ออกแบบการเรียนรู้..ออกแบบชีวิต
อ่าน: 2508การไปสวนป่าคราวนี้ เริ่มต้นด้วยประโยคง่ายๆ..เธอว่างไหมช่วงนี้..
มีภาระในช่วงที่กลุ่มเฮฮาศาสตร์นัดหมายคงไปร่วมงานไม่ได้
และเคยตั้งใจกันว่าจะไปเยี่ยมบ้านครูบากันอีกสักครั้ง
ชวนแล้วต่างเงียบหายกันไปในหน้าที่การงาน
เดินทางกันในวันที่ฟ้าคลุ้งด้วยหมอกควันเป็นวันที่เท่าใดแล้วก็ไม่อยากนับ
ยังมีงานให้ทำก่อนออกรถ จนทำให้ไปรับอุ๊ยเมื่อสายมากแล้ว
เดิมทำใจไว้ว่าคงได้นั่งเป็นนางงามบุปผาชาติไปในรถ มีต้นไม้ที่นำไปด้วยหลายต้น
แต่ด้วยความสามารถในการจัดของกูรูต้นไม้ในโรงเรียน อุ๊ยเลยอดเป็นนางงาม
เลยลำปางไปแล้ว..ก็ได้รับข่าวร้าย
ผู้ร่วมงานที่อยู่ด้วยกันเสมือนญาติคนหนึ่งจากไปก่อนวัยอันควรด้วยเหตุไม่คาดคิด
แม้ละล้าละลังห่วงหน้าพะวงหลัง ยังตัดสินใจเดินทางไปต่อด้วยคำรับรองจากปลายสาย..
ไปเถอะจะช่วยกันดูแลให้..
ใจล่องลอยเป็นพักๆ ทำให้ดูแผนที่สับสนจนนำทางให้ผิดเลี้ยว
แก้เกี้ยวว่าพามาสำรวจเส้นทางใหม่ให้ได้เห็นวิถีชาวบ้าน
ทั้งที่รถต้องคลานหลบหลุมบนถนนตลอดทาง
พยายามทำเวลา..แต่ยังถึงสตึกเมื่อฟ้ามืดไปนานแล้ว..
เดินโคลงเคลงด้วยอาการเมาบกไปร้านโจ๊กกันทั้งสามคน
เพราะสับสนมึนงงใครบางคนจึงปัดขวดน้ำปลาหล่นแตกกระจายจนหอมหวนไปทั้งร้าน
โจ๊กร้อนๆ แถมยังอร่อยช่วยเติมพลังให้ดีนัก
และเกือบหลงอีกครั้งหากไม่เจอป้ายบอกทางสุดเท่ “สวนป่าเข้าทางนี้ไปตามสายไฟ”
สี่ทุ่มแล้ว..กว่าจะได้รับกอดจากแม่หวีกับครูบา
ที่มาต้อนรับพร้อมกับรูปลักษณ์ที่แปลกตาไปอย่างเห็นได้ชัด
ทักทายถามไถ่เพียงชั่วครู่อุ้ยก็เริ่มปฏิบัติการดูแลสุขภาพ
จับทุกคนขึ้นเครื่องชั่งน้ำหนักแบบพิเศษที่อุตส่าห์หอบหิ้วมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
ทุกคนยกเว้นอุ้ยที่ไม่ยอมขึ้นชั่งได้รับการแปลผลข้อมูลให้ได้ยิ้ม
ก่อนแยกย้ายกันไปนอนแล้วตื่นไปรับพี่หมอเจ๊ตอนตีสอง
สถานีขนส่งอยู่หน้าตลาดสด จึงได้เดินตลาดซึ่งเปิดขายกันคึกคัก
ลักษณะการขายน่าจะเน้นให้ผู้ซื้อนำไปแบ่งขายต่อ
ทั้งเห็ด พืชผัก อาหารสุกดิบ แพ็คเป็นถุงใหญ่ราคาเยา
กว่าจะหิ้วของกลับเข้าสวนป่าก่อนโผเผไปนอนด้วยอาการมึนผสมง่วงก็จวนจะตีสาม
ตื่นขึ้นมาในยามเช้า..อุ๊ยกับพี่หมอเจ๊ตามครูบาไปเก็บผักมาเตรียมทำอาหารเรียบร้อยแล้ว
และนับจากนั้นประโยค..“ไปเก็บผักกัน จะกินผักอะไรบ้าง” ..ก็ตามมาทุกมื้ออาหาร
ทั้งเด็ด ล้าง หั่น ปรุง กินผักทั้งดิบและสุกเป็นอาหารหลัก
แกล้มด้วยเรื่องราวความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ
และการค้นพบเมนูแปลกใหม่ที่ครูบาใช้ตนเองศึกษาทดลองอย่างต่อเนื่อง
อุ้ยและพี่หมอเจ๊มีวิธีบอกเล่าความรู้ให้เข้าใจง่ายสะดวกต่อการใช้ดูแลตัวเองได้อย่างน่าสนใจ
จนต้องขอให้เขียนไว้ในบันทึกเพื่อแบ่งปันไปในวงกว้าง
เรียนกับครูบาเป็นเรื่องน่าสนุกและมีสีสันเสมอ
สารพัดผักที่นำมากินล้วนมีที่มาและเรื่องราว
นี่สลัดพันธ์ต่างประเทศญาติทางเฟสบุคส่งมาให้
นี่วอเตอร์เครส ถ้าปลูกในที่มีแดดจะสีแดง นี่กวานฮอกผักเวียดนาม
ผักนี่แม่หวีปลูก นี่ยายสอนเอามา ผักคะน้าเราปลูกเองจะไม่เหม็นเขียวเลยนะ
นี่สูตรเด็ดแม่หวีคิดทดลองทำ ต้องใส่ผักชนิดนี้ก่อน นี่จะทำให้น้ำหวาน นี่ต้องใส่ทีหลัง..
ครูบาปรุงอาหารดังงานศิลปะ
ผสมผสานคุณสมบัติ รสสัมผัส และรสชาติของผัก ให้กลมกล่อมลงตัว
“ทำไมเราต้องทำเหมือนคนอื่น..ฮ่าๆๆ”
ฟังและชิมจนอิ่มเอม ครูบาก็หันหน้าเข้าหาโน้ตบุคประจำกาย
ที่ไหนๆ ก็ทำงานได้..ความไม่พร้อมหลายด้านถูกขจัดไปด้วยวิธีการง่ายๆ เสมอ
จึงเห็นที่มาของงานเขียนอันทรงคุณค่าของครูบา
สร้างสรรค์มาจากแท่นรองโน้ตบุคที่ทำจากชามสลัดไม้ บางวันก็ใช้กาละมังใบย่อมใกล้มือ
เก็บล้างถ้วยชามแล้ว ก็หางานทำ
อารามเดินสำรวจและซ่อมก๊อกน้ำด้วยเครื่องมือช่างที่เตรียมมากับหมอเจ๊
ก่อนจะชวนกันไปหาอุปกรณ์เพิ่มพร้อมกับแม่หวีที่จะไปตลาด
ปล่อยให้อุ๊ยใช้เวลากับหนังสือที่อยากอ่านและพูดคุยกับครูบา
ตามช่วงเวลาอิสระของแต่ละคน
ไปสวนป่าหลายครั้งยังมีเรื่องราวให้เรียนรู้ได้ไม่รู้จบ
ทั้งแง่คิด มุมมองของญาติมิตรที่มาพบปะกัน
ในวันต่อมาที่พี่บางทราย คุณหมอจอมป่วน น้าอึ่งอ๊อบ และน้องอิงเดินทางมาถึง
ก็ได้ทึ่งกับวีรกรรมอันห้าวหาญของน้าที่พยายามมาให้ถึงสวนป่า
แม้ว่าจะพลาดเวลากับรถทัวร์จนถึงกับใช้ตัวเข้าขวางให้รถจอดรับกลางแยกไฟแดง ^^
ช่างเป็นเวลาที่ได้รับฟังการสนทนาอย่างออกรส
ได้เห็นครูบาเตรียมการออกแบบการเรียนรู้อย่างละเมียดละไม
โต๊ะที่ลานไผ่ มีถ้วยใส่ใบสระแหน่ครบคน วางรอไว้ให้เติมน้ำร้อนเมื่อมาถึงกันพร้อมหน้า
ชามซุปรองด้วยผักสลัดที่จัดเรียงมาพร้อมด้วยดอกชมจันทร์คนละสองดอก มันเลือดสองก้อน
เพื่อทุกคนจะไม่พลาดการชมและชิมอาหารที่เป็นเสมือนการสาธิตการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ
ทั้งใช้อุปกรณ์การนำเสนอประกอบให้คนชอบลงมือทำได้สนุกอยู่รอบตัว
เตาหลุมจึงได้ทำหน้าที่ตั้งแต่อบไก่ ต้มถั่วลิสงจากแปลงปลูก
และยามค่ำคืนน้าอึ่งยังลุกขึ้นมาชวนกันปิ้งปลาหมึกให้หอมหวลทวนลมไป
เห็นการเลื่อนไหลจากวงอาหาร กลายเป็นการตั้งวงสนทนาอย่างเป็นธรรมชาติ
ประเด็นคำถามจากหนึ่ง ส่งต่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น บอกเล่าประสบการณ์
จากเรื่องหนึ่งไปสู่เรื่องหนึ่ง ทั้งปล่อยมุข หมัดเด็ดกันให้ครึกครื้น
ชอบใจในการสนทนาหลายประเด็น
ทั้งข้อสังเกตเรื่อง “การดูงานเอาเนื้อหา มากกว่าดูงานเอาวิธีการเรียนรู้”
และ “ครูที่เรียนวิธีสอนมากกว่าวิธีเรียน” ของคุณหมอจอมป่วน
อุบายที่ครูบาฝึกเด็กที่มาดูงานกับครูให้ศึกษาอย่างลึกซึ้ง และนำเสนองานอย่างจริงจัง
ด้วยการ“ไม่ยอมรับผลงานที่ไม่มีคุณภาพ”..”ไปช่วยกันคิดใหม่”..”ไม่ผ่านไม่ต้องนอน”..
“เค้นจนได้เห็นศักยภาพที่แท้จริงของเด็ก”
หลากหลายเรื่องราว และวิธีอยู่กับชุมชนที่มีแนวคิดทางการเมืองต่างขั้ว
กระทั่งการเชื่อมโยงให้ผู้คนรอบตัวได้แสดงความคิดเห็นอย่างนุ่มนวลของพี่บางทราย
แดดร้อนก็เลื่อนเก้าอี้หนี แถมยังมีคาถาจากครูบา ที่บอกว่า..เดี๋ยวผมมีคาถาเรียกลม..
ว่าแล้วก็ทุบอกสองที คอยดูนะอีกสองนาทีลมจะมา..เอ๊ะ!!..ไม่น่าเชื่อ..ลมพัดมาในบัดดล..
ระหว่างที่ทุกคนทำหน้าเหลือเชื่อปนสงสัยก็ได้คำตอบ..
อารามแบกพัดลมตัวโตมาตั้งไว้ให้..
หมัดเด็ดของครูบาหมัดนี้เรียกเสียงหัวเราะเฮฮากันได้รอบวงทีเดียว
การเดินตามครูบาไปในที่ต่างๆ เป็นช่วงเวลาโปรดปรานนัก
ได้เดินลากตะกร้ามีล้อเข้าไปเก็บผักราวกับจะไปช็อปปิ้งในห้างสรรพสินค้า
สวนผักของครูบาไม่ได้เนี้ยบเรียบกริบพร้อมโชว์เช่นใครอื่น
ผักหลากชนิดขึ้นสอดแทรกอิงอาศัยซึ่งกันและกัน เป็นการจัดระบบแบบไม่เน้นระเบียบ
ข้อสังเกต วิธีเรียนรู้จากธรรมชาติ เรื่องราวที่ถ่ายทอดระหว่างเดิน
วิธีคิด วิธีตั้งโจทย์ทดลอง โจทย์วิจัยแบบไทยบ้านของครูบา พาให้ทึ่งอยู่ทุกคราว..
ทำไมผักโขมหนามมันโตเร็วกว่าผักอื่น ทั้งที่ก็ได้น้ำได้ปุ๋ยเท่ากัน
ทำไมเอาไปให้หมูกิน มันน่าจะมีประโยชน์นะ..
นี่ต้นหอมใส่แล้วทำให้น้ำซุปหวาน..เดี๋ยวไปเอาผักนั่นอีกนิด..นี่อีกหน่อย…
พืชนี่ปกติเราต้องแต่งกิ่งมันอยู่แล้ว ทิ้งไปก็เสียดาย..เอาไปทำเมนูพิเศษดีกว่า
ต้นพวกนี้เป็นวัชพืชนะ แต่เราลองหาวิธีเอามาทำซุปผัก..ฮ่าๆๆ
ระหว่างครูบาใช้กรรไกรตัดยอด ถอนผัก คนเดินตามก็แวะถ่ายรูปดอกไม้ แมลงแปลกๆ ไปด้วย
ไม่ได้ช่วยตัดเลยสักนิด ยังได้ผักมาต้มเต็มตะกร้า
เมื่อรู้ว่านักเรียนมีจริตเช่นใด ครูบาใส่ใจให้ความรู้เฉพาะเรื่องได้ทันควัน
นี่มือจับของไม้เลื้อยมันจะเวียนไปทิศนี้..แล้วจะมีนี่เป็นสปริงยืดหยุ่น..ลองดูสิ
นี่เห็นไหมพอน้ำหนักใบเยอะ เค้าจะเพิ่มมือจับเป็นสองสามอันนะ
ยังสงสัยอยู่ว่าลวดนี่มันร้อน ทำไมเค้ายืดอยู่ได้ อาจจะมีร่มเงาตรงนี้ ต้องคอยมาสังเกตดู
นี่พอยืดไปแล้ว จะงอกรากจากส่วนนี้ ฯลฯ
เมื่อเห็นนักเรียนติดตามสังเกตและถ่ายรูปมือจับต่อเนื่องแม้ในยามกลางคืน
ก็เพิ่มกิจกรรมนำเดินในยามค่ำ จนได้รู้จักทั้งเขียดขาคำ และเขียดตะปาดที่คอยกินแมลง
แอบดูฝูงวัว และเจ้าไก่โต้งหัวฟูเข้านอน
ฟังเสียงสายลม ดูดอกชมจันทร์บาน เคล้าเสียงนกราตรี..
ครูบามีวิธีสร้างความสนใจใคร่รู้จนทำให้ตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อตามดูเรื่องราวที่สนใจให้ต่อเนื่อง
แม้ในวันกลับยังไม่พลาดโอกาสในการเดินป่า
ครูบาพาไปดูต้นมะขาม ที่แม่หวีนำมาทำน้ำสลัดสูตรอร่อย
บอกเล่าถึงรหัสและความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่พบ
เมื่อเห็นรังนก รังปลวก รังมดรูปแปลกตา หลุมรังแมลงช้าง กระทั่งรูแย้
ก็เมตตาหันมาบอกคนชอบถ่ายรูปนกหนูให้ได้สนุก
ชวนดูบริเวณที่จะทำหมู่บ้านโลก และบ้านครูบาหลังใหม่
ที่ใส่ใจดูทำเลให้มีมุมมองที่จะเห็นพระอาทิตย์ส่องลอดหมู่ต้นตะเคียนทองมาถึงในยามเช้า
เสน่ห์ของการมาสวนป่า ไม่ได้มีเพียงได้มาอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติเท่านั้น
แต่เป็นการได้มาอยู่ร่วมกับผู้คนที่ช่วยเติมสติ เติมปัญญา และนำพาให้เห็นมุมมองใหม่ๆ
ยังประทับใจในถ้อยคำของครูบาเมื่อสนทนาเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้
“ต้องสะสมต้นทุนต่างๆ ไว้ก่อน แล้วค่อยออกแบบการเรียนรู้
ถ้ามีต้นทุนมากก็ออกแบบการเรียนรู้ใด้มาก..”
ต้นทุน..ของครูบา..ซึ่งได้มาจากการออกแบบชีวิตให้คิด และสังเกตอย่างเฉียบคม
มุ่งมั่น ทดลอง ลงมือปฏิบัติด้วยตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง
สนุกกับการเรียนทุกเรื่อง ผิดก็ได้เรียน ถูกก็ได้เรียน และการเรียนทำไมต้องทุกข์ด้วย..
มาสวนป่าคราวใด
จึงได้สั่งสมประสบการณ์ จาก..นักออกแบบการเรียนรู้ชั้นครู..ทุกครั้ง..
และยังเรียนไม่จบ..สักที..^^
.
.
.
ชวนอ่านมุมมองจากบันทึกเยี่ยมสวนป่า 1-4 มี.ค.55 ค่ะ..
Next : ปะ..ไปดูลุงบางทรายยึดลานกัน..^^ » »
2 ความคิดเห็น
สมกับที่รอคอยนะครูน้องอึ่ง