จดหมายคุณย่า
ท่านที่รัก
กลุ่มสมาชิกชาวเฮฮาศาสตร์ส่วนมากอายุค่อนไปทางหนุ่มสาวเหลือน้อย กลุ่มที่เป็นสาวซำน้อยต้อยติ่งก็พอมีอยู่บ้าง ได้แต่แอบหวังไว้ว่าสมาชิกที่เข้ามาลานปัญญาใหม่ๆจะอยู่ในวัยสดใสไฉไลประดุจดอกบัวบานกลางบึง ไม่ใช่อะไรหรอก อยากจะให้มาลดสัดส่วนกระชากวัยพวกแก่เกินแกงลงเสียบ้าง แต่ก็อีกนั่นแหละ หนุ่มสาวสมัยนี้ไม่นิยมเขียนหนังสือเป็นเรื่องเป็นราว ชอบใช้สื่อเจ๊าะแจ๊ะประเภทโชว์เบอร์ไม่โชว์ใจ เพราะเข้ากับวิถีชีวิตที่มะรุมมะตุ้มกับเรื่องวูบวาบและวับแวม..
พวกรุ่นเก่าๆเล่าความหลัง ยังผ่านการเขียนจดหมายมาบ้าง เพราะยุคครั้งกระโน้นไม่มีสื่อที่ถึงอกถึงใจเหมือนสมัยนี้ บางคู่เขียนจดหมายโต้ตอบกันเป็นลังๆก็ยังปลงใจกันไม่ได้สักที..
ไปงานครูภูมิปัญญาไทย รับเครื่องราชฯ ถ่ายภาพกับองคมนตรี ท่านถามว่าครูบาจะให้ช่วยอะไร บอกเลยนะ ..รีบฝากหนังสือเจ้าเป็นไผกับหนังสือนี่คนนี่ไง”จารย์ปู” ครูพันธุ์ก๊าก เรียนท่านว่าจะทำหนังสือทำนองนี้ วันหลังจะส่งสำเนาให้ท่าน ชี้โพรงให้กระรอกแบบนี้ก็ขอคำนิยม “โมเดลอีสาน เล่มที่2″ เสียเลย อิ.
เมื่อไม่กี่วันนี้
เจอคนขายดอกไม้เป็นช่อเล็กๆ
เธอเล่าว่าเอาไว้ขาย..ให้วัยรุ่นสาวๆซื้อไปให้หนุ่มหล่อที่พอใจ
โอ้ยโย่! คำว่า ก ร ะ ช า ก วั ย ไม่ทันกินแล้ว
เดี๋ยวนี้ ถึ ง ขั้ น ก ร ะ ช า ก ใ จ กันแล้วเน้อ
ต่อไปจะพัฒนาการสื่อสารหัวใจจะไปถึงไหนๆก็ไม่รู้
กลับมาถึงบ้านเห็นจดหมายกองอยู่บนโต๊ะปึกหนึ่ง อ่านแล้วหงุดหงิดเป็นบ้า เป็นจดหมายที่ส่งล่าช้ามาก เมื่อก่อนไม่เป็นอย่างนี้ แสดงว่าระบบการจัดการไปรษณีย์ตำบลสนามชัยถอยหลังเข้าคลอง นึกจะส่งก็มาส่ง ไม่ได้รับผิดชอบเลยว่าเนื้อหาในจดหมายบางทีมีเรื่องเร่งด่วน เที่ยวนี้ผมโดนเข้าไปหลายกระทอก เช่น
1. สภาพัฒน์ฯเชิญประชุมเรื่อง”การเตรียมความพร้อมของประเทศไทยเข้าสู่ประชามอาเชี่ยน(AC) ระหว่างวันที่ 16-18 กันยายน 2554 จดหมายส่งมาให้ตอบรับภายในวันที่ 31 สิงหาคม ผมเพิ่งจะได้รับวันนี้ เอกสารส่งทางEMS.ด้วยนะ เท่าที่อ่านเป็นเรื่องเชิงนโยบายเสียด้วยสิ นายกรัฐมนตรีใครต่อใครมาปาฐกถา มีการแบ่งกลุ่มวิเคราะห์แผนงานฯลฯ แสดงว่าEMS.เชื่อถือไม่ได้แล้ว ระบบราชการควรจะพัฒนาการส่งเอกสารทางไหนดี
2. มหาวิทยาลัยอุบลเชิญประชุมวิชาการระดับชาติประจำปี 2554 ระหว่างวันที่ 8-9 กันยายน 2554 โดยมีการดำเนินกิจกรรมภายใต้กรอบแนวทางการปฏิรูปการศึกษารอบสอง เพื่อส่งเสริมการพัฒนาระบบอุดมศึกษาไทยให้สามารถทัดเทียมได้กับสากล มีเรื่องน่าสนใจมากมาย เช่น
- พัฒนาคุณภาพบัณฑิตยุคใหม่
- พัฒนาคุณภาพครูยุคใหม่
- เรื่องTQF สาขาครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์
- พัฒนาคุณภาพสถานศึกษาและแหล่งเรียนรู้ยุคใหม่
- พัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการใหม่
- ประกาศเกียรติคุณ และผลงานคุณภาพ
เอกสารฉบับนี้มาถึงวันที่ 14 กันยายนครับพี่น้อง หน่วยงานที่เชิญอาจจะมองว่าผมนี่เหลวไหลไม่ใส่ใจไปร่วมประชุมก็ได้
3. หนังสือด่วนที่สุด จากสภาการศึกษาแห่งชาติ ส่งแบบตอบรับครูภูมิปัญญาไทย(รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์) และมีการประชุมสัมมนาเฉพาะเรื่องระหว่างวันที่ 13-15 กันยายน 2554 ผมต้องตอบรับเรื่องการเดินทาง-เข้าที่พัก-และซักซ้อมพิธีการ จดหมายเพิ่งมาถึงเมื่อ2วันที่แล้ว ผมจะไปรู้เรื่องอะไรละครับ เขาให้ไปรับอะไรก็ไปทื่อๆยังงั้นแหละ เอกสารก็ไม่ได้ตอบรับ หน่วยงานอาจจะคิดว่า แก่แล้วไม่รู้ภาษาแถมยังหยิ่งอีกต่างหาก โธ่เสียแก่ก็อีตอนนี้แหละเธอ
4. เอกสารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาวิจัยทรัพยากรการเกษตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เชิญประชุมหารือแนวทางการดำเนินงานโครงการบัณฑิตจิตอาสา (ครั้งที่ 2) ทางสำนักฯใจดีมีให้เลือกว่าจะเข้าร่วมประชุมวันที่ 19 หรือวันที่ 26 เมื่อจดหมายได้รับช้า ผมก็รับนัดอบรมดูงานนะสิครับ จะไปร่วมประชุมกับจุฬาฯยังไงนี่ ผมถูกแต่งตั้งให้เป็นวิพุทธิยาจารย์อาสา(แปลว่าอะหยังฮึ) ผมมีคิวจะต้องไปสอนนักศึกษาในโครงการนี้ที่จังหวัดน่าน
เมื่อไม่ได้ไปร่วมประชุมจะไม่อาจหาญไปหน่อยรึที่จะไปดำน้ำสอน!
ไปรษณีย์ หรือ ไปรษหนี ทำพิษอีกแล้ว
5. อีกฉบับหนึ่งเป็นจดหมายมาจากท่านพระมหากฤษณะ ตรุโณ ผศ.ดร.เจ้าอาวาสวัดเรไร เขตตลิ่งชัน กทม. ท่านให้ความเห็นกับคำถามที่สัมภาษณ์มาทางจดหมาย โดยสังเขป ดังนี้
5.1 คำถามด้านอภิปรัชญา 1-2-3
5.2 คำถามด้านญาณวิทยา 1-2-3
5.3 คำถามด้านจริยศาสตร์ 1-2-3
5.4 คำถามด้านสุทรียศาสตร์ 1-2-3
5.5 คำถามด้านตรรกศาสตร์ 1-3-4
5.6 คำถามทั่วไป และความคิดเห็นอื่น
ท่านส่งคำตอบวันที่20 ท่านใจดีบอกว่า ถ้าตอบจะมีค่าตอบ 1,500 บาท อิ
6. ขณะที่ความเซ็งกำลังจู่โจมหัวใจ ได้รับจดหมายฉบับสุดท้าย เขียนด้วยลายมือบรรจง ในกระดาษขาวว่างเปล่าไม่มีเส้นบรรทัด แต่ตัวอักษรเรียงตรงเป็นระเบียบเรียบร้อย อ่านแล้วน้ำตาซึม ขออนุญาตแกะเอาทุกตัวอักษรดังนี้ > >
เรียนคุณสุทธินันท์ ที่นับถืออย่างยิ่ง
ดิฉันได้อ่านหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันอังคารที่ 30 สิงหาคม ที่มีบทความ”สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ นักวิจัย “บ้านๆ” ปราชญ์ที่ไม่ยอมหยุดเรียนรู้” แล้วมีความรู้สึกซาบซึ้งอย่างยิ่งในเรื่องวิถีชีวิตของคุณตามที่เขียนเล่าไว้ ชวนให้ระลึกถึงคุณพ่อของดิฉัน พระยามไหสวรรย์ ในอดีตเป็นผู้ที่มีรักความรักในเศรษฐกิจการเกษตร และดิฉันมีโอกาสทำงานที่ห้องสมุดธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เรียนรู้เรื่องนี้เสมอมา จึงขอแสดงความชื่นชมในกิจการงานอันทรงคุณค่าสูงส่งของคุณ
ด้วยความปรารถนาดียิ่งจริงใจ ขอให้คุณดำเนินการทุกสิ่งที่คุณรักพึงพอใจ เป็นผลดียิ่งยิ่ง เพื่อชีวิตอันทรงคุณค่าของคุณ และความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติ
ดิฉันจะติดตามเรียนรู้เรื่องที่น่าสนใจในกิจการที่คุณจะดำเนินการอีกในอนาคต
ด้วยความนับถือยิ่ง
กัทลี สมบัติศิริ
วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ.2554
หมายเหตุ : ขณะนี้ดิฉันมีอายุ 90 ปี ได้ทำบุญไปเมื่อกรกฎาคมปีนี้เอง
ท่านที่รัก
ได้อ่านจดหมายฉบับนี้แล้วลืมเรื่องขุ่นข้องหมองใจกับไปรษหนีข้างบนนั่นหมดเกลี้ยงเลยละครับ จดหมายของคุณย่า..
สะอาดทั้งตัวหนังสือ สะอาดทั้งในความรู้สึก
คืนนี้จะอ่านสัก 100 รอบ แล้วจะตอบจดหมายคุณย่า นะครับ
« « Prev : บทที่ 8 ตอน:ตอบแทนคุณแผ่นดินแบบกำปั้นทุบดิน
8 ความคิดเห็น
เข้าใจความรู้สึกของพ่อเลยล่ะค่ะ เพราะขณะที่ตัวเองอ่านไปแบบไม่ทันระวังใจก็สะดุดกับความอิ่มเอิบจากเหตุการณ์ที่พ่อบรรยายโดยไม่จำเป็นต้องเห็นจดหมายฉบับจริงเสียด้วยซ้ำไปค่ะ
ยินดีกับพ่อด้วยนะคะ
อย่างที่พ่อว่าเลยล่ะค่ะ
ปลูกต้นไม้ไม่มีวันอกหัก
มีแต่ไล่เก็บดอกเก็บผลจากความอิ่มเอิบไม่รู้จบ
นี่คงเป็นแค่ผล ๆ เดียว
จะคอยเป็นยิ่งกว่ากำลังใจ
สำหรับผลต่อ ๆ ไปที่พ่อจะได้เจอนะคะ
ด้วยความเคารพรักค่ะ
^^
ลงภาพ ยากมากเลยปู เอ๊ยยยย
ถึงแม้เรื่องที่เขียนจะเป็นเรื่องจริงทั้งหมด แต่พ่อครูใชัวิญญาณนักเขียนเรียงลำดับแบบหักมุมราวนวนิยายชั้นดีเลยค่ะ อ่านแล้วชื่นชมเนื้อหาด้วย ชื่นชมคนเขียนด้วย
คนอื่นก็ชม กันเองก็ชม เขินแย่นะแม่ใหย่
อ่านแล้วม่วนอกม่วนใจ๋ค่า อิอิ
อยากได้เรื่องอุ้ยเขียน ตอนที่เป็นนักศึกษา มีรูปใส่เสื้อลาย นะคร๊าาาาาบ
มีเสื้อลาย?? จำบ่อได้ค่าว่าเรื่องอะไร
ครูบาชี้แนะด้วยค่ะ
เป็นเรื่องที่อุ้ยเขียนตอนไปเรียนอยู่เมืองนอกหรือเปล่าไม่ทราบ มีภาพใส่เสื้อลายขีดๆยืนเอียง เห็นแล้วจ๊าบส์ บ่งบอกว่าอุ้ยก็เคยจ๊าบเหมี๊ยนกันอิ ต้องกลับไปค้นดูย้อนหลังไปมากๆ