สวรรค์ล่มจนได้
..ตะวันตกดินกำลังโพล้เพล้ ไก่ต๊อกและนกยูงเริ่มโผบินไปเกาะคอนเตรียมหลับนอนในค่ำคืนนี้ โฉมยงถามว่า จะรับประทานมื้อเย็นที่ไหน ก็เอาตรงชานบ้านนี่แหละน้อง เป็นมุมอาหารที่แวดล้อมไปด้วยความรื่นรมย์ เปิดสปริงเกอร์โปรยละอองชุ่มชื่นให้ปลิวไสว มีไก่ยำมะม่วง น้ำพริก/ผักลวก ปลาตัวเล็ก ๆ อบกรอบ ตามด้วยมะม่วงสุกตบท้าย นั่งคุยไปคุยมานึกขึ้นได้ว่าเมื่อตอนกลางวันเอามะละกอสุกแช่เย็นมาชิม เป็นของว่างยามบ่ายที่เหมาะยิ่งกว่ารายการคลายเครียดเสียอีก มะละกออย่าเอาที่สุกเกินไป ฝานตอนที่เนื้อยังกึ่งแข็งกึ่งนิ่ม เนื้อสีทองไม่หวานมากนักเป็นคุณสมบัติของมะละกออีสาน โฉมยงเก็บมาตุนไว้ทีละ 2-3 ลูก กลายเป็นผลไม้ประจำในช่วงนี้เสียแล้ว
ตอนที่หมอเจ๊มาได้ชวนปลูกมะละกอไปหลายต้น
หลังจากนั้นก็เพาะและปลูกเพิ่มเรื่อย ๆ
พบว่ามีทั้งมะละกอที่งอกเองและที่เราปลูก
สังเกตได้จากที่เป็นแถวเป็นแนวและขึ้นเปะปะทั่วไป
เนื่องจากไม่ใช่ไม้ยืนต้นจึงปล่อยให้ขึ้นตามอำเภอใจ
ลูกสุกคาต้นก็ปล่อยให้เป็นอาหารนกหนู
เมล็ดร่วงลงมาไก่ไปจิกนกไปชิมแล้วเอาก้นหว่านไปทั่ว
บอกให้โฉมยงเก็บเมล็ดไว้จะเพาะขยายปลูกให้เต็มสวน