คนขี้หนาว เลี้ยวป้ายนี้

1 ความคิดเห็น โดย sutthinun เมื่อ 17 ธันวาคม 2011 เวลา 6:04 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 1673

ไป ไปเตอะไปแอ่วจังหวัดเชียงใหม่

น้ำลด นอกจากตอจะโผล่แล้ว ยังมีโพยจากสำนักต่างๆทยอยมาแล้วหลายฉบับ ที่หวาดหวั่นใจคือรายการไปเวียงพิงค์ พยากรณ์อากาศรายงานว่าหนาวเหน็บจนแม่คะนิงมาเยือน ผมเป็นคนขี้หนาวเสียด้วย แค่ได้ทราบข่าวหัวใจก็เต้น ตั๊บ ตั๊บ ภาษิตโบราณก็ใช้ไม่ได้ “หนาวผู้หญิงให้อิงผู้ใหญ่” ขืนทำตามที่แนะนำ มีหวังโดนอัดเละแน่ หาว่า..ไม่เจียมบอดี้ไปโน่น

หนาวนี้ผมจะทำยังไงดีละครับ

ในสวนป่าอีสานบ้านผมมันไม่ได้หนาวเข้ากระดูกเหมือนที่อื่น

แค่เย็นๆสบายๆ..เหมาะที่จะนั่งจิบน้ำชาอาบแดด

กลับสดชื่นเหมือนยืนอยู่ตีนเขา..

เสื้อกันหนาวใส่เฉพาะตอนเช้า-เย็น

กลางวันอากาศอุ่นพอดี อาบน้ำทาแป้งได้ตามปกติ

ไม่ต้อง..7 วันอาบน้ำหนเดียว

ไหนๆก็ไหนแล้ว ขอฝากข่าวไปถึงญาติชาวเฮฮาศาสตร์ชาวเหนือ

วันที่ 9-12 มกราคม จะไปนอนบ่มความหลังครั้งหวานจ๋อย

ที่จริงต้องไปโม้วันที่ 10 ที่เหลือเดินทาง-ไปเที่ยว-ไปเกี้ยวสาวชาวอีก้อ

โปรแกรมประชุมสัมมนานานาชาติ “สถาบันอุดมศึกษากับบทบาทการพัฒนาท้องถิ่น” ปีนี้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในนามเจ้าภาพประเทศไทย ไปจัดงานท้าทายลมหนาวที่เชียงใหม่ อาจจะเห็นว่าบรรยากาศเหมาะกับชาวต่างประเทศ ประกอบกับภาคเหนือมีงานท่องเที่ยวระดับอลังการอยู่หลายแห่ง งานพืชสวนโลก งานดอกไม้งามที่เชียงราย แค่ย่องเบาไปดูแม่คะนิ้งที่ดอยอินทนนท์ก็สนุกแล้ว ไปชิมสะตอเบอรี่สดๆ ไป..ชิมก้วยเตี๋ยวลำไย ไปดวลสะเต๊กเจ้าเก่า ล่อข้าวซอยแก้หนาว ชิมชาอู่หลง เจ้าภาพจะพาแขกต่างชาติไปเที่ยวที่ไหนบ้าง เอาไว้รายงานอีกทีดีไหมครับ แต่ที่แน่ๆ ไหนๆมาแล้วก็จะไปสัมผัสหนาวที่คุยว่าติดลบถึง-4 องศา มันท้าทายคนขี้หนาวไม่เบา

· ปีนี้กะหล่ำปลีงามมาก

· ผักเมืองหนาวอื่นๆก็งามมาก

· ผลไม้เมืองหนาวก็งามมาก

· สาวๆจาวเหนือจะไม่งามผ่องได้จะได๋

Ø จะขอไปนอนลำพูน 1 คืน จะได้อายุยืนไปอีก 2 ปี

Ø จะขอให้กิ๊ก!พาไปเก็บแม่คะนิ้งอีกสักรอบ

Ø จะขอไปดวลสะเต๊กข้าวซอยเจ้าเก่ากับขาใหญ่

Ø ขอไปไหว้พระกับอุ้ยกับคุณน้าๆคนสวย

ปีที่แล้วขอให้กิ๊กพาไปดูแม่คะนิ้งปูดอยอินทนนท์

ใครๆก็เตือนให้เตรียมเสื้อหนาวอย่าประมาท

แหม..สาวๆบังคับให้แต่งตัวตุตะ..ผ้าพันคอพอๆกับผ้าผวย

สวมหมวกไอ่โม่งด้วยนะ..

พอไปถึงฟ้าเปิด ..ผิดหวัง..แม่คะนิ้งหลบหน้าไปไหนก็ไม่รู้

จึงแก้ผ้า..ประชด..

เอ๊ย! ถอดเสื้อโชว์ก้างถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

เพื่อจะบอกว่า..ไม่เห็นหนาวสักกะหน่อย

ดอยอินทนนท์ รึ! ไปแก้ผ้ามาแล้ว อิ.อิ.

ท้องฟ้าแจ้งโล่งโจ้ง

ให้เดินถ่ายรูปป่าม็อสจนจุใจ

แต่พอกลับขึ้นรถ.>.>ฝนโปรยละออง

ฟ้าขมุกขมัว อุณหภูมิลดวูบๆ

คนวาสนาอักเสบก็อย่างนี้แหละ

อยากจะไปเจอหนาวให้มันสุดๆไปเลย

แต่เจ้าป่าเจ้าเขาก็แกล้งเสียนี่

แล้วอย่างนี้..เมื่อไหร่จะเจอแม่คะนิ้ง แม่คะน่อง แม่แก้มป่อง กับเขาสักที

โธ่ โธ่ โธ่..


ใครไม่เหงาเอามือลง

อ่าน: 1889

เฮอ รอดตายแล้วพี่น้อง ที่หายๆไป ไปนั่งปั่นต้นฉบับ ที่เขียนร่วมกันกับ พระอาจารย์ไร้กรอบคนละครึ่งเล่ม (จากนาซาสู่รากหญ้า จากรากหญ้าสู่นาซา) ที่ยี่ยักยี่หย่อนมานาน ต้นฉบับของอาจารย์เสร็จแล้ว มืออาชีพลุยคืนเดียวก็เรียบร้อย ผมเป็นเณรน้อยต้องค่อยๆสาระเนไปเรื่อยๆ ไปทดสอบลูกล่อลูกชนในFACE BOOK เพื่อหยั่งดูทิศทางลมผู้อ่าน อิ อิ

บัดนี้ เสร็จแล้ว

คาดว่าจะพิมพ์เรียบร้อยก่อนปีใหม่

แล้วจะส่งมาให้ นะ คนดี

ตอนล่าสุด ..ใครไม่เหงาเอามือลง

ในโลกใบนี้ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่อาจตีราคาประเมินเป็นมูลค่าได้ แต่เราก็ชอบประเมินอะไรเป็นตัวเงินที่มนุษย์สมมุติขึ้น แบ่งกั้นตัวเองไปต่างๆนานา ทำให้มนุษย์เข้าไม่ถึง จึงทำอะไรด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจจะเป็นเพราะเราอาศัยอยู่กับสังคมที่หยาบกระด้าง ทำให้ตาบอดสีใจบูดบึ้ง จะทำอะไรก็เอาความต้องการของตนเป็นที่ตั้ง ทั้งๆที่สิ่งมีชีวิตบนโลกนี้ต่างก็มีสิทธิ์มีส่วนเท่าเทียมกันกับมนุษย์นั่นแหละ การเห็นแก่ได้เห็นแก่ตัวทำให้มนุษย์ทึกทักเอาว่าโลกนี้เป็นของตน จัดการแบ่งโฉนด แบ่งพื้นที่ แบ่งประเทศ แล้วก็ในวงล้อมที่ตัวเองขีดขอบขังไว้

นกไม่มีโฉนด ไม่มีประเทศ

ไซบีเรียหนาวนักก็ชวนกันบินมาอาบแดดในประเทศไทย

แต่เราไม่ใช่นก ก็เอาเถอะนะ เมื่อถลำลึกกันมาจนถึงชั้นนี้แล้ว

จะถอยหลังก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นตรงไหน

อิสระในชีวิตในใจเธอมีอยู่แล้ว

ลองสังเกตดอกไม้ที่แอบเบ่งบานนั่นสิ

ดอกแก้วขาวสะอาดเบิกบานชูช่อส่งกลิ่นหอมกรุ่น

ทยอยร่วงผล็อยโรยลงบนพื้นบ้าน

นางฟ้าที่ไหนหนอใจดีมาโปรยปรายดอกไม้ให้เรา

สวยจนเมินไม้กวาด..

เราจะปัดกวดบรรณาการจากสวรรค์ได้อย่างไรเล่า

ขอชมดอกแก้วดอกแล้วดอกเล่าปูพรมชานบ้านจนเป็นสวรรค์บนดิน

ถ้าใจเราสัมผัสความงดงามกับสิ่งรอบๆตัวก็จะรู้ว่า..

ชีวิตนั้นเกาะเกี่ยวกับธรรมชาติไม่น้อยกว่าพลาสติก เหล็ก ปูน กระดาษ

ถ้าซึมซับความดีที่มีอยู่ในโลกไม่ได้

จะเอาแต่โหยหาความดี ความงาม ความสงบสุข ลมๆแล้งๆ

เข้าไม่ถึง เข้าไม่ได้ ด้วยหัวใจเป็นพลาสติกไปเสียแล้ว

มิตรภาพก็เหมือนดอกแก้วนั่นแหละเธอ

ประเมินค่าไม่ได้หรอก

นึกจะมาก็มา

คงเป็นลิขิตสวรรค์กระมัง

ปีนี้โชคดีนักที่มีหลานรักเพิ่มขึ้น 2 คน

มีเพื่อนแสนดีที่เพิ่มขึ้นอีกหลายสิบหลายร้อยคน

จะมีมากมีมากี่หมื่นกี่แสนคนก็ไม่ได้เป็นภาระอะไรเลยแม้แต่น้อย

เปิดหน้าFacebook ก็เห็นหน้าตาหลานไทยีส ตาแป๋ว

แค่นี้ก็ปลื้มสุขแล้ว

ความสุขนี่นะ บทจะหาได้ง่ายก็ง่าย

บทจะหาได้ยาก ก็อย่างยากเลยนะเธอ

ขึ้นอยู่กับเครื่องเปิดเครื่องรับจะจูนคลื่นได้ดี

รีโมท ถ้ากดไม่ตรงช่องก็ดูภาพไม่ได้

ฉันใดก็ฉันนั้น

อย่านำพาหัวใจหลงเข้าป่าเข้าดงคอนกรีตจนไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน

วางตัววางใจให้อยู่ง่ายๆเบาๆสบายๆได้นี่หน่า..

ทำไมไม่ทำละ

· มีเหตุผลที่จะต้องทำให้ชีวิตพัวพันกับทุกข์อย่างนั้นหรือ

· บางคนอกหัก..เมาหัวราน้ำ

· ถูกกระทบกระเทียบว่าเมาเหมือนหมา

· ที่จริง..ไม่มีหมาตัวไหนมันเมาหรอกนะ

เพิ่งจะรู้ว่าไอโฟนนี่นะ

เพื่อนคนไหนจะ ส่งข้อมูล รูปส่ง ส่งเพลง อะไรมาให้ก็ได้

เขาไม่บอกว่าเป็นใครนี่สิ..

แอบส่งเพลงมาให้ท่ามกลางความเงียบสงัด

ไอโฟน>> ส่งความเหงาก็ได้ด้วยยย..

ใครหนอ..มาล้วงตับคนเหงา..

เธอส่งเพลงมาอีกแล้ว

ไม่รู้จักชื่อเพลงนี้หรอกหนา..

นอนฟังหลายรอบไม่รู้ ต้นเพลง-กลาง-หรือท่อนท้าย

ได้แต่ฟังวนเวียนหลายร้อยรอบ ฟังดูสิครับ > >

อยู่ตรงนั้นเธอเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ ฝากเพลงนี้ให้ไปถามเธอดู อยากจะรู้ในความเป็นไป เธอยังคิดถึงฉันทุกนาทีหรือเปล่า เธอยังจำเรื่องเราในวันวานได้หรือไม่ เธอยังมีใจให้ฉันคนเดียว อยู่รอฉันแค่คนเดียว เธอยังเป็นเหมือนเดิมอยู่ใช่ไหม เธอยังคิดถึงฉันทุกเวลาหรือเปล่า

..ฉันยังเป็นคนที่รักเธอหมดใจ ฉันยังได้แต่คิดถึงเธอเรื่อยไป ฉันยืนดูรูปถ่ายที่เราชิดใกล้อยู่ทุกวัน ฉันยังรอคอยเธอกลับมา..

เพื่อนคนไหนหนอ ทำไมเหงาเศร้าได้ถึงเพียงนี้ เว้าวอนผ่านเสียงเพลง เหมือนกับจะหาเพื่อนร่วมเหงา ..เธอมาถูกที่แล้วละเพื่อนเอ๋ย เหงาก็เหงา เหงาเสียให้เข็ด เธอได้สิ่งนั้น..แล้วนะ

ถ้าอยู่ใกล้จะกอดปลอบใจ..

แต่นี่ อยู่ไกล อยู่ไหน ก็ไม่รู้ จะทำอะไรได้

ขอล้มตัวนอน ฟังเพลงเงียบๆต่อไป

อยากจะบอกว่า..

ที่นี่..ยินดีเปิดรับฝากความเหงา

มีที่ว่างในใจเยอะที่จะรองรับ..

ฮึฮือ ฮึฮือ..


จากรากหญ้าสู่นาซา

อ่าน: 3139


(ถ้ามองเห็นต้นไม้สวยก็ใกล้ความจริงแล้วละครับ)

สรรพสิ่งในโลกนี้พึ่งพากันในทุกชีวิต เพียงแต่คมชัดลึกกับเรื่องเหล่านี้เราก็จะซึมซับอยู่แล้ว ความสำคัญขึ้นอยู่กับคุณภาพของไมตรี จุดพอดีพอได้พอใจหาให้เจอ รายละเอียดขึ้นอยู่กับต้นทุนแต่ละคนจะคิดจะมอง ซึ่งไม่มีอะไรผิดอะไรถูกหรอกนะ ความเป็นไปเป็นมาสัมพันธภาพชีวิตกับสภาพสังคมที่อยู่รอบตัว เป็นพิมพ์เขียวส่วนตัวของใครของมัน อาจจะเกี่ยวกับ-ค่านิยม-นิสัย-ความรู้ความคิด-ประสบการณ์-ล้วนเป็นตัวแปรทั้งนั้นนะเธอ

ถ้าเปิดกว้างที่จะเรียนให้รู้ว่า “เจ้าเป็นไผ”

เราก็จะค่อยๆเก็บความเข้าใจตัวเองและคนอื่นมากขึ้น

เมื่อรู้แล้วจะวางน้ำหนัก “คำว่ารู้จัก” รู้จริง รู้แจ้ง อย่างไร

เพื่อนรัก-เพื่อนสนิท-คนรู้จัก-คนที่รู้ใจ

ความเข้าใจ จะพัฒนาไปเป็นความตั้งใจ

ตั้งใจที่จะดูแลความรู้สึกของกันและกัน

ใครไม่มีเพื่อนสนิทน่าเศร้านัก

เพื่อนเป็นอะไรๆที่มากกว่าจะตั้งคำจำกัดความ

อุ้ยจันตา เคยบอกว่า >>

ยามเหงาเศร้าก็มีคนเล่าเรื่องให้หัวเราะ

ยามต้องการคนปะเลาะ..ก็มีบ่าให้ซับน้ำตา

กวีวรรคทองบอกว่า..

โลกแสนกว้างแต่ทำไมมองไปแคบ

มุมเคยแอบซับน้ำตาหาไม่ได้

อกที่เคยซุกอุ่นหมุนเปลี่ยนไป

จุดที่จับจองไว้ไม่ว่างแล้ว

เราควรจะมีเพื่อนอย่างน้อยสักร้อยคน ผมมีคุณป้าคุณลุงคุณน้าคุณอาแห่งชาติ มีลูกสาวหลานสาวแห่งชาติ ลองย่องไปดูที่กลุ่มเฮฮาศาสตร์ จะเห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มเบิกบานเป็นจานเชิง เจอกันหม่องไหนก็จะโผกอดกันอุ้มลุ่ม..

มีแม่เหล็กแห่งความคิดถึงดึงดูดเข้าหากัน

ช่วงมีลมหายใจนี่แหละเพื่อนเอ๋ย อย่าเมินเฉยกับนาทีทองของชีวิต คุยกันบ้าง พบปะกันบ้าง.. ช่วงน้ำท่วมที่ใครๆทุกขเวทนา ผมกลับได้สิ่งตรงกันข้าม ลูกฮักชาวกรุงอพยพมาอยู่ด้วย ก่อนหน้านั้นเธอก็เคยมา แต่มาแบบไฟลนก้น รีบไปรีบกลับเพื่อจะบอกตัวเองว่าได้มา จึงสัมผัสชีวิตชีวาวิถีอีสานแบบผิวเผิน มาคราวนี้อยากจะทำอะไรก็ได้ทำจนจุใจ

ตื่นเช้าๆหิ้วตะกร้าเดินโฉบฉายรอบบ้าน ท่ามกลางแดดอุ่นลมเย็นๆเห็นนกเขาป่ามาคันคูโชว์ลูกคอ รับบรรณาการจากสวรรค์ที่มอบให้แก่มวลมนุษย์ ไม่ต้องตาตื่นแต่งตัวเพื่อไปเอือมระอากับไฟเขียว-ไฟแดงตามสี่แยก สิ้นเปลืองเวลาของชีวิตไปอย่างสิ้นท่า จะทำยังไงได้ บางคนบอกว่า..มันถลำมาแล้วนี่..

ชีวิตอยู่ในกำมือเรา

จะกำหรือจะแบ ก็แค่นั้น>>แค่นี้จริงๆ

โลกอยู่มาไม่รู้กี่ล้านๆๆๆๆๆปี

ถ้าเทียบกับอายุโลกกับอายุของเรา ก็คงแว๊บเดียวเท่านั้น

เอาเวลาล้านๆปีหารกับเวลาหนึ่งร้อยปี

มันยิ่งกว่าเม็ดทรายในทะเลทรายเสียอีก


(ฝีมือแห้วคั้นน้ำเสาวรสเรียงล่ายซ่ายทุกวัน)

คุณแห้วมาพำนักอยู่ที่นี่ > >

แรกๆเห็นผลเสาวรสหล่นเกลื่อนดิน

เธอรีบเก็บๆๆ..เต็มตะกร้า อ้าว !

ทำไมมันมากอย่างนี้ละค่ะพ่อ

ไม่รู้สิ

พ่อขุดเอาต้นอ่อนไปปลูกข้างๆต้นไม้ใหญ่

หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรเลย

เสาวรสค่อยๆเติบโตโอบกอดต้นไม้ขึ้นไปกิ่งโน้นกิ่งนี้

แล้วก็ออกดอกสวยๆ

ติดผลกลมๆใสๆเรียงตามลำดับไหล่ข้อเถาว์

และแล้วมหกรรมลูกเหลืองๆก็ทยอยหล่น ตุ บ ตั บ ทุ ก วั น

ถ้าเอาไปคั้นน้ำผลไม้ขาย

1 ผล/ 1 แก้ว น่าจะได้ประมาณวันละ 100 แก้ว

ถ้าผสมให้เจือจางแบบร้านเครื่องดื่มน่าจะได้ประมาณ 500 แก้ว

โอ้โห ! ทำไมมันง่ายอย่างนี้ละพ่อ

ความยากง่ายมันมีอยู่แล้วในธรรมชาติ

อยู่ที่คนเราจะเลือกอย่างหนักๆ หรืออย่างเบาๆ

พ่อเป็นคนขี้เกียจ..ก็ออกแบบทำอะไรๆตามประสาชะลอหลังยาว

อ า ศั ย ต้ น ไ ม้ กิ น ไ ป วั น ๆ

ผักหญ้าภักษาหารมีอยู่รอบบ้าน

มะละกอสุกที่อยู่สูงๆเป็นอาหารของกระแตและนก

เก็บลูกที่เอื้อมถึงก็หิ้วจนแอ่นเอามาฝากไก่ และนกกระจอกเทศ

ผมแอบดูแห้วเงียบๆ ดูสิว่าแต่ละวันเธอจะทำอะไรในวาระที่ชีวิตมีอิสระ ไม่อยู่ในกรอบ ไม่อยู่ในกติกาที่คนอื่นตั้งให้ ลองมาใช้ชีวิตบางเบา เว้นวรรควิถีมนุษย์เงินเดือน โยนตารางทุกชนิดออกไปจากสาระบบเดิมๆ เธอได้เป็นตัวของตัวเองครั้งแรกในชีวิต แรกๆเธอก็เก็บเสาวรสทุกวัน เข้าครัวเอามีดมาผ่าแคะเนื้อใส่กะละมัง แล้วกรองด้วยผ้าตาข่ายเอาน้ำสีเหลืองใส่ขวดแช่เต็มตู้เย็น

เธอแอบปรุงรสตามชอบ

เติมเกลือนิดน้ำผึ้งหน่อยค่อยๆชื่นชิม

ลิ้มรสอย่างออกรสออกชาติด้วยฝีมือตัวเองล้วนๆ

ชิมเอง อร่อยเอง เข้าห้องน้ำเอง..

เช้า-เที่ยง-เย็น หลังอาหารทุกมื้อ

ผ่านไป10วัน เธอบอกว่าน้ำหนักลดไปหลายกิโล

เมื่อชิมทุกวันก็เกิดความคุ้นชิน

ช่วงว่างตอนบ่ายๆ เธอก็จะหิ้วตะกร้าไปเก็บต้นโน้นต้นนี้ พร้อมกับมาเล่าว่า แหม พ่อ หนูนึกว่าจะมีต้นเดียว ที่ไหนได้ตรงโน้นก็เยอะตรงนี้ก็มาก ไม่มีคนเก็บ ลูกแห้งทิ้งรอยสัตว์แทะก็มาก หนูเสียดาย ..เก็บไม่ไหว เว้นวรรคไปบ้าง 2-3 วันไปเก็บมาหลายเข่ง ตั้งหน้าตั้งตาคั้นน้ำเสาวรส

และแล้วเธอก็ได้เรียนรู้ว่า

เสาวรสที่หล่นมาหลายวัน

จะคั้นน้ำได้ง่ายและหวานหอมอร่อยกว่าลูกสดๆ

อาจจะตรงกับที่ชาวบ้านบอกว่า..ผลไม้เก็บมาไว้ให้มันลืมต้นจะหวาน

เธอเริ่มได้คิดว่า..

การทำงานแบบไม่มีรีบร้อนไม่เป็นหนูถีบจักรมีเหตุผลแฝงเร้น

ง า น เ ก ษ ต ร อิ ง ธ ร ร ม ช า ติ

ง า น อุ ต ส า ห ก ร ร ม อิ ง เ ค รื่ อ ง จั ก ร แ ล ะ ด อ ก เ บี้ ย

ทุกงานมีจุดดีจุดด้อยแตกต่างกัน

(ต้นไม้ต้นเดียวยังเป็นอะไรได้อีกมากนัก)

เธอบอกว่า..โห!พ่อ..มีต้นไม้ใหญ่ๆเป็นพันๆต้น

ถ้าเอาเมล็ดเสาวรสไปหยอดทิ้งไว้ อีกหน่อยเสาวรสก็จะเกิดเต็มป่า เก็บได้วันละหลายรถปิกอัพ ไม่เห็นพ่อต้องไปใส่ปุ๋ยไปดูแลอะไรเลย งานง่ายๆอย่างนี้ทำไมพ่อไม่ทำๆเยอะๆ..ต้นดีปลี ต้นพริกไทย ต้นหวาย ต้นกลอย ต้นมันเลือด ต้นตำลึง ต้นมะระขี้นก ต้นชมจันทร์ ต้นบักอีโกย ต่างปีนป่ายขึ้นตามต้นไม้ พื้นล่างยังมีพืชล้มลุกพืชสมุนไพร ขมิ้นขาว ขิง ข่า ตะไคร้ กระชายดำ ไพล กระเจียว ฯลฯ

ยังมีผักป่าที่หนูไม่รู้จักอีกมาก คนงานบอกว่าบริเวณนี้แหละ..ที่เห็ดละโงก เห็ดน้ำหมาก เห็ดเหลือง เห็ดโคนขึ้นทั่วไป คนแห่มาเก็บกันทั้งวันทั้งคืน เธอเห็นคนงานไปขุดหัวกลอยมาฝานแช่น้ำเกลือไว้ แล้วเอามานึ่งร้อนๆมาให้ชิม โห อย่างนี้ก็มีด้วย ของอร่อยๆทั้งนั้น กลอยต้นหนึ่งๆนึกว่าจะมีไม่กี่หัว กอเดียวนี่แหละขุดออกมาได้เป็นเข่ง ขุด 3 ต้นได้หัวกลอยหนึ่งรถไสน้ำ

วันที่คณะดร.วรภัทร ภู่เจริญ มาเยี่ยม พ่อให้คนงานขุดมันเลือดข้างบ้านโชว์ให้เห็นกันจะๆ .. กอเดียวใช้เวลาขุด2ชั่วโมง กว่าจะขนหัวมันออกมาได้หมด กองมันเลือดที่ว่านี้มีปริมาณ 5 เข่ง น้ำหนักร่วมร้อยกิโล พ่อบอกว่าถ้าไม่พิสูจน์ เดี๋ยวจะหาว่าขี้โม้ จึงต้องทำให้ตาโตโอ้โฮๆกันอย่างนี้

พ่อก็มีวิธีโชว์แบบของพ่อ

ให้แม่หวีเอาหัวมันไปฝานใส่ข้าวต้ม

และทำมันบวชชี

อาคันตุกะบอกว่าอร่อยมาก

ขอแบ่งปันพันธุ์ไปปลูกที่โคราช

ก็พ่อก็หยอดความคิดไว้ว่า..

เอามันเลือดมาผลิตเป็นไอครีมรสใหม่ดีไหม?

เรื่องพวกนี้พ่อคิดมานานแล้ว ทำเงียบๆง่ายๆตามประสาคนขี้เกียจ ถึงเวลาที่พิสูจน์ประมวลผล เราก็จะได้ผลผลิตมาเป็นตัวชี้วัด ว่าถ้าคิดดีอร่อยและอิ่มปากอิ่มท้องแน่ๆ ไม่ต้องทำนาอยู่ในป่าก็มีของอยู่ของกินเพียบ ป่าไม่มีค่าเป็นเพียงซุปเปอร์มาเก็ทอย่างที่เขาพูดกันหรอกนะ

ป่าของพ่อเป็นซุปเปอร์สโตว์

พ่ออยากจะบอกแห้วว่า >>

ถึ ง พ่ อ จ ะ ขี้ เ กี ย จ ยั ง ไ ง

ต้ น ไ ม้ ข อ ง พ่ อ ไ ม่ ไ ด้ ขี้ เ กี ย จ ด้ ว ย นะ

ทุกต้นขยันขันแข็งอย่างมาก

พ่อจะต้องไปขยันแข่งกับต้นไม้ทำไมละแห้ว

พ่อแก่แล้ว..ขอผูกอู่นอนเล่นบ้างเถอะนะ

พ่อค่ะ..หนูไม่อยากให้พ่อเลี้ยงสัตว์เลย ..

แห้วเอ๋ย..เราอยู่กับธรรมชาติ เราควรจะเลียนแบบธรรมชาติ

เธอเห็นไหมในป่ามีแต่ต้นไม้อย่างนั้นรึ

มันเป็นโลกแห่งชีวิตที่สมบูรณ์กว่าของมนุษย์เสียอีก

ความสมดุล.. คือหัวใจของสภาพแวดล้อม

ถ้าขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปมันก็จะไม่เห็นความเชื่อมโยง

แห้วเห็นไหม

พ่อเลี้ยงวัว เลี้ยงแพะ เลี้ยงนกกระจอกเทศ เลี้ยงปลา เลี้ยงเป็ด ไก่ ห่าน

ก็เลี้ยงแต่พอประมาณ ไม่ได้เลี้ยงบ้าเงินบ้าทองอยากร่ำอยากรวย

พ่อจะรวยไปทำไมละ น อ น อ ยู่ เ ฉ ย ๆ ก็ พ อ มี อ ยู่ มี กิ น

แม่หวีบอกว่า แพะกับนกกระจอกเทศ ชอบกินใบโสม-ใบอ่อมแซบ-ใบกระดุมเงิน ใบกระถินเป็นพิเศษ วัชพืชพวกนี้เป็นผักที่เกิดเองในธรรมชาติ นอกจากประหยัดอร่อยแล้ว ยังปลอดภัยจากสารพิษล้านเปอร์เซ็นต์ ก่อนหน้านี้แห้วเรียกร้องที่จะกินผักกุ่ยฉ่าย แม่หวีเขาก็ปลูกไว้ให้ แต่พอมาเด็ดยอดอ่อมแซบอ่อนผัดกระทะร้อน แห้วลืมผักทุกชนิดในโลก กินได้กินดีไม่เบื่อเอาซะเลย แม่หวีมีแผนที่จะปลูกขยายพืช4ตัวนี้ในแปลงอินทผลัม เพื่อจะไว้ให้คนและสัตว์เจี๊ยะตามอัธยาศัย

(อ่อมแซบ หรือ เบ็ญจขันธ์ เป็นสมุนไพรที่หมอยาพื้นบ้านรู้สรรพคุณดี)

พ่อเลี้ยงวัวไว้เพื่อการวิจัยแบบไทบ้าน ทดลองเอากิ่งไม้ใบไม้ไปให้วัวกิน วัวกินแล้วก็ขี้ออกมาเป็นปุ๋ย พ่อไม่ต้องไปซื้อปุ๋ย ฝนหน้าพ่อจะขนปุ๋ยไปใส่มันเลือด เผือก กลอย เสาวรส ให้ระเบิดระเบลอไปเลย เอาให้คนเก็บเสาวรสเอสเคล็ดเอวอ่อนเลยแหละ ลองนึกดูสิว่า ถ้าปริมาณเสาวรส มันเลือด กลอย เพื่อขึ้น 1 พันเท่า จะเป็นอย่างไร ใครจะมาเก็บ ใครจะมาแปรรูป ใครจะมาเอาไปขาย

ก า ร เ พิ่ ม ผ ล ผ ลิ ต ข อ ง พ่ อ ง่ า ย ดั ง พ ลิ ก ฝ่ า มื อ

ภายในปีหน้านี่แหละพ่อจะทำให้เจ้าเห็น

พ่อคิดเล่นๆ..แต่เอาจริงนะโว้ยยย

เพียงแต่จะต้องมีคนมาช่วยบริหารจัดการผลผลิตประมาณ 10 คน เห็นแล้วยังละว่า ถ้าคิดอย่างแห้วทำอย่างแห้ว พ่อจะต้องเสียสละความขี้เกียจที่อุตส่าห์รักษาไว้อย่างแน่นเหนียวแค่ไหน ยังมีเรื่องต้นไม้ที่จะต้องสางออกมาสร้างบ้านอีกละ ถ้าเอาจริงก็จะต้องมีรายการขายบ้านน็อคดาวน์อีก ถ้าอยากได้เงินก็มาทำเอานะแห้ว

พ่อไม่เงิน แต่มีทุน

ทุนของพ่ออยู่ในอากาศ อยู่ในพื้นดิน อยู่ในใต้ดิน และอยู่ในหัวใจ

เรื่องขี้โม้อย่างนี้ เล่ายังไงก็คงไม่จบหรอกนะเธอ

น้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อน

น้ำท่วมกรุงเที่ยวนี้..ไม่รู้กี่ล้านๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆหยด

หัวใจอ่อนๆของคนกรุงจะไม่ช้ำเลือดช้ำหนองได้อย่างไร

จ า ก ก า ร ส น ท น า ป ร ะ ส า ค น รู้ ใ จ

ผม กับ อาจารย์ วรภัทร ภู่เจริญ

จะชวนตัวหนังสือให้กระโดดออกมาจากหน้ากระดาษ

พระอาจารย์วรภัทร จะเขียนในส่วน จากนาซา สู่รากหญ้า

พ่อจะเขียนในส่วน จากรากหญ้า สู่นาซา

คาดว่าจะพิมพ์เสร็จก่อนปีใหม่

เพื่อเป็น ส...ของขวัญ ของฝาก จากใจของคนขี้เกียจ

โปรด ติดตามด้วยความระทึกระทวยใจ > >


แฟชั่น

1 ความคิดเห็น โดย sutthinun เมื่อ 26 ตุลาคม 2011 เวลา 12:17 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 1330

เคยสังเกตุไหมครับ

ตั้งแต่ต้นปีแล้ว

ที่แฟชั่นกางเกงขาสั้นจุดจู๋

มาสร้างความนิยมอย่างแพร่หลาย

สาวๆไทยใส่กางเกงขาสั่นกันเกร่อ ไปไหนก็เจอ ..เอ้อเฮอๆๆๆ

ยิ่งสาวๆบ้านนอกด้วยแล้ว

ไม่รู้กินยาผิดซองรึเปล่า

ใส่สั้นจนแทบจะเห็นแก้มก้น

แฟชั่นที่ว่านี้ไม่รู้ที่ไปที่มา ไปเมืองจีน อาหมวยจีนก็แต่งระเบิดไม่บันยะบันยัง ที่จีนห้าวหาญกว่าของไทยอีก วัยระดับอาซ้อ อาอี๋ อาม่า ก็แต่งๆๆ ไม่ใช่แบบขาก้วยนะครับ สั้นๆอย่างที่วัยรุ่นไทยนิยมนี่แหละ เราต้องเลือกชมตามอัธยาศัย มีโม้ด ขาโต้น ขาสั้น ขายาวอย่างนกกระยาง ขามู่ทู่ ขาโค่ง เรียงล่ายซ่ายมาครบเซ๊ท

ตอนแรกๆก็รู้สึกแปลกๆที่สตรีสมัยนี้เมินคำว่ากุลสตรี

ถ้าคุณครูสอนวิชาแม่บ้านการเรือนสมัยก่อนมาเห็น

คงอกอีแป้นแตก..

โลกมันเปลี่ยนไปตามยุคสมัยจริงๆ

ยิ่งน้ำท่วมอย่างนี้ด้วยแล้ว

แฟชั่นขาสั้น..ทำให้ไม่ประดักประเดิด >>

เพราะผ่านการซ้อมใหญ่มานานจนจำเจ

คนแอบมอง ก็เลิกมอง คนชื่นชม ก็เฉยๆ

อะไรๆที่เก่าซ้ำซากมันก็จะเบื่อหน่ายไร้เสน่ห์

คงต้องรอต่อไปว่า..นักออกแบบจะเอาอะไรมาล่ออีก

:: เท่าที่ดูในข่าวก็เห็นสาวๆจ๋อมๆๆรัดกุม

กางเกงขาสั้นเข้ากับสถานการณ์ดีจังเลย

ห่วงแต่>>ต่อไปน้ำเน่า >>ขาขาวๆเจอสารพิษในน้ำจะคันคะเย่อ

ขาที่เคยสวยๆก็จะมีตำหนิ

ขาที่กระดำกระด่างน่าดูตรงไหนละครับ

:: สุดท้ายสาวๆก็จะถามหาเกงเกงขายาว

ต้องสวมใส่ปกปิดขาที่มิกล้าอวด..

ประจวบกับอากาศหนาวเย็นมาเยือน

แฟชั่น ข า สั้ น ถ้าขืนไม่เปลี่ยน ..ก็จะเป็น ข า สั่ น นะสิเธอ

>> กางเกงขาสั้นอาจจะเป็นลางบอกเหตุว่าน้ำจะท่วมใหญ่ ก็ได้นะครับ

จ๋อม จ๋อม จ๋อมมมม..


เมนูหนีน้ำ

อ่าน: 2076

ลมเย็นพัดเอื่อยๆ ไส้เดือนคืบคลานหนีแล้งขึ้นมาบนผิวดิน เป็นสัญญาณบอกว่าแล้งแน่แล้ว ลมหนาวจะเข้ามาแทนน้ำฝนที่หล่นลงมาไม่บันยะบันยัง ถ้าเราสังเกตุจะเห็นธรรมชาติเริ่มตั้งรับความเปลี่ยนแปลง ดอกสะแลเตสีขาวสะอาดชูช่อส่งกลุิ่นระรื่น ถั่วพูออกดอกทยอยติดฝักให้เก็บมาจิ้มน้ำพริก มะรุมชูช่อดอกตูมเล็กๆมาร่วมรับลมเย็น เป็นช่วงที่กำลังเหมาะที่จะปลูกผักล้มลุกที่ชอบอากาศเย็น วันนี้ร่องปลูกผักแบบประณีตกำลังเป็นรูปเป็นร่าง ปลูกผักที่ชอบนานาชนิด อย่างละนิดละหน่อยเพื่อห้องครัวเราเอง

ชนิดผักรึครับ

ผักบุ้ง ผักกาด คะน้า กะหล่ำปลี มะเขือพวง มะเขือยาว มะเขือเปราะ ถั่วฝักยาว พริกเครือ บวบ มะระ ฟัก แฟง ฟักทอง ชมจันทร์ น้ำเต้า ผักชี คื่นไฉ่ ชุดแรกจะปลูกผักอายุสั้นประมาณนี้ ถ้ามีเมล็ดพันธุ์อย่างอื่นที่น่าทดลองก็ยังปลูกได้อีก ส่วนผักยืนต้นยืนพื้นไว้พร้อมแล้ว มะกล่ำ มะกอก หน่อไม้ สะเดา ใบยอ ขิง ข่า ขมิ้นขาว มะรุม ปลีกล้วย

ผลไม้มีกล้วยหอม กล้วยไข่ มะละกอ และ เสาวรส

เสาวรสที่ปลูกให้ไต่ขึ้นต้นไม้ใหญ่ปีที่แล้ว

ปีนี้ติดผลหล่นลงมาเกลื่อน

เก็บ5วันครั้งๆ1เข่ง

เก็บมาผ่ากรองเอาเนื้อในใส่ขวดแช่เย็นไว้

บังเอิญเป็นผลไม้ที่แห้วชอบ

ปรุงรสใส่ขวดลิตรชิมวันละขวด

แห้วไม่รู้สึกเปรี้ยวเลยรึไร

เช้านี้ทดลองยำพริกเจ๊๊ยะกับข้าวต้ม

เป็นเมนูเฉพาะตัวที่ปรุงตามที่ตัวเองชอบ

เอาพริกหยวกผ่าครึ่งไปเว็ป

ระว่างรอก็ปอกหอมหัวใหญ่กับมะเขือเทศมาหั่นเตรียมไว้

พริกอบได้ที่ยกมาปรุงด้วยน้ำมะนาวกับน้ำตาลนิดหน่อย

เติมซอสขาวแล้วชิม

โรยด้วยใบสระระเหน่

เจี๊ยะกับกากหมูกรอบ

แต่แปลกแฮะ ..ไม่อร่อยซ๊๊ดซ๊าดเท่าที่ควร

ครั้งก่อนเอาพริกหนุ่มที่น้าอึ่งส่งมาให้

รู้สึกว่าจะลำกว่านี้จ๊าดหนัก!

แหม..แค่เปลี่ยนพันธุ์พริก นี่ก็ผลิกล็อกได้เหมือนกัน

:: ถ้ากิจการในบางกอกต้องหยุดชะงัก 1 เดือน

โรงงานหยุด โรงเรียนหยุด บริษัทหยุด

ท่านจะเอาเวลาไปทำเรื่องอะไรครับ ?

บุ๋ม บุ๋ม บุ๋ม ..



Main: 0.095199108123779 sec
Sidebar: 0.2680459022522 sec