีครึ้มมัวแห่งนั้น

เธอที่รักของฉัน  ทุกบาดแผลของฉันและเธอล้วนมีเรื่องราวให้จดจำ  และเธอจะมีความสุขและภูมิใจมากที่สุดใน  ณ  วันหนึ่งข้างหน้า  วันที่เธอได้มีโอกาสบอกเล่าเรื่องราวที่มาของบาดแผลของเธอให้กับเหล่าบรรดานักสู้ที่กำลังแสวงหาสนามประลองเพื่อพิสูจน์ความสามารถของตัวเขาเอง  เรื่องเล่าจากบาดแผลของเธอนั้นจะมีคุณค่าต่อนักสู้หน้าใหม่เหล่านั้น  เขาจะใช้มันเป็นรอยทางเพื่อที่จะก้าวเดินต่อไปในวันข้างหน้า  และถ้าวันหนึ่งวันนั้นมาถึง  เธอที่รักของฉัน  เธอจะได้รับการคารวะจากเหล่าบรรดานักสู้เหล่านั้นอย่างหมดหัวใจ 

  

เราทุกคนที่ดิ้นรนอยู่ในสนามนักสู้แห่งชีวิตแห่งนี้  ล้วนมีริ้วรอยและบาดแผลจากการต่อสู้อย่างหนักหน่วงมาด้วยกันทั้งสิ้น  หากเพียงแต่สนามรบ  รูปแบบวิธีการรบ  และสหายร่วมรบ ล้วนแตกต่างกันออกไป แต่ที่ฉันอยากจะย้ำเตือนเธอที่รักของฉันว่า  ขอเธอจงอย่าได้ลืมสหายร่วมรบ  เพื่อนร่วมทุกข์กับเธอในยามยาก  ถึงแม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้ร้องขอ  เธอที่รักของฉันจงสำนึกไว้ว่า ความยากลำบากในรอยทางแห่งชีวิตคือเครื่องพิสูจน์คุณค่าแห่งมิตรแท้  ในวันข้างหน้าเมื่อเธอได้ก้าวเดินถึงที่ที่เธอที่รักของฉันวาดหวังไว้  ขอเธอจงอย่าลืมหันหลังกลับมาส่งมือที่หยาบกร้านของเธอฉุด ดึง และกุมมือของเหล่าบรรดามิตรแห่งสงครามชีวิตนี้เพื่อที่จะให้เขาเหล่านั้นได้มีโอกาสก้าวยืนในจุดที่เธอยืนอยู่ในวันนั้น

 

เธอที่รักของฉัน  สำหรับฉัน  ทุกทุกบาดแผลที่ได้มาล้วนสร้างให้ฉันเป็นตัวฉันเองในวันนี้  วันที่ไม่มีอะไรสามารถที่จะมาเหยียบย่ำและลดทอนคุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์ของฉันได้  บาดแผลบางแผลของฉันอาจมีประโยชน์ต่อเธอไม่วันใดก็วันหนึ่งข้างหน้า  วันนี้ขอเธอจงกุมมือที่หยาบกร้านของฉันให้แน่น  ฉันจะฉุดดึงเธอขึ้นจากร่องรอยแห่งความพ่ายแพ้ในวันที่เธอล้ม  ฉันอยากเห็นเธอที่รักของฉันก้าวเหยียบและยืนได้อย่างสง่างามในสนามรบแห่งชีวิตของเธอ

เธอที่รักของฉัน   ขอเธออย่าได้กลัว  เพราะในทุกสนามแห่งการต่อสู้ ล้วนมีบาดแผลเกิดขึ้นได้เสมอ

                                                                                   สายลม  อักษรสุนทรีย์


คำสำคัญ:




ลำนำ ปล่อยฝันไปตามฟ้า

21 พฤษภาคม 2009 / 2 ความคิดเห็น » / โดย สายลมครับ

อ่าน: 2098

นานแล้วที่ผมไม่ได้พร่ำรำพันบทกวี ทั้ง ๆ ที่ชื่นชอบเป็นชีวิตจิตใจ  และนานแล้วที่ผมเองหลงลืมการจารจดหยดฝันจากความรู้สึกที่แน่นลึกอยู่ท่วมท้นให้ออกมาเป็นตัวอักษร  ด้วยความรู้สึกลึก ๆ ในวันนี้ ผมจึงขอปล่อยอารมณ์ล่อง ท่องไปตามสวนพฤกษาแห่งความรู้สึกของผม เกี่ยวเก็บเป็น “ลำนำ” ไร้ซึ่งท่วงทำนอง ไม่มีแม้จังหวะจะโคนที่สวยงาม 

  

ปล่อยฝันไปตามฟ้า

เที่ยวท่องล่องนภา

ฟ้าสีครามโอบรอบเอว

…………………………………………..

  

ใช่สินะ ก็เพราะความรัก ที่ทำให้ชีวิตของคนเราทุกคนก้าวเดิน ความรักเป็นพลังให้ไขว่คว้าในทุก ๆ สิ่ง ความรักทำให้คนเราเกิดความทะยานอยาก และความรักก็เป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับเราทุกคน  พลานุภาพของความรักไร้ซึ่งมาตรวัดใด ๆ ในจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้จะสามารถมาประเมินค่า  เราทุกคนล้วนต้องการความรัก แต่ความรักของแต่ละคนนั้น “ไม่เหมือนกัน”

  

ในนามของความรัก

คือ

อิสระและเสรี

……………………………………….

  

นักกวีหลาย ๆ ท่านได้กล่าวไว้ว่า  “แม้ตัวเรากับคนรักจะอยู่ห่างกันสุดขอบโลก แต่อย่าลืมว่าอยู่ใต้ฟ้าเดียวกัน”  นั่นคือความจริงที่สุด และจริงที่สุดสำหรับฉันและเธอที่ความหมายนั้นแตกต่างออกไป ในรอยต่อของช่วงระยะเวลากลางวันและกลางคืน นั่นคือเสี้ยวหนึ่งที่เราจะได้พบกัน

  

หากท้องฟ้าวันนี้มืดสนิท

ระหว่างเธอกับฉัน

คงเหมือนกับกลางวันและกลางคืน

……………………………………..

  

ในนามของความรัก

หากฉันคือพลังที่หล่อเลี้ยงสรรพชีวิตที่มีอยู่บนโลก

เธอคือลมหายใจของสรรพสิ่ง

………………………………..

ในนามของความรัก

ในห้องหัวใจของฉัน

มีเจ้าของคือเธอ

…………………………………………

  

ในเส้นทางเดินของแต่ละชีวิต ล้วนมีหน้าที่ที่แฝงอยู่และฝังลึกจนทำให้ตัวเราเองมองไม่เห็น คือหน้าที่ของความเป็นมนุษย์ เราถูกบดบัง ปิดกันด้วยหน้ากากทางสังคม และเป็นมายาภาพที่ยากยิ่งต่อการที่จะเอาชนะ มีเพียงอาวุธชนิดเดียวเท่านั่นที่สามารถทำลายคราบเปลือกแห่งสังคมนี้ได้คือ “ความรัก”

  

ระหว่างความรักและความคิดถึง

ความหมายอาจแตกต่างกัน .. สำหรับฉัน

เพราะรัก จึงเติมต่อด้วย ความคิดถึง

……….

  

มีดวงดาวอยู่บนท้องฟ้านับล้านล้านดวง

แต่มีอยู่ดวงเดียวเท่านั้น

ที่เราพยายามเอื้อมมือคว้า

………

  

เธอที่รักของฉัน

เธอเห็นสายลมนั้นไหม

ไร้ตัวตน แต่รู้ว่ามี

……….

  

ในความงดงามของความรัก

หากว่าฉันมีโอกาสได้กุมมือเธออีกสักครั้ง

ฉันจะไม่ยอมปล่อยมือเธอ นิรันดร์

……….

  

จากเพื่อจบ

เจ็บเพื่อจำ

ซ้ำเพื่อลืม

………………………………………………………………

  

อักษรสุนทรีย์

คำสำคัญ: ,




ความสุขหน้าตาเป็นแบบเนี๊ยะ : โครงการสานฝันสร้างกำลังใจให้น้องผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งครับ

5 พฤษภาคม 2009 / ไม่มีความคิดเห็น » / โดย สายลมครับ

อ่าน: 2348

โครงการสานฝันและสร้างกำลังใจให้น้องผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็ง ที่บันทึกนี้ครับhttp://gotoknow.org/blog/day4dream0001/257791

 

ขอเชิญผู้มีจิตอันเป็นกุศล

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ

สานฝัน แบ่งปันกำลังใจให้น้อง ๆ ผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็ง

วันเสาร์  ที่ 9 พฤษภาคม 2552 นี้ที่  ตึก 3ง. โรงพยาบาลศรีนครินทร์  จ.ขอนแก่น

กิจกรรมเริ่มเวลาประมาณ  09.30 น. เป็นต้นไปครับ

หลังจากที่พี่น้องชาวบล็อกรวมตัวกันจัดกิจกรรมดีดีนี้ขึ้น

มีพี่ๆ ใจดีได้สานต่อความรักส่งความฝันมาฝากน้อง ๆ มากมาย จากทั่วทุกสารทิศ

ซึ่งทำให้ผมตื้นตันหัวใจเป็นที่สุดเลยครับ 

 

ขอบพระคุณสำหรับทุกกำลังใจที่พี่ ๆ เพื่อน ๆ ป้า ๆ น้า ๆ อา ๆ กัลยาณมิตร ได้สานฝันสร้างกำลังใจที่ส่งมาให้น้อง ๆ ได้มีความสุขกันถ้วนหน้าครับ

 

และนี่ก็เป็นหนึ่งตัวอย่างกำลังใจที่ผมได้รับมา เป็นกำลังใจที่ผมไม่เคยรู้จัก เป็นกำลังใจที่ช่วยให้ความฝันของน้อง ๆ เป็นจริงโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว 

 

ความฝันนี้ได้รับจากที่นี่ครับ

http://mblog.manager.co.th/leelawadee2u/th-60370/

พี่ใจดีคนนี้ใช้ชื่อในบล็อกว่า leelawadee2u 

กราบขอบพระคุณสำหรับสิ่งดีดีที่พี่ส่งมาร่วมโครงการฯ เพื่อน้องผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งครับ

 


 

มาดูกันครับว่า ความสุขมีหน้าตาเป็นยังไง อิอิ

…………………………………………………

ความสุข…มีหลายรูปแบบ

การส่ง…และรับความสุขก็สามารถทำได้หลายรูปแบบเช่นกัน

และการส่งความสุขครั้งนี้ของเจ้าบ้านนั้น

นอกจากความคาดหวังที่จะให้ผู้รับในครั้งนี้มีความสุขแล้ว…

เจ้าบ้านยังพลอยมีความสุข…กับการส่งความสุขในครั้งนี้

การส่งความสุขที่ผ่าน…บุรุษไปรษณีย์

 …………………………………………………………………………………….. 

ความสุข…หน้าตาเป็นแบบนี้…

 

  

แบบนี้…

 

 

แบบนี้…

 

และ…แบบนี้

 

 

 

กำลังบรรจุความสุขลงกล่อง…

 

 

 ความสุขพร้อมส่งไปยังปลายทางแล้วครับผม !


  

แล้วพบกันวันที่ 9 พฤษภาคม 2552

ที่ตึก 3ง โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ของแก่น

กิจกรรมเริ่มเวลาประมาณ 09.30 น.เป็นต้นไปครับ

กิจกรรมนี้น้อยนิด แต่ มหาศาล ครับ .. อิอิ

ขอบคุณคร้าบบบบบบ

……………………………………………………………..

 

 

คำสำคัญ: , , ,




ไม่เหมาะกับผู้ก่อการร้าย แต่จะขอเชิญผู้ก่อการดีทำกิจกรรมดีดีร่วมกันครับ

27 เมษายน 2009 / 1 ความคิดเห็น » / โดย สายลมครับ

อ่าน: 2066

ขอเชิญผู้มีจิตอันเป็นกุศล

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ

สานฝัน แบ่งปันกำลังใจให้น้อง ๆ ผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็ง

ณ  วันที่ 9 พฤษภาคม 2552 นี้ที่  ตึก ง. โรงพยาบาลศรีนครินทร์  จ.ขอนแก่น คร้าบบบบ

กิจกรรมเริ่มเวลาประมาณ  09.30 น. เป็นต้นไปครับ

 

น้อง ๆ จะได้พบกับ กิจกรรมที่เรียกเสียงฮา สร้างความสุขสนุกสนานให้กับน้อง ๆ ไม่ว่าจะเป็น

การเล่นนิทานให้น้อง ๆ ได้ชมจาก คณะนิทานออมสินอาสา ( อิอิ ตั้งมาเฉพาะกิจเพื่องานนี้โดยเฉพาะครับ)

กิจกรรมวาดรูปสร้างความสุขเติมวัคซีนให้ชีพจรความฝันของน้อง ๆ ได้เข้มแข็ง

แจกกระปุกออมสินให้น้อง ๆ เอาไว้ออมหัวใจให้แข็งแรงและชุ่มชื้น
แจกตุ๊กตา และ ของเล่นให้น้อง ๆ ได้ใช้จินตนาการเพื่อเติมต่อความแข็งแรงให้กับภูมิคุ้มกัน

และกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมาย

 

 

ขอเชิญสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับน้อง ๆ ผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งด้วยกันนะครับ

ใครมีตุ๊กตา ของเล่น  หนังซีดีการ์ตูน สมุดวาดรูประบายสี

หรือจะร่วมบริจาคเป็นเงินช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการรักษาก็ยินดีอย่างยิ่งครับ  

หรืออื่น ๆ ที่คิดว่าเมื่อเด็ก ๆ ได้รับแล้วมีความสุข ช่วยเพิ่มกำลังใจสานต่อชีวิตของน้อง ๆ

ให้แข็งแรงและยืนยาวขึ้น  ก็ขอเชิญเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมดี ๆ ในครั้งนี้กันนะครับ 

 



 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

089-7157297  มะเดี่ยว นายสายลม  อักษรสุนทรีย์ ครับ หรือ

 http://gotoknow.org/blog/paula-story/257573?page=1  คุณพรหล้า แห่งชาวหน้าตาดี

http://gotoknow.org/blog/cancernurse/257559  พี่แก้ว อุบล จ๋วงพานิช บล็อกเกอร์สุดจ๊าบ

http://gotoknow.org/blog/deang2009  พี่แดง แห่ง รพ.ศรีนครินทร์

http://gotoknow.org/profile/kai_jazz  พี่ไก่ ประกาย

 

แล้วทุกท่านจะได้เข้าใจคำว่า

น้อยนิด แต่ มหาศาล  ยิ่งใหญ่เพียงไหน

  

ขอบคุณคร้าบบบบบบบบบ

 

ตุ๊กตาหมีตัวนี้คุณป้าหมอสุถักเองกับมือเพื่อมอบไว้ให้เป็นกำลังใจกับน้อง ๆ ผู้ป่วย

และยังบอกอีกว่าจะส่งตามมาให้อีกหลายตัวเลยครับ กราบขอบพระคุณอย่างสูงครับ

 

คำสำคัญ: , , , , ,




ไผเป็นสายลม

25 มีนาคม 2009 / ไม่มีความคิดเห็น » / โดย สายลมครับ

อ่าน: 1811

      Pic_0017

ใช่ครับ .. เมื่อผมกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง ผมก็จะได้กรรมสิทธิ์ในความเป็นมนุษย์ของผมกลับคืนมา

หลังจากที่ผมได้เรียนรู้ตลอดเส้นทางเดินของชีวิตที่ผ่านมา  เมื่อมองย้อนกลับไปผมได้ผ่านโลกผ่านประสบการณ์ต่าง ๆ มาทุกรูปแบบทั้งด้านมืดและด้านสว่างซึ่งตัวผมเองถือได้ว่าเป็นกำไรสุด ๆ ของการใช้ชีวิต  

เมื่อผมเติบโตขึ้น .. ผมมีแนวคิดที่ไม่ค่อยจะเหมือนชาวบ้านชาวช่องเค้าเหมือนกับตอนเป็นวัยสะรุ่นเลยครับ
คำถามต่าง ๆ ก็ผุดขึ้นตามมาเรื่อย ๆ ในทุกย่างก้าวของการเดินทางและผมก็ได้พิสูจน์ความเชื่อของผมอีกเช่นเดิม ในความเชื่อที่ว่า  “ผมจะเรียนเพื่อที่จะแบ่งปัน”

ในมุมคิดของผมที่ฝังอยู่ในหัวตลอดเวลาว่าพัฒนาการของระบบสังคมเรากำลังก้าวมาผิดทาง  สังคมกำลังสร้างแนวคิดค่านิยมที่ไม่ถูกต้องทำให้คนในสังคมต่างหลีกหนีและห่างหายจากรากเหง้าแห่งตัวตน  ห่างหายจากความเป็นมนุษย์  ระบบสังคมที่ผมเจอกำลังสร้างอสุรกายที่หิวโหย พร้อมที่จะกอบโกยและทำลายเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่างเฉยชา  “การศึกษาที่ผมศรัทธา กลับไม่สามารถตอบสนองต่อการพัฒนาสังคมและพัฒนามนุษย์ได้อย่างที่ผมคิด”

เมื่อระบบสังคมที่เป็นอยู่ต้อนให้ผมจนมุมทางความคิดและตีกรอบการกระทำ  ผมจึงตัดสินใจแหกคอกอย่างบ้าคลั่งด้วยการสถาปนาตัวเองเป็นนักกิจกรรม  ทำกิจกรรมทั้งในและนอกสถานศึกษาเพื่อที่ผมจะหาพื้นที่ที่ผมสามารถยืนอยู่ได้อย่างภาคภูมิว่า..ผมสามารถแตกต่างและดีได้ ในภาวะกระแสสังคมและระบบที่ผมไม่เข้าใจ  ในช่วงวันแห่งวัยอุดมศึกษาของผม  ทุกที่ที่ผมย่างก้าว ทุกจุดที่ผมหยุดยืน  ผมมักจะบอกกับเหล่าเพื่อนนักเรียนนักศึกษาของผมว่า 

“เพื่อนไปทำกิจกรรมที่นั่น ที่โน่น ที่โน้นกันเถอะ”

“เพื่อนเอ๋ย ไปออกค่ายด้วยกันมั้ย”

“เพื่อนเอ๋ย ออกจากกรอบบ้างก็ได้นะ”

“เพื่อนเอ๋ย โลกยังต้องการให้เราไปเยี่ยมเยือนอีกหลายแห่ง”

“เพื่อนเอ๋ย  สังคมกำลังเน่า เราน่าจะไปช่วยกันนะ”

“เพื่อนเอ๋ย  พ่อแม่พี่น้องเรากำลังแย่ อย่ามัวแต่เห็นแก่ตัวกันอยู่เลย”

คำพูดเหล่านี้กลับกลายเป็นคำถามที่กลับมาทิ่มแทงผมอยู่เสมอว่าเพราะอะไรและทำไมถึงต้องทำอย่างที่ว่านั้นด้วยทั้ง ๆ ที่หลาย ๆ คนรวมทั้งผมสามารถที่จะกอบโกยเก็บเอาผลประโยชน์ต่าง ๆ ใส่ตัวเองให้อิ่มเอมจนพุงกางแก้มป่องและท้องอ้วน

เมื่อผมจบการศึกษา ณ วันนั้น  ผมและเพื่อนของผมทุกคนอยู่ในชุดครุยสีขาวที่สง่างาม ด้วยความภาคภูมิ  ผมไม่รู้หรอกว่าในใจของเพื่อนผมแต่ละคนคิดอะไรอยู่  ผมไม่รู้หรอกว่าชีวิตของแต่ละคนจะเป็นอย่างไร  ผมไม่รู้เลยครับว่าเพื่อนของผมคนไหนจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานตำแหน่งอะไรบ้าง  แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้ได้ในความเชื่อมันของผมคือ  ผมจะก้มเก็บเพื่อที่จะแบ่งปันและผมจะไม่เกี่ยวกำเพื่อที่จะกอบโกยอย่างแน่นอน

หลังจากวันนั้นเป็นต้นมาผมก็เข้าสู่สนามรบแห่งชีวิต ผมได้ทำงานในองค์กรที่มั่นคงในสายงานที่ผมพอใจและที่สำคัญผมไม่ลืมคำถามต่าง ๆ ที่ได้ตามทิ่มแทงผมอยู่จนถึงทุกวันนี้  หากแต่การแสวงหาคำตอบของผมนั้นมีวิธีการที่เปลี่ยนไป ตอนนี้ผมไม่ใช่คนที่ทำกิจกรรมอย่างบ้าคลั่งแต่ผมกลับเป็นคนที่คอยสร้างขวัญและกำลังใจให้กับรุ่นน้อง ๆ ที่กำลังก้าวเดินสู่วัยแห่งการแสวงหา  ผมหันมาหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งแรงบันดาลใจให้กับผู้คนที่พานพบในรอยทางแห่งชีวิต  ผมชื่นชอบที่จะสร้างและเข้าร่วมเครือข่ายทางสังคมเพื่อที่จะช่วยกันสร้างสรรค์สังคมให้อุดมและงดงาม   ผมมักจะทำตัวเป็นพลังเงียบคอยผลักดันและช่วยเหลือให้กิจกรรมของบรรดาเหล่าผู้ก่อการดีสำเร็จลุล่วงตามความสามารถและโอกาสอำนวย และผมรักที่จะเห็นรอยยิ้มของผู้คนที่ผมพบเจอและอ้อมกอดที่อบอุ่นอารี

         Pic_0019

ถึงวันนี้ผมรู้ได้อยู่หนึ่งอย่าง  หนึ่งอย่างที่ตอบคำถามทั้งหมดของผมได้ในพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงในดวงใจของคนไทยทุกคน ว่า ” หากไม่มีใครปิดทองหลังพระ พระจะสวยและงามเต็มองค์ได้อย่างไร ”

ต่อไปนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมยังเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ในสิ่งที่ผมคิดในสิ่งที่ผมทำ และผมจะทำจะสร้างสิ่งเหล่านั้นต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมดเรี่ยวแรง  จนกว่าจะหมดปัญญาที่จะคิดจะเดิน

เพราะผมเชื่อและผมกล้าที่จะแตกต่างในวันนั้น  ผมจึงได้กรรมสิทธิ์ในความเป็นมนุษย์กลับคืนมาในวันนี้
เพราะผมคือผม  
สายลม  ไร้ตัวตน  แต่รู้ว่ามี
สายลม  ไร้ตัวตน  แต่รู้ว่ามี………………

 

คำสำคัญ: , , ,




เสาร์นี้ที่พระธาตุพนม กับความงดงามแห่งการเดินทาง

20 มีนาคม 2009 / ไม่มีความคิดเห็น » / โดย สายลมครับ

อ่าน: 1658

นานแล้วที่ตั้งใจจะไปไหว้นมัสการองค์พระธาตุพนม
เจดีย์คู่บ้านคู่เมืองของชาวอิสานและพี่น้องชาวลาว แต่ก็ไม่มีโอกาสไปซักที

และวันนี้ก็มาถึงจริง ๆ ครับ วันว่าง ๆ ของผมซึ่งนาน ๆ จะได้พักผ่อนตามอัธยาศัยตัวเองเหมือนชาวบ้านเค้าซักวันสองวัน อิอิ ผมเลยตั้งใจจะไปนมัสการองค์พระธาตุตามที่ได้สัญญาไว้กับหัวใจของตัวเอง

การเดินทางของผมในครั้งนี้กะว่าจะแวะโน่น นี่ นั่น ไปตามใจแหละครับ กะว่าจะไปค้างที่ในตัวจังหวัดนครพนม  ตื่นเช้ามาเดินตลาดดูวิถีชีวิตของผู้คนแถบลุ่มน้ำโขงยุคใหม่  ซึมซับความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ผมถือว่าเป็นรากเหง้าของชีวิตของผมเอง

การตามเก็บเกี่ยวความรู้สึกและความทรงจำของผมเองในแต่ละครั้งก็แตกต่างกันไปตามเวลา โอกาสและสถานที่รวมทั้งผู้คนที่อยู่รอบและระหว่างเส้นทางที่ก้าวผ่าน  ซึ่งเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนให้ผมยิ่งชื่นชอบจังหวะและท่วงทำนองของแต่ละชีวิตมากยิ่งขึ้น

บางทีความเรียบง่ายของชีวิตก็ไม่ได้ง่ายเสมอไปในแง่ของจังหวะและท่วงทำนองของการก้าวเดิน
บางครั้งการเดินอยู่บนถนนแห่งชีวิตกับการพานพบคนแห่งความรู้สึกล้วนมีอยู่ทั่วทุกหนแห่ง
บางคนแม้แต่การที่จะก้าวเดินไปในวิถีแห่งการต่อสู้ก็ยังไม่กล้าหาญพอที่จะเดินออกจากกระดองในความคิด
แต่กับบางคน กลับถูกถีบยันให้เข้าสู่วิถีแห่งการต่อสู้ในถนนแห่งชีวิตอย่างโหดร้ายและไม่เคยหยุดพัก

เอ………………………..
ผมแค่ตั้งใจจะเดินทางไปไหว้องค์พระธาตุพนม  แต่ทำไมผมถึงได้เพ้อเจ้อถึงโน่น นี่ นั่น ไปซะเรื่อย

อิอิ เอาแบบนี้แล้วกันนะครับ ขอแค่ว่าถ้าหากบุญของพวกเรามีร่วมกัน ก็ขอให้ได้เจอกันที่นครพนม .. นะครับ

ถ้าหากใครเจอผมแล้วจำได้ .. ผมจะเลี้ยงข้าวซักหนึ่งมื้อเป็นรางวัล  แล้วตั้งวงสนทนาร่ำกับบรรยากาศยามเย็นแห่งริมฝั่งโขง ที่ นครพนม..ครับ

คำสำคัญ: , , ,




ไผเป็นไผ ตอน 2 จุดเริ่มต้นแห่งการค้นหา

10 มีนาคม 2009 / 2 ความคิดเห็น » / โดย สายลมครับ

อ่าน: 2013

 

การตามหาความหมายของชีวิตของผม  ตั้งแต่ผมเริ่มเติบโตพอที่จะคิด ค้นหาความหมายในตัวเองได้

คำถามที่ผมถามตัวเองตลอดมาคือ “กูจะเรียนไปทำไมวะ” สำหรับคำถามนี้หลายคนอาจจะว่าผมบ้า
ว่าผมเป็นจอมขบถ ขวานผ่าซาก ขวางสังคมและต่าง ๆ นานา แต่ผมก็ไม่เคยสะทกสะท้านแม้แต่นิดเดียว

 

“กูจะเรียนไปทำไมวะ”  เป็นคำถามที่พุ่งปรู๊ดดด เข้ามาในต่อมกระแดะของผมทันทีหลังจากที่ผมได้เรียนรู้
เมื่อตอนเริ่มเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นว่า “ยิ่งเรียนกูยิ่งเห็นแก่ตัวมากขึ้นทุกที ๆ “ 
ช่วงที่ผมเข้าเรียนในระดับ ปวช.   ผมได้ซึมซับกระแสสังคมที่กำลังเปลี่ยนแปลงแบบรวดเร็วและรุนแรง กระแสวัตถุนิยมกำลังถาโถมเข้าสู่กลุ่มวัยรุ่นในยุคของผม  คำว่า นักเรียนนักศึกษา มีความหมายที่แต่งต่างออกไปจากที่ผมเข้าใจอย่างมากมายมหาศาล  โรงเรียนสอนแค่ในตำราหลักสูตรที่ยกย่องเทิดทูลว่าคือที่สุดของที่สุด  ผมต้องอดทนจำในสิ่งที่ถูกบังคับให้เรียน  ผมต้องอดทนกับการสอบที่ถูกติ๊ต่างว่านี่คือการวัดคุณภาพของความเป็นมนุษย์ในคอกของสถานศึกษาว่าใครมีคุณภาพมากกว่ากัน 
ใช่ครับ  ในกรอบของการศึกษาที่ผมเข้าใจในยุคนั้น  ผมรู้สึกว่าผมเหมือนเป็นสัตว์เลี้ยงประเภทหนึ่งที่ถูกเลี้ยงถูกฝึกมาเพื่อใช้งานต่าง ๆ รึไม่ก็เลี้ยงให้อ้วนเพื่อรอเข้าโรงเชือดอย่างเดียว

 

ในยุคนั้นหลังจากที่ลำต้นของคำถามที่ว่า “กูจะเรียนไปทำไมวะ” เติบโตขึ้นอย่างช้า ๆ ในหัวของผม 
จากที่ผมไตร่ตรองเพ่งพินิจพิจารณาดูอย่างถี่ถ้วนแล้วของสมองของเด็กตัวเล็ก ๆ ในวันนั้น  ผมเลยทึกทักเอาเองว่า “ผมต้องการที่จะเรียนรู้อะไรมากกว่านี้และผมสามารถเรียนรู้ได้มากกว่าที่ระบบให้ได้” ผมจึงเริ่มภารกิจค้นหาความหมายตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา

 

เอาล่ะสิครับ .. พอตัวเองทึกทักตั้งคำถามขึ้นมาเลยต้องคิดหาวิธีเพื่อจะพิสูจน์ทฤษฎีของตัวเอง
ผมจึงรวบรวมเพื่อนฝูงที่พอจะมีแนวคิดในทิศทางเดียวกัน ณ ตอนนั้น ทั้งที่เข้าใจและไม่เข้าใจของเพื่อน ๆ ผมได้นำสมาชิกในกลุ่มพร้อมเพื่อน ๆ กลุ่มใหญ่ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในและนอกสถานศึกษา จนกลายเป็นหัวโจกในด้านกิจกรรมไปโดยปริยาย

 

ผมกับผองเพื่อนร่วมกันออกเดินทางด้วยการโบกรถท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเรียนรู้โลกกว้าง เรียนรู้วิถีชีวิต เรียนรู้วิถีสังคม เรียนรู้ถึงกระแสแห่งมนุษย์  การใช้ชีวิตในช่วงนี้ถือได้ว่าผมใช้ชีวิตเสี่ยงที่สุดของความเป็นวัยรุ่น  แต่ผลที่ได้รับก็ถือได้ว่าคุ้มค่าที่สุดเช่นกัน (เอาไว้จะเล่าให้ฟังเล่น ๆ ฮา ๆ วันหลังนะครับ)

 

สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ในช่วงแห่งชีวิตวัยรุ่น คือ

ผมได้เรียนรู้ว่า  หากผมกล้าที่จะทำตัวเองให้แตกต่าง ผมก็สามารถแตกต่างได้ด้วยตัวเอง
ผมได้เรียนรู้ว่า  ถ้าผมกล้าที่จะยืนหยัดต่อความเชื่อของตัวเอง ผมจะค้นพบอะไรบางอย่าง
ผมได้เรียนรู้ว่า  ถ้าผมเดินออกนอกเส้นทางบ้าง ผมจะเห็นโลกที่ผมไม่เคยเห็นและไม่เคยสัมผัสอย่างแน่นอน
ผมได้เรียนรู้ว่า  คำว่าเพื่อน  จะเรียกให้มันได้ความฟิวส์มากที่สุดคือตอนผมเรียกเพื่อนที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน
ผมได้เรียนรู้ว่า  ผมสามารถสร้างประโยชน์และแบ่งปันความสุขให้กับสังคม คนรอบข้างได้ซึ่งมันทำให้ผมมีความสุข สุขใจที่ได้ทำ
ผมได้เรียนรู้ว่า  การทำตัวให้ติดดินที่สุดทำให้สามารถเรียนรู้ผู้คนรอบข้างได้ดีที่สุด

ผมได้เรียนรู้ว่า  ผมจะต้องเรียนต่อให้สูงที่สุดเท่าที่สติปัญญาของผมจะทำได้ เพราะคนจะฟังผมมากที่สุดก็คือตอนที่ผมเป็นคุณเดี่ยว คนที่มีเครื่องการรันตีความรู้ความสามารถโชว์อยู่ข้างฝาบ้าน  ซึ่งต่างจาก ไอ้เดี่ยว ที่ไม่มีเครื่องการันตีมาตรฐานทางสังคมใดใดเลย
และ ผมได้เรียนรู้ว่า  ถ้าผมกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเองผมก็จะได้กรรมสิทธิ์ในความเป็นมนุษย์กลับคืนมา..แน่นอน

 

อิอิ โปรดติดตามตอนต่อไป เด้อครับ  ตอนเรียนต่อนี่ มันส์โคตร ๆ อิอิ

 

“”"”"”"”"”"”"”"”"”"”"”"”"”"”"”"”"”"”"”"”"”"”"”

 

Dsc01283

 

 

คำสำคัญ: , ,




ไผเป็นไผ ฉบับนายสายลม

2 มีนาคม 2009 / 7 ความคิดเห็น » / โดย สายลมครับ

อ่าน: 3938

 

ไผเป็นไผ

 

นายสายลม  อักษรสุนทรีย์  เป็นไผ

 

  อ่านต่อ…

คำสำคัญ: , , , ,




สวนป่า(แตก) เรียนรู้ชีวิต (ฉบับสายลม 2) น้อง ๆ นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น

12 กุมภาพันธ 2009 / 4 ความคิดเห็น » / โดย สายลมครับ

อ่าน: 2264

หลายครั้งที่ผมได้มาร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่สวนป่ามหาชีวาลัยอิสานแห่งนี้  และในทุก ๆ ครั้งผมได้เรียนรู้อะไรต่อมิอะไรหลาย ๆ อย่างเพิ่มขึ้นเสมอ และครั้งนี้ก็เช่นกันครับ

อ่านต่อ…

คำสำคัญ: , , , , ,




Main: 1.656317949295 sec
Sidebar: 0.5530378818512 sec