ฤดูหนาว..หนาวววว อีกครั้ง
อ่าน: 1935
รู้สึกว่า ปีนี้เป็นปีแห่งการเดินทางไกล มีธุระให้ต้องไปโน่นมานี่ไม่ว่างเว้น
ช่วงคริสต์มาสมีกำหนดเดินทางไปเมืองกรุง ซึ่งเตรียมใจพร้อมรับรถติดตอนขากลับไว้แล้ว
ก็เป็นช่วงวันหยุดยาว ใครๆ ก็อยากเที่ยว อยากมาสัมผัสความหนาว
แถมปีนี้อากาศก็เป็นใจ หนาวววววมาก มาตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม
.
ก็เพราะอากาศหนาวมาก หนาววูบลงอย่างรวดเร็ว
เสื้อฤดูหนาวของคุณย่าทั้งสองที่เก็บไว้ ดูจะไม่เป็นที่ถูกใจและไม่อุ่นพอ
จึงเกิดรายการช็อปปิ้งฤดูหนาว ได้เสื้อหนานุ่มมาฝากทั้งคุณย่าและสมาชิกในบ้านครบคน
.
คุณย่าคนน้อง สวมเสื้อนั่งตัวกลมอยู่ไม่นานก็บอกหนาว จะเข้านอน
นอน..นอน..ไม่ยอมลุก ไม่ยอมกิน ดูง่วงซึมตลอดเวลา
จึงต้องพากันอพยพมานอนโรงพยาบาลในคืนคริสต์มาสอีฟ
ยกเลิกทริปไปเมืองใหญ่ ย้ายมาใช้ชีวิตบนตึกสูง
เฝ้าดูอาการ ที่อยู่ระหว่างความฝันและความตื่น
เฝ้ามองการสืบค้น รอคอยที่จะพบสาเหตุเพื่อรักษา
ด้วยความชราทำให้หลายเรื่องในร่างกายผิดเพี้ยน และซับซ้อนขึ้น
.
ใช้เวลากับการสนองตอบ การรับรู้กึ่งฝันกึ่งตื่นของผู้ป่วยไข้
ทั้งให้ยกย้ายสิ่งของที่ไม่มีจริง ทั้งเรียกหาผู้คนที่คนเฝ้ามองไม่เห็น
บรรยากาศในยามดึก ที่ถูกใช้ให้ไปไล่ใครที่ไหนที่มายืนจ้องหน้า
ให้ไปรับเด็กที่นั่งอยู่บนระเบียงด้านนอก
หรือพูดกับบรรดาญาติผู้ใหญ่ที่จากไปนานแล้วหลายปี
เรื่องราวอีกมากมาย ที่หากมีจริตในทางคุณไสย์ คงได้ผวาตาตื่นขนลุกขนชัน
.
ให้อัศจรรย์กับเรื่องราวที่เก็บไว้ในความทรงจำ
เรื่องราวที่ราวกับผู้สูงวัยย้อนไปอยู่ในวันเวลาที่ล่วงมากว่าห้าหกสิบปีแล้ว
ความป่วยไข้ และวัยของผู้ใหญ่ในบ้านที่มากขึ้นทำให้ต้องเตรียมการ
ในวันที่สับเปลี่ยนเวรเฝ้าไข้ได้เรียบร้อย ก็ถึงเวลาเดินทางอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อได้รับความเอื้อเฟื้อจากเครือญาติ ติดต่อหาผู้ช่วยมาเพิ่ม แต่ต้องเดินทางไปรับ
.
เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่ได้นั่งรถพร้อมเด็กสาวผู้นำทางสองคน
ที่สนทนาทางโทรศัพท์กับเพื่อนด้วยภาษาที่ฟังไม่ออกสลับกับนอนหลับไปตลอดทาง
ระยะเวลาสองชั่วโมงครึ่งกว่าจะไปถึงจุดหมาย
เท่ากับเวลาที่ว่าที่ผู้ช่วยคนใหม่ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ลงเขามาจากบ้านมาพบกันเช่นกัน
.
รออยู่ครู่ใหญ่จึงได้เห็นเด็กสาวคราวลูกหลาน แบกเป้ใบน้อยยิ้มใสซื่อเข้ามาสวัสดี
บอกว่ามีเหตุขัดข้องที่ทำให้ต้องรอ รถยางแบน คนมาส่งต้องยืมรถเพื่อนมาใช้
พร้อมกับจะแลกตัวหนึ่งสาวที่เดินทางมาด้วยกลับไปเยี่ยมบ้าน
“คนนี้เขาเป็นญาติคนนี้ แล้วคนที่มาส่งคนนี้เขาเป็นพ่อของคนนี้ค่ะ คนนี้เขาจะกลับบ้าน..”
อีหนูผู้นำกลุ่มช่วยอธิบายให้หายสงสัย แบบที่คนฟังยังงงๆ
.
เห็นเธอผู้จะกลับไปเยี่ยมบ้านขอแวะซื้อของ
เห็นเธอผู้มาส่งฝากเงินทองจำนวนน้อยนิดไปให้แม่แล้ว สะท้อนใจ บอกไม่ถูก
ด้วยอายุเพียงสิบเจ็ดปี พวกเธอล้วนมีภาระที่ต้องดูแล..
ระหว่างนั้น มีเพื่อนเข้ามาทักทายว่าที่ผู้ช่วยคนใหม่ ได้ความว่าเพื่อนย้ายมาอยู่ในอำเภอแล้ว
“เขาแต่งงานแล้ว เลยย้ายมาอยู่กับผัวเขาค่ะ..”
เอิ่มมม!! บอกแล้วว่าใสซื่อ ภาษาก็ซื่อๆ น่ะนะ
เดินทางกลับ ส่งผู้นำทางกลับบ้าน มอบหมายให้แม่บ้านตัวจริงสอนผู้ช่วยคนใหม่เตรียมไว้
ได้เวลาก็มารับเวรต่อ อยู่รอหมอเฉพาะทางที่เดินเข้าออกนับถึงวันนี้ก็สี่สาขาแล้ว
นี่ถ้าไม่นับว่าเป็นวันหยุดยาว คุณน้องพยาบาลคงได้เจาะโน่นนี่ส่งตรวจต่ออีกหลายรายการ
คนทำหน้าที่เฝ้าไข้ก็ทำงานไป ทั้งเช็ดหน้า ตัดเล็บ พูดคุย แก้ไขความหลงลืม สับสนซ้ำๆ
สังเกตอาการไว้คอยรายงานความก้าวหน้า
.
วันนี้คุณย่าคนรอง ตื่นมากขึ้นบ้างแล้ว พูดคุยด้วยแววตาที่รับรู้มากขึ้น
แม้จะบอกเวลากลางวัน เป็นกลางคืน และยังพูดถึงคนอื่นที่ไม่มีตัวตนให้เห็นอยู่บ้าง
อย่างน้อย ก็ยืนหยัดมาถึงวันสิ้นปี ปีหน้าจะก้าวสู่ขวบปีที่แปดสิบห้าของชีวิต
สี่ปีที่แล้วเธอก็ฉลองปีใหม่ในโรงพยาบาล แล้วอยู่มาจนผ่านฤดูหนาวมาถึงแปดสิบสี่หนาวได้
แค่หนาวต่อไปมันจะแค่ไหนนักเชียว เชอะ!!
.
ปีนี้ขอส่งความรัก ความปราถนาดี มาจากตึกสูง ในวันที่มีหมอกมุงเมืองนะคะ
ขอให้มีความสุขกาย สบายใจ ปราศจากโรคภัยทุกท่าน
สวัสดีปีใหม่ 2557 ค่ะ
« « Prev : วุ่นวาย..ไม่วุ่นใจ..
Next : เฮฮาศาสตร์ห้วยขาแข้ง..(1) » »
ความคิดเห็นสำหรับ "ฤดูหนาว..หนาวววว อีกครั้ง"