เรื่องเก่าๆ..ของคนเริ่มแก่..

โดย dd_l เมื่อ เมษายน 12, 2014 เวลา 1:18 (เย็น) ในหมวดหมู่ เรียนรู้ชีวิต, เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 1945

เดินเลาะเลียบดูต้นไม้ใบหญ้า ไปเจอมะเขือเทศสุกแดงเต็มต้น
นึกเสียดาย  หากทิ้งไว้คงเน่าเสียเปล่า
จึงคว้ากาละมังกับกรรไกรมาเก็บ

ช่วงเวลาที่ก้มๆ เงยๆ เลือกลูกมะเขือเทศที่สุกได้ที่
ใจกลับแวบนึกถึงยาย

ยามเป็นเด็ก  ปิดเทอมทีไร มักถูกส่งไปอยู่บ้านสวนต่างจังหวัด
วันเดินทาง..จะถูกยายปลูกให้ตื่นตั้งแต่ยังไม่สว่างดี
จัดแจงแต่งตัวให้พร้อม และที่ขาดไม่ได้คือผ้าโพกผม
ด้วยต้องเดินทางด้วยรถคอกหมูของน้า
ซึ่งมีอาชีพขับรถบรรทุกรับส่งของไปมาระหว่างเมืองใหญ่กับบ้านเกิด

ยังจำรถบรรทุกคันใหญ่ ที่เปิดโล่ง
ที่นั่งด้านหน้าเป็นไม้ยาวต่อมาจากที่นั่งคนขับ
ด้านหลังเป็นตัวถังไม้ สูง ชนิดที่ต้องมีบันไดก้าวขึ้นจากข้างหลังสองสามขั้น
ระหว่างที่นั่งแถวยาวด้านหลังสองแถว มักบรรจุข้าวของต่างๆ
บางทีก็เป็นกระสอบ บางทีก็เป็นแข่งไม้ไผ่สานบรรจุเมี่ยง

ที่นั่งประจำ มักเป็นที่นั่งในตัวถังด้านหลังค่อนไปทางด้านหน้า
บางเวลาก็ต้องนั่งไปบนกระสอบ หรือ บนเข่งที่บรรทุกมาจากเชียงใหม่
ส่วนพี่ชาย ยามคนแน่น  มักได้รับที่นั่งพิเศษข้างคนขับด้านขวา
ย้ำ..ข้างขวาของคนขับ!!!!

ตัวถังรถยื่นล้ำออกมาด้านข้างมากกว่าส่วนหน้า
จึงมีที่ว่างข้างขวาพวงมาลัยมากพอให้เด็กผู้ชายขายาวๆ ผอมๆ คนหนึ่งนั่งได้

การเดินทางจากลำพูนถึงเถินช่างยาวนาน
กว่ารถจะเดินทางบนถนนดินแดง ผ่านป่าซาง บ้านโฮ่ง และลี้
ซึ่งต้องมีเวลาแวะให้ผู้เดินทาง ลงมาสะบัดฝุ่น แดงคลุ้งออกจากตัว
ก่อนจะหาอาหารกลางวันกินกันที่ตลาดลี้  หรือ ใครมีห่อข้าวก็งัดออกมากินกันตอนนี้

จากลี้  ต้องเดินทางข้ามเขาด้วยเส้นทางอันคดโค้งและแคบ
เป็นเส้นทางขึ้นลงดอยที่เต็มไปด้วยต้นไม้หนาทึบ
ฟังเสียง ออดแอด..ออดแอด..ของรถ
ชะโงกดูยอดต้นไม้ที่โผล่ขึ้นมาจากเหวข้างทาง
ฟังเสียงแตรที่กดให้สัญญาณแต่ละโค้ง
บางช่วงต้องคอยลุ้น เมื่อผ่านสะพานทำด้วยท่อนไม้ก่ายเกยตามแนวยาว
ช่างเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น ราวกับได้ผจญภัย
และครั้งใด มีพระสงฆ์เดินทางไปด้วย ก็ช่างเป็นที่อุ่นใจของเด็กผู้หญิงตัวเล็กนัก..

เดินทางข้ามดอยอีกเป็นนาน  กว่าจะทะลุสู่ทางราบ
กว่าจะถึงที่หมายก็เย็นย่ำ พี่ชายตัวดำมอม ผมแดงเป็นฝรั่งคลุกฝุ่นด้วยไม่โพกผ้า

ชีวิตที่บ้านสวน  เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข
มีญาติรุ่นราวคราวเดียวกันเป็นโขลงให้ได้เล่นด้วยกันเกรียวกราว
ซนมากนัก ผู้ใหญ่บ้านนี้ดุเอา  ก็ย้ายไปซนกันบ้านอื่น

ถึงเวลา ก็เข้าครัวกินข้าว  ไม่ได้มีโอกาสรบเร้าจะซื้อข้าวของ หรือขนมอะไร
ไม่มีขนมขายมากมายนัก  อย่างมาก ก็ขนมช้าง
ขนมปังกรอบที่ทำเป็นรูปช้างตัวเท่าฝ่ามือเด็ก
ไม่ก็ลูกอมนม คาดสีแดง เขียว เม็ดโตคับปาก
ที่นานๆ จะได้เงินไปซื้อกินสักที

แต่มีผลหมากรากไม้ ให้ปีนไปเก็บมากินกันได้ไม่จำกัด
มะม่วง มะปราง ละมุด ส้มเกลี้ยง ส้มโอ ครบครัน
กินมะปรางจิ้มกะปิบนต้น นี่แสนจะอร่อย
ยิ่งกินแล้ว คายเม็ดมาขว้างหัวคู่อริที่อยู่บ้านข้างๆ ได้ ยิ่งมีความสุข

บางวันเบื่อเล่นกับเพื่อน  ก็มากวนยายน้อย
ซึ่งเป็นผู้หญิงที่สามารถ  ทั้งปีนต้นไม้ ทำกับข้าว เลี้ยงหมู พึ่งตนเองได้สารพัด
เวลายายทำงาน ดูน่าสนุก  จนทำให้อยากลองทำบ้าง
บางวันช่วยล้างละมุด  บางวันแกล้งแอบดูยายใส่ผ้าถุงปีนต้นไม้อยู่ใต้ต้น
กวนมากเข้า ยายก็ต้องวางมือจากการซอยหยวกไปต้มให้หมู หันมาทำของเล่นให้

เพียงได้ เศษดินขอ กระเบื้องมุงหลังคา ที่ยายทุบแต่งเป็นรูปวงกลมให้ไปทอยเล่น
ก็หยุดกวนยายกันได้พักหนึ่ง
ยามเย็น ก็รบเร้ายาย  ให้พาไปเล่นน้ำในแม่น้ำวังกันต่อ
น้ำในแม่น้ำยังใส ไหลแรงและมีหาดทรายละเอียดสีน้ำตาลอ่อน
ระหว่างหลานเล่นน้ำ
ยายก็ขุดน้ำบ่อทรายเล็กอยู่ใกล้ๆ กรองน้ำไว้รอให้หลานอาบอีกครั้ง

บางวัน เห็นเด็กๆ หาบข้าวของเดินผ่านหน้าบ้านไปขาย
เกิดอยากทำได้แบบนั้นบ้าง
ยายต้องเก็บมะเขือเทศหน้าบ้าน ใส่กระทงเล็ก
วางบนถาด หาสาแหรก  ไม้คาน มาให้ลองหาบไปขายพร้อมกับญาติรุ่นเดียวกัน

ซึ่งแรกหาบ  ก็เดินได้อย่างสง่า  กะว่าจะไปขายตามบ้านให้หมดถาด
พอเวลาผ่านไปนานเข้า บ่าก็เริ่มเจ็บระบบ
ตลอดทางที่เดิน จึงต้องเปลี่ยนไม้คานระหว่างบ่าซ้าย กับบ่าขวา แทบจะทุกนาที
จนวิธีสุดท้าย ใช้ไม้คานวางบนกล้ามเนื้อด้านหลังคอ จึงค่อยบรรเทา
ภาพที่ผู้ใหญ่เห็นเมื่อเดินกลับบ้าน..
คือภาพหลานที่เดินคอหดหาบสาแหรกไม้คานกลับมา เป็นที่น่าขัน
เป็นตำนานการขายมะเขือเทศที่น่าจดจำยิ่งนัก

ช่วงสงกรานต์  นอกจากสนุกสนานกับการสาดน้ำ
รถคอกหมูคันเดิมยังพาลูกหลาน ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก
ตระเวนกันไปดำหัวญาติผู้ใหญ่แต่ละบ้าน
ไปบ้านนี้ พรยาวเป็นพิเศษ  บ้านนี้มีข้าวควบ ข้าวแคบแจกทุกปี
บ้านนี้มีข้าวหมาก  บ้านนี้มีมะปรางหวานอร่อย
ผู้ใหญ่ก็พูดคุยกันไป  เด็กๆ ก็เอร็ดอร่อยกับของเลี้ยงกันอย่างอิ่มหนำ

ช่างโชคดีที่ได้มีชีวิตแบบบ้านนอก อยู่ในบ้านสวนกับยายและเครือญาติ
ชีวิตที่ความสุขหาง่าย และไม่ได้พึ่งพาเงินทองมากนัก
แม้วันนี้..ไม่มีใครเหลืออยู่ที่บ้านสวนแล้ว
แต่เมื่อนึกย้อนไปครั้งใด ก็เติมสุขให้ใจอิ่มเอมขึ้น

เวลาเปลี่ยน..ทุกสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลง..
แต่ความทรงจำอันงดงาม  ยังอยู่กับเราเสมอ
เริ่มแก่แล้ว..และเริ่มทบทวนว่า..
ที่ผ่านมา ได้สร้างความทรงจำดีๆ ให้แก่ผู้คนมากน้อยเพียงใดบ้างหนอ…

« « Prev : เฮฮาศาสตร์ห้วยขาแข้ง..(4)

Next : ชุมชนคนดี..มีกาดนัด » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "เรื่องเก่าๆ..ของคนเริ่มแก่.."

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.79852390289307 sec
Sidebar: 0.090756177902222 sec