วิธีหาเสียงล่วงหน้า

อ่าน: 2639

ประชาธิปะต๋อยนำมาซึ่งความไม่ปกติสุข ลุ่ม ๆ ดอน ๆ เรื่อยมา  ตอนผมเป็นเด็ก ๆ  ปีนั้นมีไข้หวัดใหญ่ระบาดทั่วไปทั้งอีสาน เป็นครั้งแรกที่เด็กบ้านนอกได้เห็นเครื่องบินมาทิ้งยาแก้ไข้และนมผงลงบนสนามหน้าที่ว่าการอำเภอ หลังจากนั้นก็มีการแจกจ่ายยาและนมผงให้กับเด็กๆ เด็กบ้านนอกท้องไส้ไม่คุ้นชิน แทนที่เกิดผลดีท้องไส้ไม่ยอมรับ ดื่มไปก็อ๊วกเลอะเทอะเปรอะเปื้อนหมดไส้หมดพุง ที่ผอมแห้งแรงน้อยอยู่แล้วหน้าเหลืองอ่อนระโหยหนักเข้าไปอีก หมอพื้นบ้านต้องหาทางช่วยตามมีตามเกิด

ยุคนั้นสถานีอนามัยอำเภอมีนางผดุงครรภ์อยู่คนเดียว เที่ยวขี่รถจักรยานไปดูแลชาวบ้านอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทำหน้าที่สารพัดอย่าง วิเคราะห์ไข้-ฉีดยา-ทำแผล-ทำคลอด ช่วยคนรอดมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว การอนามัยสมัยนั้นช่างมหัศจรรย์ยิ่งนัก นางผดุงครรภ์สมัยก่อนเป็นแม่พระของชาวบ้านอย่างแท้จริง ไม่ทราบว่าสะสมทักษะมาได้อย่างไร ถึงดูแลรักษาคนไข้ทั้งอำเภอได้ท่ามกลางความไม่พร้อมสักอย่าง จิตใจที่มุ่งมั่นต่อพันธะหน้าที่เป็นพลังที่สุดแสนบรรเจิด ผมรอดมาจนถึงทุกวันนี้ก็เพราะนางผดุงครรภ์ชั้นเยี่ยมนี่ละครับ

หลังจากเครื่องทิ้งร่มสิ่งของลงมา คืนนั้นมีหนังกลางแปลง เป็นหนังผู้แทนมาหาเสียง ประกาศปาว ๆ ว่ายาและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ นั้น  ท่านเป็นผู้ประสานงานจัดส่งมาบำบัดทุกข์บำรุงสุข ..หลังจากนั้นชาวบ้านก็ได้ฟังสรรพคุณความดี สลับกับสรรพคุณหนัง คนที่เป็นผู้แทนนั้นพูดเก่ง พูดขาวเป็นดำได้หน้าตาเฉย เป็นนักแสดงที่ฝึกฝนจากประสบการณ์ตรง ตีหน้าตายทำให้เราตายใจได้สบายมาก คำมั่นสัญญามีพร้อมแจกจ่ายทันใจไม่มีอั้น  ถ้าตามไล่ตามทัน ท่านก็มีวิธีหลบแว๊บด้วยเหตุผลที่นะจังงัง ปัจจุบันนักการเมืองพัฒนาการไปอีกขั้นหนึ่ง ฝึกฝนการด่าลูกเดียว ดูเหมือนจะด่าเป็นไฟกันทั้งนั้น ใครปากเสียสุด ๆ จะเป็นชื่นชอบมากยิ่งขึ้น คนไทยจึงอยู่กับผู้แทนราษฎรมือสมัครเล่นเหล่านี้ ที่ใช้คำว่าเล่นการเมืองนั้นเจ๋งเป้งที่สุดแล้ว

เมื่อเกิดปัญหาในบ้านในเมือง

มักจะมี..การโยนกลองให้ชาวบ้าน

คุณเป็นคนเลือกมนุษย์พวกนี้มาใช่ไหม?

เลือกมาเองแล้วจะมาบ่นหาพระแสงหอกอะไร?

ประชาชนตาดำ ๆ จะตอบอะไรได้

นอกจากบ่นในใจว่า

..ไม่ได้เลือกให้ม-มาโกงนี่หว่า!

ประเทศที่ไม่ยอมสอนวิชาประชาธิปไตย

ต้องผจญเภทภัยทางการเมืองอย่างนี้ละครับ

ใช่ว่านักการเมืองน้ำดีจะไม่มีเอาเสียเลย

นักการเมืองส่วนใหญ่ต้องการทำดีทั้งนั้น

แต่เงื่อนไขทางสังคม การเมืองเป็นกฎเหล็กที่อยากจะปีนเกลียว

เงินไม่มา กาไม่ถูก ยังศักดิ์สิทธิ์

ถ้าไม่โกงจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อเสียง

เราก็ต้องมองด้วยความเข้าใจจุดนี้เหมือนกัน

ไม่มีนักการเมืองคนไหนหรอกที่ต้องการควักกระเป๋า แต่ทำดีแค่ไหน..เงินพรรคใหญ่ไหลมาทับอนาคตก็จบ เมื่อคนดีมาเป็นผู้แทนเสียงข้างน้อย ระบบที่เอาเสียงข้างมากตัดสิน พรรคการเมืองมีอำนาจล้นฟ้าที่จะทำอะไรก็ได้ แหกกฎหมายนั่นเป็นเรื่องขี้ปะติ๋ว ตั้งกระทรวงใหม่ ๆ เพื่อมารองรับสิทธิประโยชน์เถื่อนก็ทำมาแล้ว  กฎกติกาเถื่อน ภายในซุกซ่อนไม่รู้กี่ร้อยมาตรา

ตอนร่างกฎหมายไล่กันละเอียดยิบทีละคำทีละบรรทัด

ตอนใช้กฎหมายจะเบี้ยวตะกูดยังไงก็ได้มีช่องโหว่ไว้ให้แหก

ผมไม่ได้เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เพราะฝ่ายไหน ๆ ก็ชุ่ยกี่พอ ๆ กัน

ไม่ยังงั้นจะมีเรื่องสาวไส้กันถึงพริกถึงขิงรึ!

ถ้าพิจารณาถึงเงื่อนไขม็อบเสื้อแดงที่ต้องการให้รัฐบาลยุบสภา

ทำให้ผมกังขาอยู่ไม่น้อย

รอไปอีกหน่อยไม่ได้หรือพ่อคุณ

อีกหน่อยก็จะหมดวาระสภาผู้แทนอยู่แล้ว

การเมืองไทยไม่เหมือนการเมืองพม่าที่บิดตะกูดไปเรื่อย ๆ

รัฐบาลนี้มีวาระอยู่อย่างมาก 1 ปี

ทำไมต้องยกขบวนมาป่วนกรุงด้วย

หรือ!!..วิธีนี้

คือการหาเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

ที่เล่าเรื่องรู้ตั้งนานแล้วละลุง เพื่อจะบอกว่า

ในอนาคตอันใกล้นี้

ถ้ามีการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร

พรรคไหนมีเงินถึงเงินถังพรรคนั้นก็จะได้เสียงข้างมากชัวร์ป๊าบ

ซึ่งก็พอจะมองเห็นเค้าลางอยู่แล้ว

เราก็จะอยู่ในกำกับพรรคการเมืองกระเป๋าหนักแต่จิตสำนึกเบา

บ้านเมืองจะเละเทะหรือดีขึ้นก็วิเคราะห์เอาเองเถิด

ช่วยบอกด้วย..

เราจะอยู่ในบ้านเมืองที่ผิดปกติ

ให้ปกติสุขได้อย่างไร?

« « Prev : เสียดายน้ำเสียดายเลือด

Next : สวรรค์ล่มจนได้ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

9 ความคิดเห็น

  • #1 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 มีนาคม 2010 เวลา 11:08

    อ้าว นึกว่าเป็นพิธีบูชายัญเสียอีกครับ

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 มีนาคม 2010 เวลา 12:15

    ถอดรหัสออกมาได้อย่างนั้น
    1 ทำลายความเชื่อถือสถาบันฯ
    2 ทำลายความเชื่อถือบุคคลสำคัญ
    3 ทำหลายพรรคการเมือง
    ได้ผลมาก-น้อย-ไม่เป็นไร ขย่มบ้านเมืองให้น่วม เพืี่อสร้างคะแนนเสียง สะสมหัวคะแนน แต่ก็มีความไหวหวั่นในหมู่กันเองมากขึ้น (มีตัวคูณตัวเลือกเพิ่มขึ้น แต่ตำแหน่งผู้สมัครในนามพรรคมีจำกัด ท้ายๆจะเกิดการแย่งชิงการเป็นผู้นำ เพื่อที่จะได้รับการคัดเลือกเป็นตัวแทนพรรคลงสมัคร)
    โดยสรุปแล้วปัญหามันก็จะพัวพันติดกึกติดกั๊กทุกฝ่ายนั่นแหละ
    ยุ่งๆๆต่อไป เป็นการหาเสียงล่วงหน้า ๆๆๆๆๆ

  • #3 หมอสุ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 มีนาคม 2010 เวลา 13:38

    พ่อคะ
    พี่อุ๊ให้ส่งตารางนิสิตรุ่นใหม่ให้พ่อค่ะ เดินทางออกจากชลบุรี 22 เมษายน หลังข้าวกลางวัน คาดว่าจะไปถึงที่สวนป่าตอนดึก (น่าจะหลัง 3 ทุ่มค่ะ)

    23 เมษายน ออกกำลังยามเช้า
                     Check in นิสิตแพทย์
                     ฟังด้วยใจ
                     รับประทานอาหารกลางวัน
                     ปั้นดินเปิดใจ
                     กลุ่มสัมพันธ์
    24 เมษายน ออกกำลังยามเช้า/ ชมสวนป่า
                     เรียนรู้ชุมชน/ เรียนรู้ตนเอง
                     รับประทานอาหารกลางวัน
                     ใจเขา/ ใจเรา
                     แบ่งกลุ่มเตรียมอาหารเย็น
                     กลุ่มสัมพันธ์
    25 เมษายน ออกกำลังยามเช้า / กินไข่มะเขือพวง
                     นำเสนอสิ่งที่ได้เรียนรู้
                     รับประทานอาหารกลางวัน
                    เดินทางกลับ
    เป็นกำหนดการคร่าวๆค่ะ  ยินดีรับฟังความคิดเห็นแปรับเปลี่ยนค่ะ

    ขอบคุณค่ะ
    หมอสุ

  • #4 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 มีนาคม 2010 เวลา 13:53

    ขอบคุณครับ
    สวนป่าจะเตรียมการบ้านเสริม
    จะชวนทำกิจกรรมเชิงประจักษ์ง่ายๆสนุกๆ
    คาดว่าจะมีญาติแซ่เฮมาร่วมเป็นครูพี่เลี้ยงหลายท่าน
    คุณหมอจอมป่วน น่าจะมาได้ 24-25
    จะรอๆๆและรอนะครับ

  • #5 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 มีนาคม 2010 เวลา 19:47

    พ่อครูครับ หากจะให้ผมรับใช้ในหัวข้อ เรียนรู้ชุมชน ในวันที่ 24 เมษายน ผมก็ยินดีครับ

    24 เมษายน ออกกำลังยามเช้า/ ชมสวนป่า
    “เรียนรู้ชุมชน”

  • #6 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 มีนาคม 2010 เวลา 2:45

    -ขอบคุณมากครับ
    -ดีใจแทนลูกหลานแพทย์รุ่นนี้
    -นักศึกษาแพทย์ควรได้รับแง่คิดมิติชุมชนจากการนักก่อการมืออาชีพ
    -หมอจอมป่วนก็จะมา
    -รอกอดก็มา
    -ไปๆมาๆจะเป็นการชุมนุมชาวเฮย่อยๆไปแล้วนะนี่
    -ผมจะควงตะหลิวผัดกะทะร้อนคอย
    -เตรียมเมนูมังสวิรัติเต็มอัตราศึก ฮิฮิ ๆๆ

  • #7 krupu ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 มีนาคม 2010 เวลา 4:05

    โหย พ่อพูดเรื่องกะทะร้อนนี่เอง อยู่ดี ๆ หนูเลยสะดุ้งตื่นซะงั๊น
    มังสวิรัติก็ดี บาร์บีคิวหมูหมักก็ดี กินได้หมดทั้งสองครัว อิอิอิ
    ไปกินไปอยู่ในสวนป่าก็ดีเหมือนกันนะคะ ทำให้ได้ตีคุณค่าของอะไร ๆ เสียใหม่
    จะได้รู้ไปว่าชีวิตมันก็เท่านี้เนอะพ่อเนอะ มีกินมีอยู่มีสุข จะกะเหี้ยนกะหือรือไปไหนกันนักเล่า
    พี่น้องเอ๊ยย……
    เฮ้อ!
    :(

  • #8 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 มีนาคม 2010 เวลา 4:21

    ครุปูลุกละเมอเรื่องโภชนาการกลางดึก
    อยากจะบอกว่าตอนนี้ ดีกว่าเมื่อวานนี้เสียอีก

  • #9 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 มีนาคม 2010 เวลา 19:35

    น่าจะไปด้วยได้ ถ้ามีรถให้เกาะติดล้อไปด้วยในคืนวันที่ 22 เมษายน หลังการรับน้องจาก 4ส.1 ค่ะ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.87870788574219 sec
Sidebar: 0.34513211250305 sec