เฮฮาศาสตร์ห้วยขาแข้ง..(1)
อ่าน: 2555เมื่อแรกทราบข่าวว่าจะมีเฮฮาศาสตร์ห้วยขาแข้ง ก็แอบตาโตด้วยความสนใจ
โดยเฉพาะกูรูต้นไม้ประจำโรงเรียน ที่ประกาศชัดว่า..อยากไป!!
หลังจากนั้น..ก็พากันวุ่นวายกับงานใหญ่ของโรงเรียน จนไม่ได้ติดตามข่าวต่อเนื่อง
รู้แต่เพียง เสร็จงานแล้วค่อยว่ากัน..
ใกล้ถึงเวลานัดหมาย ได้ข่าวว่า เครือญาติสายเหนือ อาจจัดการเวลาให้มาร่วมงานได้ไม่ครบทีม
ได้แต่ส่งข่าวไปออดอ้อนและลุ้น.. จนในที่สุด มีเพียงอุ้ยสร้อยที่จัดการงานได้
ขาดแต่คุณน้าแห่งชาติ ผู้เป็นผู้ช่วยบริหารจัดการอยู่เบื้องหลังที่ยังยืนยัน..ติดธุระ..
ระหว่างนั้น ก็ปล่อยปละละเลย ไม่ได้ส่งข่าวคราวถึงใคร..
แม้ได้รู้ว่าพี่ชายใหญ่:บางทราย ทั้งประสานงาน เตรียมการและรายงานความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง
จนวันหนึ่ง ได้รับข้อความถามไถ่ถึงการเดินทางจากพี่บางทราย
ทำให้เลือกใช้รถตู้แทนรถคันเล็กในการเดินทางอย่างที่เคยตั้งใจ
เพื่อจะเอาไว้ใช้ระหว่างทำกิจกรรมร่วมกัน
ออกเดินทางในยามเช้า เพื่อไปรับอุ๊ยและครูต้อยที่เพิ่งเคยเห็นหน้ากันในวันนั้น
จำนวนผู้โดยสารจากเชียงใหม่ ลำพูน ที่มีเพียงสี่คน
ค่อยเพิ่มเป็นห้าเมื่อถึงลำปาง เมื่อแวะรับเบิร์ดผู้เดินทางมาพร้อมโคมลอยจากเชียงราย
และได้ผู้โดยสารอีกสามจากพิษณุโลกที่นัดหมายมาสมทบที่นครสวรรค์ในยามเย็น
ทั้งครูสุ ราณี และ น้องฝน ผู้มาพร้อมเสียงหัวเราะตั้งแต่แรกเจอ
ระหว่างรอป้าหวาน ผู้เดินทางอ้อมโลกมาจากขอนแก่น
ชวนชาวคณะไปดูต้นสายแม่น้ำเจ้าพระยาที่ปากน้ำโพ
คาดหวังจะเห็นแม่น้ำสองสีจากน้ำปิงน้ำวัง และน้ำยม น้ำน่าน ที่มาบรรจบกันเป็นเจ้าพระยา
แต่ว่า วันนั้นน้ำแล้ง เจอแต่หาดโคลน ตลิ่งสูงและสายน้ำที่แห้งหาย
อุ๊ยรำพึงถึง ตลาดเก่าที่เคยมาในยามเด็ก จึงชวนกันไปเดินสำรวจ
โชคดีที่เจอร้านเจ๊เล็ก ที่ขายสินค้าซึ่งอาจหาได้ไม่ง่ายนักในยุคนี้
ทั้งหมาก พลูจีบ บุหรี่มวนด้วยใบจาก สีผึ้ง สีเสียด ชัน ไต้ เปลือกไม้ที่ใช้กินกับหมาก
สารพัดสินค้าอีกมากมายที่ชวนให้รำลึกถึงยายและความหลัง
ทั้งเจ้าของยังใจดีที่จะตอบคำถามและชวนคุยอย่างออกรส
เรือนแถวสองชั้น ประตูไม้บานเฟี้ยมหนา ที่บ่งบอกอายุที่ยาวนานยังคงได้รับการรักษาไว้ให้ใช้งานได้
ช่องบานเปิดส่งสินค้าจากเพดานด้านบน ร่องรอยของน้ำท่วมที่สูงเกือบถึงชั้นสอง
ปี๊บเก่าที่ตั้งเรียงรายไว้ข้างร้าน ข้าวของเครื่องใช้เก่าๆ ตรอก ซอย เส้นทางเดินระหว่างตึก
ดูเป็นเสน่ห์ของวิถีชีวิตที่ยากจะประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อจัดแสดงให้สมจริงได้
พากันอิ่มเอมใจจนใครบางคนออกอาการหิว จึงร่ำลาเจ๊ไปหาอาหารใส่ท้อง
เจ๊ยังบอกให้มองหาร้านที่คนเยอะเข้าไว้ รับรองอร่อย..
เดินตามกันมา ด้วยอัตราความเร็วที่แตกต่าง บ้างก็รี่เข้าไปนั่งเตรียมสั่งอาหารแล้ว
แต่ข่าวจากป้าหวานที่บอกว่าใกล้จะถึง จึงทำให้ต้องเปลี่ยนแผน
มุ่งหน้าไปรับสมาชิกให้ครบคน และเดินทางต่อในเวลาใกล้ค่ำ
ออกจากขนส่งนครสวรรค์ ในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย
มีเพียงเครื่องนำทางที่ส่งเสียงเจื้อยแจ้วเป็นระยะ
ในฐานะคนกำกับแผนที่ แอบนึกกังวลใจ ด้วยเคยได้ประสบการณ์กับเครื่องนี้
บางทีก็พาไปผิดเป้าหมาย บางทีก็สั่งให้ กลับรถ! กลับรถ! อยุ่นั่นแล้ว
ครั้งสุดท้ายก็พาหลงไปในที่ที่เจ้าของรีบวิ่งมาบอก
อ๋อ! ถ้าจะไปที่จุดที่ว่านั้น GPS พาหลงมาที่นี่หลายรายแล้วครับ!!
ขับรถกันมาจนมืด เส้นทางเริ่มร้างผู้คน ก็ยังไม่ถึงจุดหมาย
ทำให้ต้องคว้าคอมพิวเตอร์พกพาขึ้นมาเปิดแผนที่ตรวจสอบตำแหน่งแห่งหนควบคู่ไปด้วย
ยังดีที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ช่วยให้ส่งเสียงยืนยันกับผู้ร่วมทางสร้างความเชื่อมั่นได้เป็นระยะ
นั่งรถฝ่าความมืด บนถนนเล็กแคบ มุ่งตรงไปตามทิศที่มีจันทร์เสี้ยวนำทาง..
รอบข้างมีต้นไม้รายเรียง
มีสีผึ้งของคุณยายและขี้ไต้ ที่ซื้อกันมาส่งกลิ่นรวยริน พอให้ได้บรรยากาศ
ใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ จึงถึงที่หมาย เป็นคณะสุดท้ายของวันนั้น
ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น พี่หมอเจ๊จากแดนใต้รีบดึงตัวไปหาข้าวน้ำให้กิน
และรับฟังการนัดหมายจากพี่บางทรายก่อนจะแยกย้ายกันไปเข้าที่พัก..
พักก่อนนะคะ..ค่อยเขียนต่อตอนหน้าค่ะ^^
« « Prev : ฤดูหนาว..หนาวววว อีกครั้ง
Next : เฮฮาศาสตร์ห้วยขาแข้ง..(2) » »
1 ความคิดเห็น
ขอบคุณมากครับ เยี่ยมจริงๆ