แมงมุมสุนัขป่า
อ่าน: 4555อันเนื่องมาจากชอบใช้กล้องมองสิ่งเล็กๆแทนตา
และชอบใช้เวลาพักผ่อนด้วยการถ่ายรูป
เมื่อได้ยินว่าสารภีต้นเล็กหน้าอาคารเรียนมีผึ้งมาตอมเต็มไปหมด
เช้านี้ตั้งใจจะไปลองสำรวจดู
ขณะเดินลัดสนามไปเห็นผึ้งวนเวียนตอมดอกหญ้า
ให้นึกสงสัย..ผึ้งใช้น้ำหวานจากส่วนใด
จึงแวะนั่งตั้งสมาธิถ่ายรูปดอกหญ้าที่เห็นเกลื่อนกล่นในสนามอยู่นาน
ขยายภาพดูจากกล้องก็มองเห็นส่วนของดอกเล็กๆ สีชมพูพริ้งพราว
อ้อ..เล็กแค่นี้เอง ก็ยังเป็นแหล่งอาหารของผึ้งได้
เดินไปต่อที่ต้นสารภีที่ดอกเต็มกิ่งส่งกลิ่นกรุ่นไกล
ทั้งผึ้งเล็ก ผึ้งใหญ่ และแมลงภู่บินกันว่อน เสียงหวี่หวู่
สังเกตว่าผึ้งเล็ก ผึ้งใหญ่จะมาแต่เช้า สายหน่อยปริมาณแมลงภู่จึงเยอะขึ้น
ยืนนิ่งๆ อยู่ใกล้ๆ รู้สึกได้ถึงแรงลมจากปีกแมลงทีเดียว
เพลิดเพลินกับการทำงานของแมลงภู่ ผึ้งที่บินตอมดอกโน้น ดอกนี้
สะสมละอองเกสร ไว้ที่ขาเป็นก้อนกลมๆ สีเหลือง
จ้องถ่ายรูปพลางก็นึกขำ..มิน่า คนโบราณถึงเปรียบเปรยชายหญิงเป็นดังแมลงภู่กับดอกไม้
เห็นผึ้งใช้เวลาสะสมเกสรจากดอกไม้ไปทีละดอก
แต่เห็นแมลงภู่บินโฉบแวบๆ อย่างรวดเร็ว จากดอกโน้นนิด ดอกนี้หน่อย
เดี๋ยวก็วกกลับมาดอกเดิม เดี๋ยวก็บินจากไป
ทั้งเห็นดอกไม้บางดอกที่แม้งดงาม แต่แมลงก็บินข้ามไปมาไม่เห็นแวะ^^
อุตส่าห์ตั้งโฟกัสรอที่ดอกงามอยู่เป็นนาน ก็ไม่บินผ่านเข้ามาในเฟรมให้ถ่ายสักที
และมีโศกนาฏกรรมบนต้นสารภีให้เห็น
ผึ้งที่มีปีกบินว่อน..กลับเป็นเหยื่อของมดแดง..ที่พากันรุมล้อมคาบกลับรัง
…………….
ยามสายถึงเวลาเริ่มงาน มีการบ้านให้ต้องสะสางอีกมาก
ลงนั่งหน้าโต๊ะด้วยอารมณ์เกียจคร้าน ก่อนจะทำงานขอจัดรูปสักหน่อยก็แล้วกัน
ดูรูป แล้วก็ได้เรื่อง..เอ๊ะ..นี่แมลงนี่นา บนดอกหญ้ามีแมลงด้วย
ชวนกูรูการเกษตรประจำโรงเรียนมาดู ได้คำตอบว่า
ตัวอ่อนเพลี้ยจักจั่นไง
อ้าว!!..เอ๊ะ..นี่จั๋กจั่นอยู่ตรงนี้พอดี..ตายยังเนี่ย..
พูดพลางเธอก็เอามือไปหิ้วปีกจั๋กจั่น..ที่ส่งเสียงแว๊!!..ลั่นออกมาทันที..
อ้าว..ยังไม่ตาย..
จึงได้รูปถ่ายจักจั่นมาอีกรูป..ก่อนจะเอาไปปล่อยบนต้นไม้
ติดใจว่ามีแมลงอยู่บนยอดหญ้า จึงคว้ากล้องออกไปส่องอีกรอบ
คราวนี้เห็นทั้งเพลี้ย เห็นทั้งแมงมุมสีเหลือบทองสวย
ด้วยความอยากรู้จึงค้นดูเรื่องราวทั้งดอกหญ้าและเพลี้ยจักจั่น
ดูแล้วหญ้าน่าจะเป็นหญ้านก ลักษณะออกเป็นกอและช่อดอกคล้ายกับรูปที่เห็น
ไม่เลื้อยเหมือนหญ้าไทรหรือหญ้าไซ
ได้รู้ว่ามีหญ้าแปลกๆ อีกมากมาย หญ้าปากควาย หญ้าพุ่งชู้ ที่ไม่ใช่หญ้าเจ้าชู้
ชื่อหญ้าจิ้มฟันควายแต่ไม่ใช่หญ้า ฯลฯ
ทั้งได้ความรู้เกี่ยวกับเพลี้ยจักจั่นและเพลี้ยอื่นที่เป็นศัตรูพืช
มีแมงมุมสุนัขป่าที่เป็นตัวห้ำคอยกินเพลี้ยเป็นอาหาร
ทั้งสามารถวิ่งไปมาบนผิวน้ำระหว่างกอข้าวและไม่สร้างรังเพื่อดักเหยื่อ..
อืมมม..เป็นความรู้ใหม่..และยิ่งตอกย้ำว่า มีอะไรใกล้ตัวที่ยังไม่รู้อีกมาก
มีดอกไม้ มีแมลง มีมดคอยกินแมลง
มีพืช มีศัตรูพืช มีตัวห้ำคอยกินศัตรูพืช
สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น และมีอยู่ในธรรมชาติ ล้วนมีเหตุ มีผล ที่ดำรงอยู่และเป็นไปเสมอ
การไม่ได้ทำงานที่ควรทำในวันนี้ แต่เฉไฉไปเรื่องอื่น..
ก็ล้วนมีเหตุและมีผล..เช่นกัน..เหอ..เหอ..เหอ..
.
.
.
บันทึกอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
เรื่องที่ยังไม่กระจ่าง : คำเตือนมีภาพชวนขนลุก
เวปไซต์ที่น่าสนใจ
ระบบสืบค้นข้อมูลพรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำนักงานหอพรรณไม้ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพรรณพืช
เรียนรู้เกี่ยวกับส่วนประกอบของหญ้า
Next : ออกแบบการเรียนรู้..ออกแบบชีวิต » »
7 ความคิดเห็น
ดอกสารภีที่บ้านพี่วายไปแล้ว ปีนี้ไม่ได้ถ่ายรูปดอกสารภีเลย เพราะเดินทางตลอด กลับมาอีกทีก็วายไป สารภีต้นที่บ้านพี่นั้นซื้อกล้ามาจากเชียงใหม่ พี่ชอบไปนั่งใต้ต้นสารภีตอนเช้าที่ฝูงผึ้งบินมาเอาเกษรไป แมลงภู่ด้วย เจ้ามดแดงแรงฤทธิ์นั่นก็มี แต่ไม่เคยเห็นมันเผด็จศึกเจ้าผึ้งชตาขาดตัวนี้ ตอนนี้จันกะพ้อออดดอกหอมไปทั้งบ้าน เช้าๆกลีบดอกร่วงพรูเปาะแปะ เหมือนฝนตก ชอบมากๆๆๆๆๆๆ แต่ปียี้ดอกไม่ดก และไปออกซีกที่ไกลจากระเบียงบ้าน เลยไม่ได้ถ่ายรูปอีกตามเคย
ดอกหญ้าสวยอ่ะ
วันหลังเจอจะนั่งไกลๆ กลัวโดนส่อง อิอิ
ไปเปิดดูรูปดอกจันทร์กระพ้อแล้วดูดอกคล้ายลั่นทมแต่ใบไม่เหมือนนะคะ. เคยได้ยินชื่อนานแล้วและทำไมรู้สึกว่าเป็นดอกไม้ที่ดูโรแมนติกก็ไม่ทราบค่ะ สงสัยได้อิทธิพลมาจากการอ่านนิยาย. ดอกกรรณิการ์ก็น่ารักและหอมชื่นนะคะ
วันก่อนน้องประชุมทีมค่ายฤดูร้อน ซึ่งปีนี้มีคุณครูเข้ามาใหม่หลายคน. จึงใช้บันทึกของพี่บางทรายอธิบายให้เห็นภาพและขอให้ไปเปิดอ่านบันทึกที่เขียนเกี่ยวกับค่ายปีก่อนๆ ด้วย จึงเรียนท่านที่ปรึกษามาด้วยความขอบพระคุณค่ะ อิอิอิ
น้องอึ่ง พี่ชอบงานค่ายเพราะมันเหมือนเอาคนไปหลอมความคิด สมัยปฏิวัติอินโดจีนเขาก็เอาคนเข้าค่ายสัมนา ก็คือเอาไปเปลี่ยน ปรับ ล้าง สมองใหม่ ซึ่งขึ้นกับกระบวนการ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่คุณครูต้องมานั่คิดหากระบวนการดีดี เหมาะสมกับเนื้อหาสาระ ซึ่งเชื่อว่า ที่นี่ก็ทำอยู่แล้ว พี่ไปดูงานโรงเรียนไม้ไผ่ หรือโรงเรียนมีชัยพัฒนาของท่านมีชัย วีระไวทยะ ท่านใช้หลักสูตรกระทรวง แต่เอามาสร้างกระบวนวิธีการเรียนการสอนใหม่หมด ไม่มีรูปแบบของห้องเรียนเดิมๆอยู่เลย คุณครูถูกเด็กประเมินหมด มีงานปฏิบัติมากมายที่กลับเอาไปใช้ที่บ้านได้ เช่น ปุ๋ยชีวภาพ หมูหลุม เลี้ยงเป็ด ไก่ ในเล้าเดียวกัน แปลงมะนาวนอกฤดู โรงเรียนอยู่ในสวนมะม่วงที่มีท้องร่องเต็มไปหมด พี่มีเวลาน้อย แต่ก็ประทับใจแนวคิดเช่นนี้ ก็เหมือนที่น้องอึ่งกำลังทำนั่นแหละ แต่ที่นี่เขาขอทุนต่างประเทศมาได้มากมาย เด็กเรียนฟรีหมด มีหลักสูตรไปฝึกการประกอบกิจการที่พัทยาด้วย ครูกับศิษย์มาออกแบบหลักสูตรร่วมกัน
หากน้องอึ่งไปสวนป่า ก็เลยไปเยี่ยมโรงเรียนนี้ก็ไม่เลวนะ เรียนรู้แนวคิดอีกแบบหนึ่งของการสร้างโรงเรียนในฝันครับ อยู่ที่ลำปลายมาศครับ
ที่เจอก็คือ บางทีครูไม่ได้อ่านหลักสูตรให้เข้าใจ ไม่ค่อยมีทักษะในการคิดกิจกรรมการเรียนรู้ที่นำไปสู่เป้าหมายที่แท้จริง ติดอยู่แค่เนือหาและวิธีการ หรือไม่ก็ติดกับหนังสือแบบเรียนที่สำนักพิมพ์ทำมาขาย ต่างคนต่างสอนเฉพาะวิชาที่ตัวเองเรียนมา ไม่ทำเป็นเนื้อเดียวกันที่จะพาเด็กไปสู่การนำความรู้ไปใช้ ฯลฯ ผู้ปกครองก็แค่คาดหวังให้ลูกได้เกรดดี เรียนต่อโรงเรียนดังได้แต่ไม่ได้มองที่การพัฒนา”ตัวเด็ก” ฯลฯ มีรายละเอียดในการปฏิบัติมากมายที่ยังต้องหาความรู้และพัฒนาตนเอง พัฒนาทีม เวลามีจัดอบรมเพื่อพัฒนาครูโดยหน่วยงานอื่น บางทีก็ไม่ตรงกับความต้องการของเรา จัดเองก็ต้องใช้เวลาและงบประมาณพอสมควร ทำค่ายนี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยพัฒนาครูโรงเรียนน้องอยู่เหมือนกันค่ะ
จัดการศึกษานี่เรื่องใหญ่นะคะ ยังรู้สึกเสมอว่า รู้เท่าไรก็ยังเหมือนไม่พอ ต้องเรียนต่ออยู่เรื่อยเลยค่ะ ^^
[...] ภาพจาก dd_l lanpanya.com [...]