วันนี้ไก่มาแล้ว ไก่จึงทำผ่อนพักตระหนักรู้ด้วยการอ่านเรื่องโมโม่ เกือบ 40 นาที….. มีคนกรนด้วย ไชโย ไชโย ประสบความสำเร็จ
และเริ่มกิจกรรม การวาดภาพความสุขที่ประทับใจ ครั้งนี้ให้จับคู่เล่า และเมื่อคนแรกเล่า คนที่สองฟังอย่างตั้งใจ แล้วเล่าทวนเรื่องที่คนแรกเล่า และผลัดกัน ทำให้ได้รู้จักคนอื่นมากขึ้น
กิจกรรมที่สอง World Café เป็นการแบ่งกลุ่มพูดคุยกัน ประมาณ 5 - 6 คน ซึ่งในวันแรกได้ซักซ้อมนักการทุกคนให้แยกกลุ่มในลักษณะ Home Base เพื่อเหนี่ยวนำกิจกรรมในกลุ่ม อิ่มให้ตัวกวน คือ “อะไรทำให้เราสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข” มีเงื่อนไขว่ามีคนหนึ่งเป็นดอกไม้ คนที่เหลือเป็นผีเสื้อ ดอกไม้ไม่ต้องเปลี่ยนกลุ่ม ผีเสื้อโบยบินไปดอมดมดอกไม้ดอกอื่น เมื่อเข้ากลุ่มใหม่ดอกไม้เป็นผู้เล่าให้ผีเสื้อฟังว่ารอบที่แล้วมาคุยกันว่าอย่างไร แล้วจึงให้ผีเสื้อพูดคุยเพิ่มเติม
กลุ่มที่นักการหนิงเข้านั้น เริ่มต้นด้วยการล้อมวงเป็นกลุ่มและคุยกันเป็นกลุ่ม สักพักหนึ่งเริ่มมีคนแยกกันคุยกันสองคน นักการหนิงเลือกที่จะพูดทีหลังด้วยการเติมเต็มในเรื่องของการให้ และพยายามดึงสองคนที่แยกคุยกันกลับเข้ามาในคุยกันเป็นกลุ่มเหมือนเดิม………. ไม่สำเร็จ แต่ก็เพียงสองคนที่แยกไป คนที่เหลือก็ยังคงเป็นกลุ่ม …………มี อสม.ยกมือขอเป็นดอกไม้ในกลุ่ม Home Base กลุ่มนี้จึงไม่สำเร็จ นักการหนิงก็ต้องเป็นผีเสื้อ โบยบินไปดอมดมดอกไม้ดอกอื่น
รอบที่สองนักการอิ่มให้ผีเสื่อเปลี่ยนกลุ่ม และพูดคุยในหัวข้อเดิม รอบที่สอง ไม่มีคนแยกคุยกันแต่ยังมีคนคอยสอดแทรกระหว่างที่คนในกลุ่มแสดงความคิดเห็นบ้าง นักการหนิงก็ต้องใช้สมาธิในการนิ่งฟังอย่างตั้งใจ รอบนี้นักการอิ่มให้คนในกลุ่มเสนอตัวเป็นดอกไม้ใหม่ที่ไม่ใช่คนเดิม รอบนี้จึงยกมืออย่างฉับไว….. สำเร็จ
รอบที่สาม มีหนุ่มชาวชุมชนดีอินทร์เข้ามาในกลุ่ม มีพี่จินตนา พี่สุนันท์ ครานี้เกิดเรื่องมหัศจรรย์ขึ้น กลุ่มนี้ไม่ได้คุยตามหัวข้อที่ได้รับมา แต่คุยกันเรื่องทำชุมชนอย่างไรให้มีความสุข รองรับคนได้ทุกกลุ่มทุกวัยในชุมชน โดยมีดีอินทร์เป็น Best Practice การแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และเริ่มแลกเปลี่ยนความรู้สึกในวันนี้ …….. เป็นไปตามธรรมชาติ การเล่าและการฟังเป็นไปอย่างธรรมชาติ
· พี่จินตนาบอกว่าความรู้สึกเหมือนนำใจออกมาล้างและใส่กลับเข้าไปใหม่ รู้สึกใจเอี่ยมขึ้น
· พี่สุนันท์รู้สึกว่าตัวเองมีค่าและไม่ท้อที่จะเพื่อชุมชน
· และคนอื่นๆ อีกหลายคน…..มีสิ่งดีดีออกมาจากใจ
เวลาผ่านไปเท่าไร ไม่มีใครสนใจ ทุกคนดื่มด่ำ ทุกคนมีความสุข ทุกคนมีพลัง ……… หลังจากนั้นนักการอิ่ม…ก็นำเข้าสู่วงสนทนา…โดยการเชิญชวนให้สมาชิก…ถ่ายทอดความรู้สึก…ที่เกิดขึ้นจากการอยู่ร่วมกันในสองวัน ติดตามได้ในลานซักซ้อมจินตนาการ http://lanpanya.com/phiangpen/?p=24
ด้วยความที่ระยะเวลาในการบ่มเพาะสั้น ทุกครั้งที่นักการอิ่มจะนำเข้ากิจกรรม จะให้ทุกคนอยู่กับตัวเอง ทบทวนใคร่ครวญเรื่องราวในอดีตที่สอดคล้องกับตัวกวนในกิจกรรมต่อไป และให้ทุกคนจินตนาการถึงความสุข ความอบอุ่น ความรัก ความหวังดี ที่ได้รับจากกันและกัน …. ประมาณ 5 นาที นักการอิ่มเฉลยว่าเป็นการนำสู่คลื่นอัลฟ่า และเป็นการให้ทุกคนได้ทบทวน บ่มเพาะข้อมูล….. อืม
หลังจากนั้นอีกวันหรือสองวัน ทีมนักการทั้งหลาย ทำ AAR นักการหนิงเข้าร่วมช้า ต้องมาทบทวนกันอีกนิดหนึ่ง
การฟัง สร้างกำลังใจดีดีได้
พี่นิด พูดแล้วมีคนฟัง …. ทั้งๆ ที่ผ่านๆ มาพี่นิดพูดเรื่องที่เป็นปัญหาที่เกิดจากการดูแลชุมชน กระทบกับสวัสดิภาพของพี่นิด ไม่มีใครสนใจแม้กระทั่งฟัง………….. มุ่ยฟังพี่นิดอย่างตั้งใจ
สัมผัสได้ถึงธรรมชาติของชุมชนที่กรอบไม่หนา
นักการทุกคนมีความสุข
นักการเองได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้
เล่าเป็น ฟังเป็น ใจมา( จริงๆ ) แลกเปลี่ยนได้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องมีพิธีรีตองมากมาย
ใจมา คือ ใจที่เคารพผู้อื่น เคารพประสบการณ์ผู้อื่น เคารพความรู้ ศักยภาพของผู้อื่น ชื่นชมความสำเร็จของผู้อื่น เคารพความไม่รู้ของตนเอง เคารพความอ่อนน้อมของการเรียนรู้ของตนเอง น้อมรับความสำเร็จประสบการณ์ผู้อื่น ปรับใช้กับตัวเอง ชุมชน สังคมของตัวเอง
การสัมผัส สัมพันธ์ เกิดทั้งภาษาพูด ภาษากาย
กิจกรรม World Café น่าจะต้องทำถึงสามรอบเนอะ เพราะสังเกตมาสอง สามครั้ง แล้วว่าการเรียนรู้ การปรับต้ว การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ น่าจะเกิดในรอบที่สองท้ายๆ และรอบที่สาม
เอะ ถ้ามีรอบที่สี่จะเกิดอะไรขึ้นหนอ มากไปไหมหนอ คนจะเบื่อไหมหนอ
…………..
……….
…..
กิจกรรมและถอดบทเรียนเหมือนขนมจีนกับน้ำยาอย่างไง อย่างงั้นเลยแหล่ะ และเหมือนที่พี่เมแห่งวงน้ำชาพูดไว้ การดูแลผู้อื่นคือการดูแลตัวเอง