บ้านชานเมือง (24) ระเบียบในความไร้ระเบียบ
เราสามารถเรียนรู้ได้จากธรรมชาติรอบ ๆ ตัวเราได้เสมอถ้าเราสนใจ การมองดูใบของเฟิร์นที่ปลูกไว้ทุก ๆ วัน ทำให้เราได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น เมื่อเรามองดูใบของต้นเฟิร์นที่โตขึ้นมาแล้ว (ตามรูปบน) เราก็จะเห็นว่า ใบเฟิร์นนั้นเรียงซ้อน ๆ กันเป็นชั้น ๆ จากด้านนอกเข้าไปด้านใน ดูเหมือนจะไม่มีระเบียบอะไร แต่ถ้าเราเริ่มพิจารณาให้ละเอียดขึ้น เราก็จะเริ่มเห็นว่าการเรียงของใบในแต่ละชั้นจะจัดเรียงในลักษณะที่สับหว่างกันอย่างมีระเบียบ ในทางวิชาการก็เชื่อกันว่า มันเกิดขึ้นมาจากวิวัฒนาการของพืช เพื่อให้ใบสามารถได้รัยแสงได้มากที่สุด เพื่อประสิทธิภาพในการสังเคราะห์อาหารของใบพืช โดยขบวนการสังเคราะห์แสง ที่เกิดขึ้นโดยเซลล์ที่มีสีเขียวที่อยู่ในใบ อ่านต่อ »
บ้านชานเมือง (23) ต้นรักเธอ
วันนี้ระหว่างทำหน้าที่รดน้ำต้นไม้ ซึ่งประกอบด้วยทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้ผล และ สมุนไพรชนิดต่าง ๆ ที่ปลูกอยู่ในบริเวณบ้าน เห็นไม้ประดับชนิดหนึ่งที่เป็นไม้ใบ เข้าใจว่าเป็นกลุ่มพวกบอน มีทั้งที่ขึ้นบริเวณใต้ต้นไม้อื่นและที่อยู่ในกระถาง มีลักษณะใบและลวดลายของเส้นใบน่าสะดุดตา ไม่เคยรู้จักว่าไม้ต้นนี้ชื่ออะไร เช้าวันนี้พิจารณาลักษณะใบ บางต้นมีลักษณะการของใบอยู่ในทิศทางที่แตกต่างกัน แต่บางต้น (ล่างขวา) ลักษณะใบจะอยู่ในตำแหน่งที่ดูแล้วเป็นรูปหัวใจ และเมื่อดูเส้นกลางใบก็จะมองเห็นเป็นตัววาย จึงขอเรียกชื่อไม้ต้นนี้ว่า รักเธอ (Love You) ท่านไหนรู้ชื่อที่แท้จริงของไม้ต้นนี้บ้างครับ
ในวาระใกล้ปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๕๓ ขอส่งความรักมาให้ทุกท่านครับ I Love You All from Panda
เข็มขัดสั้น 2
เรื่องการถ่ายรูปในงานเป็นอีกเรื่อง ที่เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดไว้ว่าจะเกิด เริ่มตั้งแต่งานช่วงเช้า ผู้ที่เจ้าสาวนัดหมายมาช่วยถ่ายรูปช่วงพิธีเช้ามีสองคน บอกว่าเป็นเพื่อน โดยนัดให้มาถึงบ้านงานประมาณ 7.30 น. เช่นเดียวกับแจ้ง ผู้ใหญ่ (พลตำรวจตรี วาทิน คำทรงศรี ซึ่งเป็นคุณลุงของเจ้าสาว) ที่จะมาช่วยเป็นประธานในพิธีให้ รวมทั้งญาติที่จะมาร่วมพิธี เพราะพิธีจะเริ่มจริง ๆ เวลา 7.59 น. โดยนัดแนะทางฝ่ายเจ้าบ่าวว่า ขบวนขันหมากควรมาถึงก่อนเวลาเล็กน้อย คุณลุงและคุณป้าพร้อมลูกชายและลูกสาว ที่มีศักดิ์เป็นพี่ของเจ้าสาว เดินทางมาถึงบ้านในเวลาประมาณ 7.30 น. ตามที่นัดหมาย อีกประมาณ 15 นาที ได้รับแจ้งว่า ทางขบวนรถขันหมากของเจ้าบ่าวเดินมาถึงหน้าหมู่บ้านแล้ว ก่อนเวลาประมาณ 15 นาที เราจึงประสานให้นำรถเข้าหมู่บ้านมา และให้ไปจอดรออยู่ที่ซอยก่อนถึงบ้านเจ้าสาวก่อน เพราะยังไม่ถึงเวลาและที่สำคัญคือ ตากล้องทั้งสองคนยังเดินทางมาไม่ถึง เรารอจนเหลือเวลาอีกเพียง 5 นาที ตากล้องก็ยังคงมาไม่ถึง แม้จะโทรประสานล่วงหน้าก่อนเกือบชั่วโมง ผมจึงตัดสินใจเดินหน้าพิธีตามเวลาที่กำหนด โดยแจ้งทางขบวนขันหมากเจ้าบ่าวให้เคลื่อนขวนมาที่หน้าบ้าน โดยตัวเอง ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า คือการทำหน้าที่ตากล้องเสียเอง (โชคดีที่ผมเอง ได้เตรียมกล้องไว้พร้อมอยู่ในกระเป๋ากันไว้อยู่แล้ว) และ ลูกปัทรีบให้เพื่อนอีกคนที่มาช่วยงานตั้งแต่เมื่อวานแล้ว รีบไปเอากล้องของตนเองมาช่วยถ่ายรูปอีกคน เรื่องนี้เจ้าสาวกับเจ้าบ่าวคงไม่ทราบในตอนนั้น….ก็เป็นเรื่องคาดไม่ถึงอีกครั้งครับ…..ตากล้องเดินทางมาถึงหลังพิธีเริ่มแล้วเกือบ 10 นาที แต่เราก็มีรูปและเริ่มพิธีตามกำหนดเวลา คือ 7.59 น. ได้ตามที่ตั้งใจครับ….รูปทั้งสามคือรูปที่ผมถ่ายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีครับ…..ขอบคุณสวรรค์จริง ๆ เราจึงสามารถมี Presentation ที่ครบขั้นตอน เพื่อนำเสนอได้ในงานเลี้ยงฉลองสมรสช่วงเย็น
เข็มขัดสั้น1
ในการจัดงานแทบทุกงาน ย่อมเกิดปัญหาที่ไม่คาดหมายได้เสมอ ในการจัดงานแต่งงานของลูกในครั้งนี้ ก็เช่นเดียวกันครับ เราเตรียมงานกันมาหลายเดือน โดยเฉพาะเรื่องของการจองโรงแรม เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการจัดงาน เรื่องนี้เราให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นผู้เลือกและดำเนินการเป็นหลัก เมื่อทราบว่า ตกลงได้สถานที่คือ ห้องแกรนด์บอลรูม ของโรงแรม เราก็สบายใจว่า ห้องแกรนด์บอลรูม ตามข้อมูลของโรงแรมในอินเตอร์เน็ต มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 790 ตารางเมตร สามารถจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำ 480 ท่านได้
งานแต่งครั้งที่ 2
มีโอกาสจัดงานแต่งอย่างมีส่วนร่วมครั้งที่ 2 อย่างจริงจังในชีวิต เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา ไม่ใช่ผมได้แต่งงานเป็นครั้งที่ 2 หรอกนะครับ แต่เป็นการได้ร่วมการจัดงานของลูกสาว ถือว่าเป็นการได้ร่วมจัดงานอย่างจริงจังเป็นครั้งที่ 2 นอกเหนือจากการจัดงานแต่งของตนเอง เมื่อ 35 ปีก่อน จึงอยากจะนำมาเล่าสู่กันฟัง จากประสบการณ์การจัดงานที่ห่างกันถึงขนาดนี้ เผื่อจะให้ข้อคิดหรือประโยชน์แก่ท่านอื่น หรือได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับท่านอื่นบ้างครับ
ฉลอง 60 ปีงานงิ้วปักธงชัย
ช่วงระหว่างวันที่ 4-8 ธันวาคม 2552 นี้มีงาน ฉลอง 60 ปีงานงิ้ว ของตลาดอำเภอปักธงชัย เป็นงานที่ถือว่าเป็นงานประจำปีที่ยิ่งใหญ่ของชาวตลาดปักธงชัย ที่จัดมานานเป็นปีที่ 60 แล้วในปีนี้ ดังนั้นจึงเป็นงานที่ผมได้พบเห็นและร่วมงานมาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก งานงิ้วประจำปี ที่เรียกกันอย่างสั้น ๆ ที่จริง หัวใจสำคัญของงานคือ งานสักการะ ขอพร “ปึงเถ่ากงม่า” ที่เป็นศาลเจ้าประจำตลาดปักธงชัยนั่นเอง ชาวตลาดปักธงชัยและลูกหลานชาวตลาดปักธงชัย แม้จะไปทำมาหากินหรือไปมีครอบครัวอยู่ในที่ไหนของประเทศก็ตาม จะพยายามมาร่วมงานนี้ให้ได้ทุกปี เพื่อมาสักการะ ขอพร จาก “ปึงเถ่ากงม่า” ให้มีโชคมีลาภ มีความสุข ความเจริญในชีวิต เป็นช่วงรวมญาติของแต่ละครอบครัวอีกวาระหนึ่งด้วย
งานสัปดาห์หนังสือโคราช
สำหรับการจัดงานสัปดาห์หนังสือโคราช ( Korat Love Reading ) ระหว่าง วันที่ 3-6 ธันวาคม 2552 ณ บริเวณลานย่าโม เช่นเดียวกัน
เพื่อส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนรักการอ่านหนังสือ เพื่อนำความรู้ที่ได้จากการอ่านหนังสือ มาใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะการอ่านคือการหาความรู้ที่ใช้ต้นทุนน้อยที่สุดนั้น นอกจากจะมีนิทรรศการเกี่ยวกับหนังสือและการอ่านแล้ว ยังมีนิทรรศการเทิดพระเกียรติ “โครงการแก้มลิง” การประกวดบอนไซ และการประกวดภาพถ่ายหัวข้อ “วิถีโคราช ..วิถีพอเพียง” และแน่นอน นอกจากการออกร้านจำหน่ายหนังสือของสำนักพิมพ์ต่าง ๆ พร้อมการลดราคาแล้ว ที่ขาดไม่ได้ก็คือ การออกร้านจำหน่ายอาหารและของฝากระดับ OTOP 4 -5 ดาว ของเมืองโคราช อีกมากมายเช่นงานอื่น ๆ
การไปเที่ยวชมงานครั้งนี้ของเราก็ได้ทั้งอาหารสมอง (หนังสือ) และ อาหารอร่อย ระดับ OTOP 4-5 ดาวติดมือกลับบ้านด้วยครับ
KORAT LOVE THE KING
หลังจากไหว้ย่าโมแล้ว เราก็ได้มีโอกาสร่วมชมงานวันสุดท้ายของงานเทิดไท้ องค์ภูมิพล ( KORAT LOVE THE KING ) ที่จัดโดยเทศบาลนคร นครราชสีมา ระหว่าง วันที่ 3-6 ธันวาคม 2552 ณ บริเวณลานย่าโม
เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมถวายความจงรักภักดี แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยการจัดกิจกรรมต่างๆ มากมาย มีการลงนามถวายพระพร ณ ลานอนุสาวรีย์, นิทรรศการโครงการปลูกจิตอาสาปลูกต้นไม้ให้พ่อ สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนในพื้นที่ ให้มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม พบกับการแสดงดนตรี KORAT YOUTH ORCHESTRA ซึ่งเป็นวงดนตรีของเยาวชนจากสถานศึกษาต่างๆในจังหวัดนครราชสีมา กลุ่มนักดนตรีที่เข้าร่วมจาก 11 สถาบัน ในการบรรเลงประเภทเครื่องเป่า จำนวนกว่า 200 คน เล่นเครื่องสายจำนวนกว่า 100 คน และ นักร้องที่เข้าร่วมจำนวนกว่า 300 คน ประชาชนสามารถเข้าร่วมรับฟังการแสดงแสดงดนตรีเทิดพระเกียรติได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
รายละเอียดของงานอื่น ๆ คงหาได้ไม่ยากจากอินเทอร์เน็ตครับ เราโชคดีจริง ๆ ที่ได้ไปร่วมชมงานในวันสุดท้าย
อนุสรณ์สถานวีรชนคนโคราช
แม้ว่าผมเป็นชาวโคราชโดยกำเนิด แต่ไม่น่าเชื่อครับผมเพิ่งไปเดินที่ลานย่าโมเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้เอง (6 ธันวาคม 2552) จึงได้เห็นและชื่นชมกับ อนุสรณ์สถานวีรชนคนโคราช ที่สร้างไว้ในบริเวณลานย่าโมแห่งนี้ จากบันทึกเขียนไว้ว่า
” อนุสรณ์สถานวีรชนคนโคราช อนุสรณ์สถานแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๔๘ เพื่อเชิดชูวีรกรรมท้าวสุรนารี (คุณหญิงโม) และวีรชนคนโคราช ที่ได้ช่วยกันต่อสู้ข้าศึกศัตรูที่มารุกรานจนได้ชัยชนะเมื่อปีพุทธศักราช ๒๓๖๙ “ ดังนั้นผมจึงได้มาชื่นชมอนุสรณ์สถานแห่งนี้หลังการสร้างถึง 4 ปีทีเดียว ก็อดที่จะนำภาพมาให้ได้ร่วมชื่นชมกันไม่ได้ครับ ท่านใดที่มีโอกาสแวะมาโคราช ไหว้ท่านท้าวสุรนารีแล้ว ก็อย่าลืมแวะมาสัมผัสบรรยากาศบริเวณลานย่าโมและอนุสรณ์สถานวีรชนคนโคราชที่อยู่ติดกันด้วยนะครับ
บริเวณลานย่าโม แห่งนี้ จะใช้เป็นลานจัดกิจกรรมต่าง ๆ อยู่เป็นประจำของชาวโคราช ดังนั้นเมื่อท่านแวะมาก็จะได้สัมผัสกับชาวโคราชได้มากขึ้น มีกิจกรรมมากมายหลายแบบในบริเวณนี้ เป็นที่พักผ่อนยามเย็นและยามค่ำคืนของชาวโคราช บริเวณลานย่าโมนี้ ในสมัยก่อนเป็นบริเวณสวนไม้ดอกไม้ประดับที่เรียกว่า สวนรัก และ ตลาดโต้รุ่ง ของชาวโคราช ในสมัยโน้น (ช่วงที่ผมเรียนอยู่ชั้น ม. 7- 8 โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย) โดยเฉพาะช่วงใกล้สอบ จะไปดูหนังสือที่บ้านเพื่อนที่อยู่ใกล้ ๆ จนดึก ก็ปั่นจักรยานสองล้อ หรือบางครั้งก็เดินจากบ้านเพื่อนมาหาอะไรรับประทานกันที่ตลาดโต้รุ่งแห่งนี้ หรือบางทีก็ให้ใครคนใดคนหนึ่งหรือสองคนออกไปซื้อกลับมารับประทานกันไปติวกันไป ในสมัยนั้นใครผ่านมาที่โคราชยามค่ำคืน ตลาดโต้รุ่งแห่งนี้ก็เป็นจุดนัดพบ ที่แวะมาหาของรับประทานกัน มีของอร่อย ๆ ให้เลือกชิมมากมาย รวมทั้งมีของฝากจากโคราชอันหลากหลาย ให้เลือกซื้อติดมือกลับไปอีกด้วย ผมยังจำบรรยากาศดี ๆ เหล่านั้นได้ครับ