คำนิยม
ผมรู้จักครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ ผู้เขียน “โมเดลบุรีรัมย์” เล่มนี้มานานหลายปีแล้ว ผมรู้สึกประทับใจในความละเอียดอ่อนของท่านที่มีต่อสภาพสิ่งแวดล้อม และความมีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ที่ได้แพร่ขยายในสิ่งที่รู้ให้แก่ผู้อื่น โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ครูบาสุทธินันท์ ได้เปิดบ้านให้เป็นโรงเรียนเรียกว่า “มหาชีวาลัยอีสาน” เพื่ออธิบายองค์ความรู้ที่สะสมมาและถอดองค์ความรู้ให้แก่ผู้อื่น บ้านจึงเป็นเสมือนสถานที่สาธารณะที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใฝ่หาความรู้
“โมเดลบุรีรัมย์”เล่มนี้ เป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้ส่วนหนึ่งของครูบาสุทธินันท์ในการทำการเกษตร เพื่อยกระดับเกษตรกรให้เป็นเกษตรกรมืออาชีพที่แข็งแรงและพึ่งตนเองได้ โดยให้ความรู้ในเรื่องการประกอบอาชีพการเกษตร โดยเฉพาะการปลูกต้นไม้ยืนต้นและการเลี้ยงปศุสัตว์ให้มีคุณภาพดี ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ผู้เขียนได้มาจากการปฏิบัติจริง
ผมมีความเห็นว่า หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่มีประโยชน์ ให้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน ทั้งจากเนื้อหาและวิธีในการเขียนที่ได้อรรถรสชวนให้ติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้ที่ยังไม่ได้อ่านควรจะได้หาอ่านเพื่อเพิ่มความรู้ต่อไป
(ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล)
หมายเหตุ ฝากถึงป้าหวาน งานที่ป้ากรุณาสำเร็จดั่งใจหมาย แล้วละครับ
ผมมองอย่างนี้ครับ >>
คำนิยมหลักจากพระอาจารย์ใหญ่ ดร.สุเมธ ตันนิเวชกุล ได้เมตตามอบมาให้แล้ว ถ้าตีความคำว่า “คำนิยม” ผมก็ไม่ทราบว่ามีที่มาเป็นอย่างไร เมื่อก่อนจะมีสมุดเยี่ยมให้ท่านที่มาเยือนเขียนเป็นที่ระลึกไว้ แต่ถ้อยคำในสมุดเยี่ยมมันก่อเกิดกำลังใจให้แก่เจ้าสำนักเท่านั้น ไม่สามารถออกไปเปิดเผยภายนอกได้
ผมมองอย่างนี้ครับ>>
การมีส่วนร่วมมือร่วมใจระหว่างชาวเฮนั้น สามารถที่จะออกแบบให้บรรเจิดอย่างไรก็ได้ เพราะคุณสมบัติในตัวตนแต่ละท่านนั้นธรรมดาที่ไหนเล่า ยิ่งกว่าผมมีห่านออกไข่เป็นทองคำเสียอีก ปัญหาอยู่ที่ทำอย่างไรหนอ ห่านถึงจะเบ่งไข่ให้ ผมจะได้ถือตะกร้าเดินไปเก็บทุกๆเช้า
ผมมองอย่างนี้ครับ >>
หนังสือโมเดลบุรีรัมย์ ที่จริงชื่อนี้ออกจะเฝือไปแล้ว แต่ทำไงได้ ในเมื่อกำหนดลงไปแล้ว
เราทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน ผมก็จะเขียนตามควานนึกคิดเท่าที่จะมีน้ำยา ..เหลียวหลังบ้าง มองไปข้างหน้าบ้าง..ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของบ้านเมืองอย่างนี้ มีประเด็นชวนขนหัวลุกอยู่ไม่น้อย จะชนตรงๆก็คงไม่เหมาะ กองขี้หมาเอาเท้าไปเตะก็เหม็นเปล่าๆ เอาแค่เขียนให้มั่นไส้พอหอมปากหอมคอ ซึ่งอาจจะหกคะเมนเค้เก้ได้ เพื่อไม่เป็นการประมาท ผมถึงชวนให้ญาติโกเขียนอะไรมาร่วมขบวนแห่กันหลอนที่ชื่อ “โมเดลอีสาน” ไงละครับ
ผมมองอย่างนี้ครับิ>>
เท่าที่ตามอ่านเรื่องในลานปัญญา ผมเห็นสไตล์ของแต่ละท่านบรรเจิดนัก ล้วนสะท้อนความรู้สึกนึกคิดผ่านร้อนผ่านหนาวจนผะผ่าว ลองพิจารณาเส้นอักษรของแต่ละท่าน ยิ่งอ่านก็ยิ่งเสียดาย ทำยังไงความพิเศษเหล่านี้จะกระโดดออกมาจากหน้ากระดาษได้ ผมไม่รู้นะครับ ท่านจะเขียนทิ้งเขียนขว้างไปทำไม ขอให้รู้เถิดว่า ผมอ่านด้วยความชื่นชม เที่ยวเอาไปโม้เป็นบ้าเป็นหลัง ว่าตนเองมีจอมยุทธยืนอยู่รอบข้าง จะรู้จะเรียนอะไรละ ขอร้องได้ ถามได้ อยากจะบอกว่า ..เจ้าเป็นไผ ได้ไปแสดงอภินิหารอยู่ในที่ต่างๆทั่วประเทศ บางท่านอ่านแล้วเอาไปขยายผลกับนักศึกษา บางท่านเอาไปอ้างอิง
บางท่านเจอหน้าบอกว่า
ผมอ่านแล้ว 3 รอบ
ฮ้า ! ยังงั้นเลยหรือครับ
ด้วยเหตุผลนี้ละครับพี่น้อง >>
โปรดช่วยทำให้คนขี้โม้ได้โม้สะบัดช่อขึ้นไปอีกได้ไหมครับ
ขอสั้นๆ ท่านละ 1 หน้า แล้วท่านจะรู้ว่า
ท่านน่ารักน่ากอดที่สุดในโลก
:: ยกตัวอย่างที่ส่งมาแล้ว
อุ้ย ละเมียดละไมให้ความรู้เรื่องสุขภาพใจควบคู่กับสุขภาพกายได้อย่างเฉิดฉาย
อาว์เปลี่ยน กะเทาะ วิถีชีวิตในลาวมาให้เราออนซอนหลาย