เฮฮาศาสตร์ห้วยขาแข้ง..(2)
อ่าน: 2873ตื่นขึ้นมาในยามเช้ากว่าปกติ
อากาศหนาวเย็นตั้งแต่ตอนกลางคืน
อุ้ยแง้มหน้าต่างไว้ให้ได้สัมผัสอากาศภายนอกอย่างเต็มที่
โชคดีที่มีน้ำอุ่น..ไม่เช่นนั้นคงมีการหลบเลี่ยงไม่อาบน้ำกันบ้าง
โดยข้อจำกัดของวัย ทำให้ลุยมากไม่ได้เท่าเดิม
ตรวจสอบพยากรณ์อากาศตั้งแต่ก่อนเดินทาง ในช่วงที่บ้านยังหนาวมาก
ไม่ใคร่ได้เจออุณหภูมิในภาคกลางที่ใกล้เคียงกับภาคเหนือ
แต่ก็ชวนผู้ร่วมทางเตรียมเสื้อผ้าให้หนาพอรับมือ
แถมยังกะเผื่อพี่สาวคนใต้ที่อาจไม่ได้ตระเตรียมมา
เจอหนาวจริงค่อยโล่งใจ ไม่งั้นคงได้ถูกล้อเลียนไปตลอดทริป..^^
พอมีเวลาแว้ปไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ ก่อนเดินไปยังสถานที่รับประทานอาหาร
ระหว่างทาง แวะนั่น ดูนี่ไปตามประสา
เหลือบเห็นถุงพลาสติก เห็นขวดที่ใช้แล้ว อยู่ตามข้างทาง..อดใจไม่ได้ตามเคย
แวะเก็บไปด้วย ตั้งใจจะเอาไปทิ้งในถังขยะ
และพบว่า เป็นสิ่งที่หายาก แม้กระทั่งในห้องน้ำ ที่คาดว่าจะมี ก็ไม่เห็น
การจัดการขยะ ดูจะเป็นเรื่องเล็กน้อยเกินกว่าจะมีใครใส่ใจ
คนทิ้งไม่ได้นึกถึงผลที่ตามมา คนที่อยากช่วยเก็บก็หาที่ทิ้งที่เหมาะสมไม่ได้
ก็ต้องปล่อยปัญหาไว้ให้ค้างคาใจอยู่อย่างนั้น
อาจมีอีกหลายคนที่อยากเก็บแต่พบเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้วก็เป็นได้
เสร็จจากอาหารเช้า ก็จัดแบ่งจำนวนคนขึ้นรถ
เชิญครูบาสุทธินันท์ อาจารย์แฮนดี้ พี่หมอเจ๊ คุณคอน และน้องเม้งมาเป็นสมาชิกเพิ่มในรถ
จนรถออก ถึงนึกขึ้นได้ว่า น้องฝนกลายเป็นสมาชิกคันอื่นเสียแล้ว
ได้แต่ปลอบใจเธอว่า คันนี้รถ ส.ว.นะ จะมารึ นับอายุรวมกันได้เกิน 700 ปีทีเดียวเชียว
โอนตำแหน่งผู้นำทางไปให้คุณคอน ผู้เชี่ยวชาญกว่า
ถอยมานั่งกับกลุ่มเยาว์วัยที่สุดในรถที่เบาะหลัง ให้ได้นั่งคุยกันไปตามประสา
ทางด้านหน้า ก็ทำหน้าที่กำหนดตำแหน่ง กำหนดจุดสำคัญ ด้วยเครื่องมือไฮเทค
เพื่อน้องเม้งจะนำข้อมูลไปใช้ ในงานของเธอต่อ
และได้ฟังพ่อครูบาสนทนาในเรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังไประหว่างทาง
ไปห้วยขาแข้ง ด้วยอารมณ์ที่หม่นๆ ลึกๆ ของตนเอง
นึกถึงเรื่องราวของคุณสืบ นาคะเสถียร ที่ได้อ่านจากหนังสือสารคดี
นึกถึงเรื่องเล่าจากคนใกล้ชิด และ จดจำความรู้สึกที่ได้อ่านหนังสือนั้นทั้งน้ำตา
เป็นความเศร้าเจือด้วยอารมณ์ ความรู้สึกหลากหลาย ต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น
นึกถึงภาระที่แบกหนักในใจคน จนต้องตัดสินใจละทิ้งชีวิต ละทิ้งผู้คนที่รัก ที่ใกล้ชิด
ทั้งเตรียมการเพื่อการนี้อย่างตั้งใจ
แม้เมื่อเห็นป้ายมรดกโลก ได้สัมผัสถึง แรงบันดาลใจที่มีต่อผู้คนที่สืบทอดเจตนา
ก็ยังไม่วาย เสียดายชีวิตของคนดีที่จากไป
เมื่อถึงอุทยานห้วยขาแข้ง บริเวณที่จะพากันไปคารวะอนุสาวรีย์ของคุณสืบ
ทางเข้ามีเพียงสะพานแขวนให้เดินข้ามลำห้วยที่มีน้ำใสไหลรินเท่านั้น
รถที่จะเข้าไปต้องใช้วิธีขับลุยลงไปในลำห้วย
เป็นการกำหนดให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมได้สัมผัสกับสิ่งรอบข้างอย่างใกล้ชิดตั้งแต่แรกเข้า
เดินโอ้เอ้รั้งท้ายกลุ่ม จนเห็นทุกคนเดินผ่านลานโล่งกว้าง
มุ่งตรงไปยังเนินดิน ที่เห็นมีต้นไม้ใหญ่ทรงสวยอยู่เบื้องหน้า
ตามเข้าไปในช่องระหว่างเนินดินแล้วจึงได้รู้ว่ามีอาคารซ่อนอยู่ภายใน
ซึ่งใช้จัดนิทรรศการเกี่ยวกับคุณสืบ และบรรยาย ให้ความรู้เกี่ยวกับห้วยขาแข้ง
เป็นอาคารที่ออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติได้อย่างน่าสนใจทีเดียว
วิทยากรบอกเล่าเรื่องราวประกอบรูปภาพเกี่ยวกับห้วยขาแข้ง โดยภาพรวมสั้นๆ
เป็นเรื่องราวของผืนป่าตะวันตกที่หลงเหลืออยู่ผืนสุดท้าย
ที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหายากและคุณค่าที่พึงช่วยกันรักษาไว้
ทั้งได้มีเรื่องราวของคุณสืบประกอบเล็กน้อย
ระหว่างนั้น กลับนึกถึงเรื่องราวที่ติดตามอ่านงานเขียนของ ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ
ช่างภาพที่ติดตามถ่ายภาพสัตว์ป่าในเมืองไทย รวมทั้งได้ทำงานที่ห้วยขาแข้งมาก่อน
ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของป่า การดำรงชีพของสรรพสัตว์ และ ผู้คน ที่เกี่ยวข้อง
ในแง่มุมที่กระทบใจและชวนให้ตระหนักคิดได้อย่างมีพลัง
ภาพของเสือแม่ลูกอ่อนที่ได้เห็นจากการบรรยาย จึงมีความหมายยิ่งกว่าเสือ
แต่กลับเจือไปด้วยความคิดคำนึงถึงการทำงานของผู้คนมากมายที่อยู่เบื้องหลัง
การทำงานของผู้คนที่ทุ่มเท ยากลำบากและเต็มไปด้วยความเสี่ยงต่อชีวิต
การรับรู้ใดๆ ย่อมแตกต่างไปตามประสบการณ์เดิมและความสนใจของแต่ละคน
นึกอยากให้มีวิธีการนำเสนอเรื่องราวที่สำคัญเหล่านี้ด้วยวิธีการที่ทรงพลังมากขึ้น
เพิ่มมิติในด้านอารมณ์ ความรู้สึก ทัศนคติและความตระหนัก มากกว่ามีเพียงข้อมูล สถิติ
อาจด้วยภาพยนตร์สั้นๆ หรือสื่อ เทคโนโลยีอื่นๆ ที่คงต้องอาศัยมืออาชีพ มาช่วยเหลือ
อยากให้ผู้คนได้กลับออกมาจากการชมพร้อมกับความรู้สึกกระทบใจ
และอยากมีส่วนร่วมด้วยการลงมือทำบางสิ่งบางอย่างตามกำลังของตน เพื่อ รักษาทรัพยากรนี้ไว้
การมาร่วมกิจกรรมกับกลุ่มขนาดใหญ่ ทำให้ไม่ได้ละเลียดรับรู้เท่าใดนัก
แต่ยังได้แวะชมภาพเมื่อครั้งสมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ เสด็จมาห้วยขาแข้ง ให้เป็นบุญตา
ก่อนจะทำเวลาติดตามกลุ่มไปต่อ
เดินตามทางที่สร้างลวดลายไว้อย่างพิถีพิถัน เหมือนเรียบง่าย แต่ต้องใช้ฝีมืออันประณีต
สุดทางที่ทอดยาว ภาพกลุ่มคนที่คุกเข่า คารวะและเสียบธูปกรุ่นควันไว้ที่ฐานอนุสาวรีย์คุณสืบ
คงอธิบายความมุ่งมั่น และการเสียสละอันยิ่งใหญ่ที่ประจักษ์ในหัวใจคนได้แจ่มชัด
ทราบในภายหลังว่าพวงมาลาผ้าขาวม้าที่ใช้คารวะ จะกลายเป็นของใช้ที่มีค่า
ผ้าขาวม้า ผ้าสารพัดประโยชน์ เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับเจ้าหน้าที่ที่นี่
ยังมีเส้นทางนำไปยังเรือนไม้หลังกะทัดรัด ริมธาร
จินตนาการถึงคืนวันอันสงัดเงียบ ในราวป่า กว่ายี่สิบปีที่ผ่านมา
นึกถึงวันเวลาที่ความทุ่มเท และพลังทั้งมวลของคนคนหนึ่งที่ใช้เพื่อแก้ปัญหาสารพัน
แม้ปัจจุบันหลายเรื่องถูกแก้ไข หลายเรื่องยังคงไว้ให้สืบต่อ
หลายเรื่องยังคงรอให้คนรุ่นหลังได้มองเห็นความสำคัญ
ยืนมองเรือนไม้ ด้วยใจครุ่นคิดคำนึงไปไกล..
ได้รับแจ้งว่าต้องยกเลิกกิจกรรมเดินป่าที่กำหนดไว้
เจ้าหน้าที่ส่งข่าวมาว่าพบช้างกำลังตกลูกอ่อนอยู่ในป่า
จึงพากันเคลื่อนขบวนออกมายังที่ทำการด้านนอก
ระหว่างทาง ก็มีเหตุให้หยุดรถ
ที่ผ่านมาเห็นแต่ป้ายระวังสัตว์ป่า ตัวจริงเพิ่งโผล่มาให้เห็นกันตอนนี้
ในพงไม้ข้างทาง กวางยืนและเล็มใบไม้อยู่ ใกล้พอให้ตากล้องทั้งหลายได้ถ่ายภาพ
และให้กองเชียร์ในรถส่งเสียงฮือฮาพอได้บรรยากาศ
เมื่อแวะรับประทานอาหารว่าง ก็ยังได้ย่องไปถ่ายรูปหมู่กระจงน้อย ที่นำมาปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
เธอมาและเล็มหาอาหารอยู่ใกล้ๆ พอให้ผู้คนแอบดูได้บ้าง
โชคดีที่ท่านหัวหน้าอุทยาน กลับจากธุระมาทันพูดคุยกับคณะ
จึงได้รับฟังเรื่องราว ที่นำเสนอด้วยลีลาน่าสนใจ ทั้งให้ข้อมูล บอกเล่าให้รู้ถึงปัญหา
และความพยายามจะแก้ไขโดยไม่ได้หวังพึ่งตามระบบเท่านั้น
แต่ผลักดันเครือข่ายหลากหลายให้ร่วมมือ
ทั้งถือเอาแนวทางของคุณสืบ เป็นเครื่องนำพาไปในการทำงาน
ความสามารถในการสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญสำหรับงานที่ต้องการให้เกิดความร่วมมือร่วมใจเสมอ
รับประทานอาหารกลางวันกันในสถานที่จัดไว้ใกล้ธารน้ำใส
เด็กๆ ในคณะพากันเดินลุยน้ำพอได้รสชาติ
ความสนุกสนานต่อสิ่งใดในวัยเด็กคงเพาะเมล็ดพันธุ์เล็กๆ ของการเห็นค่าในสิ่งนั้นได้
การเปิดโอกาสให้ผู้คนมาสัมผัสความสุขจากการอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ
คงเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้คนเห็นคุณค่าและร่วมรักษาไว้
เป็นงานใหญ่ที่ผู้รับผิดชอบยังคงต้องเหน็ดเหนื่อยต่อไปอีก
รถผ่านผู้คนที่ล้อมวงกินข้าวข้างเต็นท์ในสนาม
เรียกเสียงฮือฮาจากใครบางคนในรถ..อยากมาเที่ยวแบบนี้บ้าง
ยิ่งเห็นกวางฝูงใหญ่และเล็มหญ้าอยู่ใต้ต้นไม้ ยิ่งทำให้เสียงเรียกร้องให้จอดรถถ่ายรูปดังลั่นรถ
ถ่ายรูปกันจนพอใจแล้ว จึงเดินทางต่อ..
เขียนยาวแล้วเนาะ..ค่อยอ่านต่อตอนต่อไปนะคะ..^^
« « Prev : เฮฮาศาสตร์ห้วยขาแข้ง..(1)
Next : เฮฮาศาสตร์ห้วยขาแข้ง..(3) » »
1 ความคิดเห็น
ขอบคุณครับ