สวัสดิการ(คน)ชุมชน
สัปดาห์นี้นอกจากงานจะมากแล้ว ยังมีหน้าที่ลูกที่ดีพาแม่ไป รพ.อีกหน้าที่หนึ่ง หลังจากเมื่อวานแม่ให้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ผมมานั่งทบทวนและคิดเรื่อยเปื่อยถึงเหตุการณ์ที่แม่ต้องเข้า รพ.
วันอาทิตย์ที่ผ่านมา แม่อ่อนเพลียมากและหายใจไม่ทั่วท้องตอนกลางคืน ที่บ้าน(เมืองพล)แม่อยู่คนเดียว แต่แม่บอกก็ต้องกระสับกระส่ายอยู่อย่างนั้นจนส่วางจึงออกไปบอกป้าซึ่งเป็นช่างทออผ้าด้วยกัน ตอนสายจึงพากันไปที่คลีนิคเพราะเป็นวันหยุด รพ.ประจำอำเภอไม่เปิดแล้วที่คลีนิคหมอให้ยามาจำนวนหนึ่งและบอกแม่ว่าแม่เป็นไข้
แม่คงรู้สึกว่าไม่ใช่ไข้ธรรมาดาวันจันทร์ตอนเช้าจึงไปที่รพ.ประจำอำเภอเพื่อตรวจเลือดและไปหาหมอ หมอบอกแม่ว่าแม่เป็นไข้และผลเลือดก็ไม่มีอะไรผิดปกติอะไร หมอจึึงจัดยาให้และให้กลับมานอนพักที่บ้าน ตอนบ่ายผมจึงไปรับแม่มาอยู่ขอนแก่นด้วย สังเกตได้ว่าแม่เพลียมากและนอนไม่หลับ
ตอนเช้าตรู่แม่มาเคาะห้องและบอกว่าให้พาไปหาหมอหน่อย แม่บอกหายใจไม่ออกเหมือนปอดผิดปกติและแม่อยากเอ๊กซเรย์ให้รู้ไปเลย จึงเห็นท่าไม่ดีจึงรีบพาแม่ไป รพ.เอกชนในขอนแก่น ผลตรวจเลือดและผลเอ๊กสเรย์ดที่ออกมาช่างต่างจากที่เคย หมอแจ้งผมว่าแม่ปอดติดเชื้อ ผลเลือดไม่ผิดปกติเพียงแต่เกล็ดเลือดต่ำมากต่ำกว่าคนปกติไปครึ่งหนึ่ง
เป็นอันว่าแม่ต้องนอน รพ.(เอกชน)เพื่อให้ยาและพักรักษาตัว ผมรู้ว่าแม่กังวลในเรื่องค่ารักษาพยาบาล แม่จะอยู่ใกล้หมอแต่แม่ก็นอนไม่หลับ และบอกให้ผมบอกหมอกลับบ้าน เมื่อผมไปเยี่ยมก็จะถามเรื่องค่าใช้จ่ายตลอดเวลา ผมได้แต่บอกว่าสามารถจ่ายได้ ไม่แพงอะไรมากเมื่อเทียบกับการดูแลเอาใจใส่และความละเอียดในการรักษา ก็นับว่าคุ้ม
เมื่อวานแม่อาการดีขึ้น หมออนุญาติให้กลับบ้าน เราจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลไปจำนวนหนึ่งและนั้นเป็นที่มาของการคิดคำนึงถึง สวัสดิการชุมชน ผมมองย้อนกลับไปที่ชุมชนเห็นคนในชุมชนรักษาพยาบาลกันตามยถากรรม ปล่อยให้โรคมันกำเริบไปมากถึงค่อยไปหาหมอ เมื่อไปถึงมือหมอก็หมดค่าใช้จ่ายไปมาก
ความจริงไม่ได้โทษหมอที่ รพ.ประจำอำเภอ ทั้งนี้อาจจะคนใข้มากและเครื่องไม้เครื่องมือไม่พอ แต่เมื่อมองย้อนกลับมาเป็นพี่น้องชาวนาคนอื่น ๆ หากต้องจ่ายเงินแบบสถานการณ์ของผม มีหวังทำนามาทั้งปีก็คงต้องขายมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลเป็นแน่ ผมคิดถึงการสะสมเงินเพื่อสัวสดิการของช่างทอที่ทอผ้าให้ผม ว่าเราจะหาทางอย่างไรถ้าเราเจอสถานการณ์แบบนี้ หรือผมควรมีวิธีช่วยเหลือชางทอคนอื่น ๆ ในกลุ่มได้อย่างไร
(ช่างทอผ้าแก่ ๆ ที่ไม่มีสวัสดิการ เมื่อป่วยไข้จะทำอย่างไรดีน้า)
ท่านที่สันทัดเรื่องนี้ น่าจะให้คำตอบได้ดี แต่สถานการณ์ผ่านไปได้ผมดีใจที่แม่ดีขึ้นและเราพอมีสวัสดิการจากการสะสมและออมทรัพย์ไว้ใช้เมื่อจำเป็น ซึ่งความจำเป็นนี้ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ และแม่ก็ไม่ต้องขายข้าวที่ลงทุนทำมาทั้งปี
ทำในรูปแบบของสหกรณ์ได้มั้ยจ๊ะ ลงหุ้นคนละ20บาท/หุ้น มีทั้งให้กู้ยืมคิดดอกเบี้ย และฝากสะสมทรัพย์ร่วมด้วยนอกจากปันหุ้นธรรมดา เดี๋ยวลากพี่บู๊ทมาช่วยอธิบายจ้ะ
ความคิดเห็น โดย น้ำฟ้าและปรายดาว — มีนาคม 13, 2009 @ 13:05
[...] http://lanpanya.com/somroay/archives/65 (ไม่ได้โคดสะนา แต่เห็นว่าน้องเค้าคิดดี อิอิอิ) [...]
Pingback โดย » พี่บู๊ท อิ่ม และผู้สันทัดกรณีด้านสหกรณ์ออมทรัพย์หรือไม่สันทัดแต่อยากช่วยน้องออตคิดส — มีนาคม 13, 2009 @ 13:08
มาแล้วครับ น้องออต
ชุมชนควรจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ครับ สะสมกันทุกเดือน ตั้งคณะกรรมการ ดูแลกัน หากจะให้มั่นคงก็พิจารณาเข้าเป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ก็ได้ บางแห่งก็เป็นสมาชิกกลุ่มเครดิตยูเนี่ยน หลักการเดียวกัน แต่เครดิตยูเนี่ยนเป็นองค์กรเอกชน แต่ก้อยู่ภายใต้การดูแลของสหกรณ์ออมทรัพย์ครับ
หากสนใจ
การสะสมนี้ในระยะยาวแล้วจะเป็นผลดีต่อชุมชน รัฐช่วยได้นิดหน่อยครับ ชุมชนต้องช่วยกันเอง มีกลุ่มตัวอย่างมากมายที่ประสบผลสำเร็จ และก็มีที่ล้มเหลวเหมือนกัน
ชุมชนที่สำเร็จที่พี่มีส่วนก่อตั้งนั้น ผ่านมานานเป็น 20-30 ปี เขามีเงินมากกว่า 20 ล้านบาท เอาเงินกำไรมาปันผลและจัดสวัสดิการให้แก่ผู้สูงอายุชุมชนได้อย่างสบายเลย
และที่ดีมากๆคือ เป็นหลักการพึ่งตนเองของชุมชนครับ กองทุนเงินล้านของใครๆเขาก็ไม่เอา
และเป็นหลักประกันด้านเศรษฐกิจของประเทศครับ
พบว่าช่วงเศรษฐกิจที่ตกต่ำทั่วโลกนั้น ประเทศที่มีการออมภายในชุมชนสูงนั้น ประเทสกระทบกระเทือนน้อยที่สุด และฟื้นตัวเร็วที่สุด ตรงข้าม ประเทศใดที่ประชาชนไม่มีการออม หรือออมน้อย จะได้รับผลกระทบด้านเศรษกิจของประเทศมากมาย ฟื้นตัวก็ช้ามากๆ…
มีแต่ดีกับดีครับ…
ในที่ทำงานพี่แม้มีคนเพียง 6-7 คน พี่ก็ทำกลุ่มออมทรัพย์ครับ
ความคิดเห็น โดย bangsai — มีนาคม 13, 2009 @ 13:27
ขอบพระคุณครับ
ความคิดเห็น โดย ออต — มีนาคม 16, 2009 @ 16:45