พรุ่งนี้โรงเรียนก็จะเปิดเทอมแล้ว ดังนั้นหนูจึงขอใช้เวลาในช่วงปิดเทอมวันสุดท้ายแสนสบายมาเล่าถึงประสบการณ์ ประโยชน์รวมถึงเรื่องราวต่างๆจากการที่หนูได้รับหน้าที่เป็นผู้สื่อข่าวเสื้อสีส้ม ถ่ายทอดเรื่องราวในการเข้าค่าย “หนูน้อยรู้คิด ชีวิตพอเพียง” ของน้องๆอนุบาลค่ะ
สิ่งแรกในการเป็นผู้สื่อข่าวที่ดีก็คือการมีวินัย และขยันขันแข็งค่ะ เริ่มจากการตื่นเช้าขึ้นเพื่อให้ไปทันการทำกิจกรรมของน้องๆค่ะ ถึงแม้ว่าบางวันหนูอาจจะไปสายบ้าง หรือไปไม่ทัน ตอนบ่ายๆขณะที่น้องๆนอนหลับหนูก็คอยไปสอบถามกิจกรรมที่ได้ทำมาจากคุณครู ซึ่งสิ่งนี้ก็เป็นอีกข้อที่หนูได้เรียนรู้จากการเป็นผู้สื่อข่าวคือการคิดสังเกตตั้งคำถาม และกล้าแสดงออกค่ะ
การมาร่วมในกิจกรรมการเข้าค่ายกับน้องๆก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีในช่วงปิดเทอมเลยค่ะ เพราะนอกจากจะได้ฝึกการเป็นผู้สื่อข่าวจำลองแล้ว ยังได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกับน้องๆด้วย เช่น เมื่อน้องๆไปทัศนศึกษาที่สถานที่ต่างๆหนูก็เกาะไปกับเค้าด้วยเลยได้เห็นสิ่งแปลกใหม่อย่างการเพาะเห็ด นอกจากนั้นกิจกรรมต่างๆที่น้องๆได้ทำก็ทำให้หนูได้เห็นแนวคิดต่างๆที่คุณครูถ่ายทอดมาให้กับน้องๆในแต่ละกิจกรรม ทำให้หนูก็พลอยได้ความรู้ไปด้วย อย่างบางเรื่องที่หนูไม่เคยรู้มาก่อนและไม่เคยสนใจก็มาเห็นในค่ายนี้ด้วย เห็นคุณครูสอนน้องๆไปก็นึกย้อนกลับมามองตัวเองไปพลางๆค่ะ
พอรวบรวมเรื่องราวต่างๆในแต่ละวันมาก็ต้องนำมานั่งทบทวนหาประเด็นที่จะนำมาเขียนเพื่อให้ผู้อ่านสนุกสนานไปด้วย ถือเป็นเรื่องที่ยากทีเดียวค่ะกว่าจะขึ้นแต่ละบันทึกได้ แต่สิ่งที่ยากที่สุดในการเป็นผู้สื่อข่าวนั่นก็คือการเอาชนะความขี้เกียจค่ะ ถือเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับหนูเลยทีเดียว แต่หนูก็ดีใจทุกครั้งที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆไปผ่านตัวหนังสือแก่นักอ่านทุกท่าน เพราะหนูก็ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ส่งเรื่องราวดีๆและเมื่อขึ้นแต่ละบันทึกก็ยังได้คอมเมนต์ชิ่นชมจากทุกๆคนด้วย ทำให้หนูดีใจและมีกำลังใจเขียนต่อมากเลยค่ะ
การเขียนสรุปการเป็นผู้สื่อข่าวครั้งนี้ถือเป็นการมองทบทวนตัวเองว่าได้เรียนรู้อะไรไปบ้าง ได้ทำในสิ่งที่ไม่ได้ทำ อย่างการเขียนการ์ตูนอนิเมชั่น ซึ่งกว่าจะเขียนได้ก็ต้องใช้ความคิดจับประเด็นของแต่ละเรื่องมาวาดสื่อให้ผู้อ่านเข้าใจ และยังต้องใช้เทคนิคในด้านคอมพิวเตอร์ผสมผสานไปด้วย และยังได้เป็นตากล้องอีกด้วย การเป็นตากล้องก็ถือเป็นหน้าที่อย่างหนึ่งของผู้สื่อข่าว วิธีการถ่ายรูปของหนูก็คือ ถ่ายตามประเด็นที่จะนำมาเขียนถ่ายทอดให้ท่านผู้อ่านค่ะ สุดท้ายก็ต้องขอขอบคุณทุกๆคนที่ให้ความร่วมมือ รวมไปถึง คุณครูอนุบาล พ่อแม่ อาอึ่ง อาราม ซึ่งถ้าไม่มีทุกท่านหนูก็คงทำงานชิ้นนี้ไม่สำเร็จ และก็ต้องขอขอบคุณชาวลานและนักอ่านทุกท่านที่คอยติดตามนะคะ ^^