หลักฐานยืนยันที่แสดงถึงความรัก

โดย นักการหนิง เมื่อ 17 ตุลาคม 2009 เวลา 11:58 (เช้า) ในหมวดหมู่ เรื่องเล่าจากลานดีดี #
อ่าน: 1569

“การหมกมุ่นอย่างเจ็บปวดอยู่กับสถานการณ์หรือความทรงจำถึงคนรักที่จากไป  การโศกเศร้าทำอะไรไม่ได้อยู่เป็นเดือนเป็นปีไม่ได้เป็นหลักฐานยึนยันแสดงถึงความรัก  แต่เป็นความยึดถือที่่ไม่ได้ทำให้ตนเองและผู้อื่นดีขึ้น  ถ้าเราเรียนรู้ว่าความตายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต  ความโศกเศร้าเสียใจก็จะค่อยๆ เปิดทางให้แก่ความเข้าใจและความสงบสันติ    “อย่าคิดว่าเจ้าตอบแทนแม่ด้วยสิ่งประเสริฐ  ถ้าเจ้าทำให้ความตายของแม่เป็นเหตุการณ์ใหญ่ในชีวิต       เจ้าจะตอบแทนแม่ได้ดีที่สุดด้วยการมีชีวิตที่ดีและมีความอิ่มเอิบใจ”  นี่คือถ้อยคำของแม่ที่พูดกับลูกชายขณะเธอใกล้จะสิ้นลม”"

จากหนังสือเรื่อง “ความสุข”  มาติเยอ ริการ์  เขียน  สดใสขันติวรพงศ์  แปล  ของสำนักพิมพ์สวนเงินมีมา หน้า 101

จากย่อหน้าเล็กๆ นี้ก่อความสะเทือนเข้ามาในความรู้สึกในหัวใจเล็กๆ นี้

อยากถามพี่ๆ น้องๆ ว่าได้อะไรจากย่อหน้านี่บ้าง

« « Prev : อยากเล่าง่ะ

Next : ครบรอบหนึ่งปีการเป็นสมาชิกชาวลานปัญญา » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

6 ความคิดเห็น

  • #1 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 ตุลาคม 2009 เวลา 11:55 (เช้า)

    รักไม่ใช่ครอบครอง เปราะบาง หวั่นไหว
    แต่รักคือเหนียวแน่น มั่นคง เข้มแข็ง
    เพราะคนที่จากไปเขายังอยู่กับเราเสมอ…ในใจนี้

    การครวญคร่ำอาจห้ามกระทำได้ยาก แต่รู้หรือไม่ใยจึงคร่ำครวญ
    ความกตัญญูจึงไม่ใช่การหวนไห้ไม่เลิกรา แต่คือการแสดงว่าพ่อแม่สอนเรามาอย่างไรให้เข้มแข็ง สง่างาม

    ความรักจึงไม่ใช่การพูด แต่เป็นการปฏิบัติให้เห็น ทำให้เกิดให้ได้อย่างเต็มกำลังด้วยความเข้าใจ และมั่นคง

    คิดถึงนะคะพี่หนิง ^ ^

  • #2 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 19 ตุลาคม 2009 เวลา 8:03 (เย็น)

    ความรักเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้น แล้วพัฒนาไปสู่ความผูกพัน
    มันเป็นธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต แต่สำหรับมนุษย์ได้สร้างวัฒนธรรมของความรักไว้ แม้จะแตกต่างกันไปในรายละเอียด แต่หลักๆก็มีเหมือนกัน คือครรลองการพึงปฏิบัติต่อกันอันมีวัฒนธรรมเป็นโครงใหญ่ครอบ มีคุณค่า มีสำนึก มีความรับผิดชอบและสร้างสรรค์เพื่อสืบต่อชีวิต

    ความรักคือเรื่องราวเริ่มต้นของหมื่นแสน นิยาย ภาพยนต์ เรื่องสั้น สารคดี ข่าวสารประจำวัน ที่ผ่านมาและอนาคต
    พี่ว่าความรักมันเป็นการเคลื่อนตัวของวิถีชีวิตจากช่วงเวลาหนึ่งไปสู่อีกช่วงเวลาหนึ่งมีการเรียนรู้และสรุปและหาความเหมาะสมให้แก่ตนเอง
    ไม่มีความรักของคนใดที่หวานชื่นหรือขมขื่นตั้งแต่ต้นจนจบ  มันมีหลากหลายรสชาด

    ความรักทำชีวิตให้มีความสมบูรณ์ทาง maturity หากคามรักนั้นมีสติกำกับ

    การแกว่งตัวของความรักเดี๋ยวดีใจสุดขีดและเศร้าสร้อยเมื่อพรากจากกัน

    ศาสนาจึงเข้ามาประคับประคองให้ความรักมีหลัก มีสติ เข้าถึงความจริง สัจจะ และปรับตัวปรับใจปรับสภาพให้ยออมรับความจริงของธรรมชาติ

    กลั่นเอามาให้น้องหนิงครับ

  • #3 Nothing ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 ตุลาคม 2009 เวลา 4:12 (เย็น)

    ผมเคยลูบๆ คลำๆ หนังสือเล่มนี้หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้ครอบครองสักที  เห็นความหนาของหนังสือเล่มนี้ก็เลยต้องถอยดีกว่า เพราะยังมีเล่มอื่นนอนนิ่งให้อ่านอยู่หลายเล่ม

    อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้ผมนึกถึงการสนทนาทางโทรศัพท์ครั้งล่าสุดกับแม่  แม้ลูกทุกคนยังมีปัญหาให้กังวล แต่แม่ก็พูดได้อย่างเต็มปากว่า “ถึงแม่ตายแม่ก็ไม่มีอะไรให้ห่วงอีกแล้ว” ที่ว่าไม่ห่วงไม่ได้ว่าเราร่ำรวยอะไร ยังจนเหมือนเดิม แต่สำหรับชาวบ้านธรรมดาๆ ที่ส่งลูกให้เรียนจบหมดทุกคน ทั้งๆ ที่ชาวเพื่อนบ้านทำกันแทบไม่ได้ มันก็คือความสำเร็จอันใหญ่หลวงของคนตัวเล็กๆ นี่กระมังครับ…ความสุขที่แท้จริง

  • #4 นักการหนิง ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 ตุลาคม 2009 เวลา 7:53 (เย็น)

    หมอเบิร์ดคะ
    ต้องอ่านข้อคิดเห็นตั้งสองวัน สามรอบ เพื่อทำความเข้าใจ  เป็นทัศนะที่มีความลึกซึ้งมาก บนภาษาที่เรียบง่าย
    ชอบมากๆ เลยค่ะ  กลับมาถามตัวเองนะว่า  เราเข้มแข็งและสง่างามได้เท่าที่ึควรจะเป็นหรือยัง  เพื่อที่จะได้เติมเต็ม ในสิ่งที่ควรจะเป็นในวันที่คนที่เรารักยังมีชีวิตอยู่  และเมื่อคนที่เรารักจากไป  ความเข้มแข็ง สง่างามเพื่อที่จะมีชีวิตที่ดี และอิ่มเอิบใจ เป็นทางที่เราต้องเดินไป

    คิดถึงหมอเบิร์ดมากๆ เข่นกันค่ะ  ไปเชียงรายรอบหน้าจะไปทานข้าวด้วยนะคะ

  • #5 นักการหนิง ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 ตุลาคม 2009 เวลา 8:16 (เย็น)

    ไม่ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย  กับทัศนะที่พี่บางทรายกลั่นมาให้ น้องก็ต้องกรองซะหลายรอบเหมือนกัน เห็นหลายอย่างและมีอย่่างหนึ่งที่เห็น คือ “ความรักทำชีวิตให้มีความสมบูรณ์ทาง maturity หากความรักนั้นมีสติกำกับ”  ความรักที่มีสติกำกับย่อมส่งให้เราเติบโตขึ้นได้ทั้งกายและใจ  หนิงว่าแม้แต่ความรักที่เรามีให้กับตัวเองก็จำต้องมีสติกำกับเช่นเดียวกัน

    เรื่องนี้จะไม่สามารถอรรถาธิบายความรู้สึกนึกคิดอะไรได้มากนัก
    เมื่ออ่านแล้วเกิดความสั่นสะเทือนในใจ จึงเกิดหัวข้อนี้ขึ้น  เดิมรู้สึกอยากรู้ว่าหลักฐานใดที่ยืนยันถึงความรักในแง่มุมต่างๆ  และเมื่อได้มาก็เกินคาดหมายจริงๆ

    รู้สึกถึงความสั่นสะเทือนกับความคิดเห็นของทั้งหมอเบิร์ดและพี่บางทราย  คงเหมือนพี่รอกอด ที่ว่าหัวใจไม่ได้เป็นพลาสติกเวลาถูกกอดจะได้ไม่เขินนะ
    อ่านแล้วอิ่มเอมค่ะ

  • #6 นักการหนิง ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 ตุลาคม 2009 เวลา 8:31 (เย็น)

    สวัสดีค่ะคุณธรรมาวุธ  ขอบอกว่าอ่านหนังสือเล่มนี้มีชั้น มีช่องว่างระหว่างบรรทัด ระหว่างแต่ละวรรคตอนค่ะ ความหนาไม่ได้เป็นอุปสรรคเลยค่ะ อ่านแล้วก็วางไม่ลง อ่านเร็วก็ไม่ได้  อ่านแล้วมีความสุข ติดพันและนัวเนีย
    ในแต่ละวรรคตอนนี้มีความลึกซึ้งและ ทำให้เกิดความสั่นสะเทือนในใจ เกิดสภาวะธรรมที่เกิดดับเห็นๆ ค่ะ เป็นหนังสือธรรมะที่ถ่ายทอดได้ดีมาก โดยเฉพาะหากได้เคยศึกษาธรรมมะมาบ้าง….

    ภูมิใจกับคุณแม่ของคุณธรรมาวุธมากๆ เลยค่ะ สิ่งที่ท่านทำให้ลูกทั้งหมดย่อมเป็นหลักฐานยืนยันที่แสดงถึงความรักที่ท่านมีต่อลูกได้เป็นอย่างดีที่สุด หาสิ่งใดมาเปรียบปาน

    หายากมานะคะ คนที่จะบอกกับใครๆ ได้ว่าเมื่อเขาตายก็ไม่มีอะไรให้ห่วงแล้ว นั่นคือท่านได้ทำหน้าที่ของท่านอย่างสมบูรณ์


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.47480201721191 sec
Sidebar: 0.19704604148865 sec