ชีวิตแสนธรรมดา ภาคเด็กน้อยค่อยก้มประนมกร2

โดย นักการหนิง เมื่อ 18 ธันวาคม 2008 เวลา 9:59 (เช้า) ในหมวดหมู่ เรื่องเล่าจากลานดีดี #
อ่าน: 2122

เล่น

ชีวิตช่วงนั้น มีแต่เรียนหนังสือกับเล่นค่ะ   ความรู้สึกว่าตัวเองได้เล่นเยอะมากๆ ทั้งๆ ที่ทำงานเยอะ เกิดจาก ความเป็นเด็ก เมื่อแม่สอนให้ทำงานแล้ว แม่ก็ปล่อย ให้ทำงานเอง ตามตารางเวลาที่ควรจะเป็น  นั่นแหละ คือการเล่น  ล้างจานก็เล่นฟองแฟ๊บ(มัยนั้นเรียกแฟ๊บหมด)  ซักผ้าก็เล่น  ถูบ้านก็เล่น  ทำอาหารให้แม่ก็เล่น ทุกอย่างที่เป็นงานเป็นเล่นหมด   จินตนาการช่วงนั้นเกิดขึ้นอย่างมากมาย  

 

 

อยู่อย่างนี้ประมาณ 2 ปีกว่าๆ แม่บอกว่า น้องป่วยมาก ต้องรับกลับบ้าน  ตื่นเต้น ดีใจ ปนกังวล  เอ.. น้องมาแล้วแม่จะรักน้องมากกว่าไหม…  น้องป่วยจริง ทอลซิลอักเสบ  แม่พาไปรักษาจนหายดี  และสัญญากับน้องว่าไม่ให้น้องไปอยู่กับพ่อแล้ว  น้องหายแล้ว……  แต่น้องไม่พูด  ร้องแต่จะให้แม่อุ้ม  แม่ต้องอุ้มไปด้วยเย็บผ้าไปด้วย…. แม่     

 

น้องเริ่มชินกับที่บ้าน  แต่น้องก็ไม่พูด ใครถามอะไร มีแต่ภาษากายให้  แม่บอกว่าน้องไปอยู่กับคนอื่น คงมีทุกข์  นั่นนะซินะ น้องคงมีความทุกข์มากมาย  อีกห้าหกเดือนน้องค่อยๆ ดีขึ้น แต่ก็ไม่พูด อยู่ไกลแม่ หรือมองไม่เห็นแม่ก็จะร้องไห้หาแต่แม่  ตั้งแต่เสียงดังโวยวาย จนเป็นกระซิกๆ    หลังๆ แม่ชักปล่อยเพราะต้องทำมาหากิน  แต่ภาพที่เห็นประจำคือน้องแนบหน้าเข้าลูกกรงระเบียงบ้านชั้นบนมองแม่นั่งเย็บผ้า   ร้องไห้กระซิกๆ เป็นสองสามชั่วโมง 

 

แม่ให้น้องไปโรงเรียน   ความโกลาหลก็มาเยือน กว่าจะไปได้ลุงสามล้อแทบลมจับทุกวัน  ทั้งแหกปากร้องไห้เสียงดัง  จนถึงกระทืบรถสามล้อแทบพังคาเท้าเล็กๆ   น้องน่ารำคาญมาก  ไม่ได้เรื่องเลย  รู้สึกอย่างนั้นทุกๆ วัน    วันหนึ่งที่โรงเรียน ฝนตกในช่วงฤดูหนาว ฝนตกหยิมๆ ทั้งวัน  น้องกอดอกแล้วพูดว่า หนาวจังเลย    ทุกคนดีใจ  ฉันสะท้อนใจ น้องไม่พูด ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่พูดกับใคร  น้องได้แต่พูดกับตัวเอง   พูดกับความรู้สึกของตัวเอง   ความทุกข์ของเขาคงมากมาย

 

โตแล้วลูก นอนกับแม่ไม่ได้  นอนข้างแม่ทั้งสองคนไม่ได้  แม่จะไม่ได้นอน  ลูกโตแล้ว  นอนปลายเตียง  น้องยังเล็กให้นอนกับแม่  แม่บอก   แยกห้องนอนกับแม่  ด้วยความไม่ค่อยเข้าใจ และน้อยใจว่าแม่รักน้องมากกว่า  ไม่นอนปลายเตียง  เสียศักดิ์ศรีหมด   แยกห้อง  แม่จะได้รู้ว่าเราเป็นผู้ใหญ่แล้ว  

ที่หัวเตียงแม่ มีหนังสือการ์ตูนเรียงเป็นตับ  สามก๊ก   อ่าน อ่าน อ่าน หลังๆ เริ่มฉีกขาด แหว่งวิ่น แต่แม่ไม่ว่าอะไร

 

น้าสาวพาลูกสาวคนโตของน้ามาไว้ที่บ้านอีกคน ที่รู้มาคือน้าไม่มีคนช่วยเลี้ยง เลยฝากแม่เลี้ยงบอกว่าจะส่งเงินมาช่วย    ดีใจมากมีพวกแล้ว  แม่รักน้อง เราก็โดดเดี่ยวน้องซะเลย  น้องมีพวกเป็นแม่คนเดียว แต่เรามีพวกสองคน คืออำม้ากับน้องอีกคนหนึ่ง  สงคราม  ความรัก  ศึกสายเลือดเกิดขึ้นเป็นสมรภูมิย่อยๆ บ่อยๆ บาดลึกกินใจตามระยะเวลา  แม่ไม่มีเวลามาดูเรื่องราวพวกนี้   เพราะทุกเวลาคือ เงินทองที่ต้องหามาดูแล ห้าชีวิต  แต่เมื่อไปโรงเรียนความรัก ความหวงน้องก็ไม่จางหาย ใครรังแกน้องผ่านฉันไปก่อน  อยู่นอกบ้านน้องเกาะแจ  อยู่ในบ้านน้องเกาะแม่ น่าโมโหนัก

 

น้องคนใหม่ตากลม ขนตาเป็นแพ งอนเช้ง  คิ้วดกเข้ม หน้ากลมๆ ไม่ดื้อ ติดแจเชียว  อีกสามปีน้องคนนี้ก็ไม่มีพ่อเหมือนฉัน     คราวนี้น้าก็พาน้องผู้ชายอีกคนมา อายุสองเดือน และรับคนโตกลับ   แม่ต้องเลี้ยงอีกแล้ว   อีกห้าปี  น้าพาน้องผู้หญิงอีกคนหนึ่งมาซึ่งเกิดกับสามีใหม่   และรับน้องผู้ชายกลับไป  แม่ต้องเลี้ยงอีกแล้ว  แม่เล่าให้ฟังว่าตอนเป็นวัยรุ่นแม่ก็ต้องเลี้ยงลูกให้พี่ชาย  ตั้งหลายคน  แม่เลี้ยงใครๆ เยอะจังเลย   แม่ทำงานหนักมาก  แต่ทำไมจิตใจแม่ดีมากๆ  ทั้งสวย ทั้งจิตใจดี

 

มีวันหนึ่งมัวแต่อ่านหนังสือ ไม่ได้สนใจลูกค้าที่มาซื้อของ  ลูกค้ามาเดินๆ ดูโน่นนี่  สักพักก็เดินออกไป  แม่เงยหน้าจากจักรเย็บผ้าพอดี   แววตาฟ้องว่าแม่โกรธ   ลูก….ร้านของเราขายของใช้ประจำวัน  เป็นของจำเป็นต้องใช้ทั้งนั้น  ไม่ใช่ของฟุ่มเฟือย  ถ้าเขาเข้าร้านมาหมายความว่าเขาต้องการของแล้ว  แต่ลูกไม่สนใจบริการ  ไม่สนใจถามไถ่ ช่วยเขาเลือกของ  เขาไม่พอใจจึงไม่ซื้ออะไร  ลูกทำให้ร้านเราเสียลูกค้าประจำเพราะทำให้เขาเสียความรู้สึก  ความจริงถ้าลูกใส่ใจสักนิดเราจะได้กำไรอย่างน้อยสิบยี่สิบบาท  และถ้าให้แม่ลุกจากจักรเย็บผ้ามาขายของ  ทั้งๆที่ลูกก็ขายของเป็น  แทนที่เราจะมีรายได้สองทางก็กลายเป็นทางเดียว  ลูกคิดว่าที่ทำเมื่อสักครู่ถูกไหม     คำพูดของแม่ประทับลงในใจมาจนทุกวันนี้  จริงของแม่ ถ้าใส่ใจสักนิด…….

 

ทุกวันหยุด ต้องซักผ้า  ครึ่งวันค่ะ แม่ไม่ชอบใส่เสื้อผ้าซ้ำๆ บอกเหม็นเหงื่อ  อำม้าก็เหมือนกัน  เด็กๆ อีก  แม่ไม่ให้เสื้อผ้าซ้ำๆ บอกสกปรก  ตานี้ละหวา  มหกรรมซักผ้า  เด็กสามคนมีหน้าที่ต้องซักผ้า

1.ล้างน้ำครั้งแรก 

2. ลงแฟ๊บให้พอดีห้ามมากเดี๋ยวตกค้าง   ตีแฟ๊บให้แตกจึงจะใส่ผ้าได้ 

3. ขยี้นานๆ  จนสะอาด

4. ล้างน้ำอย่างน้อยสี่น้ำ  และเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ

5. น้ำสุดท้ายต้องไม่มี่ฟอง  ถ้ามีฟองใช้ไม่ได้

6. บิดผ้าให้แห้ง  สะบัดผ้าแรง 

7. ราวนี้ตากท่อนบน   ราวนี้ตากท่อนล่าง  ราวนี้ตากผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว

 

มาตรฐานแม่สูงขนาดนั้น   ทั้งล้างจาน  ถูบ้าน ทำอาหาร และจิปาถะ แม่มีความละเอียดลึกซึ้ง  ใส่ใจในรายละเอียด  การที่จะซักผ้าที่มากมายก่ายกองขนาดนั้น  จำเป็นต้องทำให้เพลิน  วิธีที่ดีที่สุดคือซักผ้าไปด้วยฟังละครวิทยุไปด้วย  

 

ไม่ใช่แต่สามคนเท่านั้นที่ติดละครวิทยุ  กิ้งก่าตัวเขียวหัวหลากสี   ก็ติดละครวิทยุด้วย มันชอบเกาะโคนต้นมะม่วงใกล้ๆ บ่อน้ำ  ฟังละครวิทยุพร้อมกับผงกหัวเป็นจังหวะ ๆ   ขณะที่เราซักผ้าไป   แรกๆ ไม่ได้สนใจหรอกค่ะ  พอหลังๆ สังเกตเห็น สบตากับกิ้งก่า มันก็ผงกหัวทักทาย  จินตนาการ เริ่มทำงาน มันต้องกัดเราแน่เลย  มันเป็นพี่น้องกับตุ๊กแก   ถ้ากัดเรามันต้องไม่ปล่อยเราแน่  ต้องรอฟ้าร้องตั้งเจ็ดครั้งถึงจะปล่อย  มันเอาเราแน่  ลองอาหินปามัน  กิ้งก่าไม่ไป  แต่สีต่างๆ ที่หัวของมันจัดขึ้น จัดขึ้น  มันเอาเราแน่  กิ้งก่าขยับ ๆ ๆ  พวกเราก็ขยับ ๆ ๆ ๆ   ท้ายสุดสมองก็กระเจิง  กิ้งก่าขยับเข้าใกล้มากเข้า คนโตสุดวิ่งก่อน  น้องๆ  วิ่งตาม  มุดรั้วไปอีกบ้านหนึ่งแล้ววิ่งกลับมาหาแม่    แม่กลุ้ม…. แต่พวกเราก็ยังต้องซักผ้า กับกิ้งก่าอีกหลายปี  เรากลุ้มกว่าแม่ และกลัวด้วย

 

ช่วงนั้น น้องเป็นคนที่หนีงานมากที่สุด อ้างปวดท้อง ปวดศีรษะ ทุกครั้งที่ต้องทำงานบ้านหรือ  เก็บขนสินค้าเข้าโกดังหลังบ้าน  แม่ก็ไม่ว่าอะไร   คนที่ช่วยงานจึงเหลือแต่น้องที่เป็นลูกของน้า  ความรู้สึกไม่ดีกับน้องก็ร้าวลึกลงไปอีก 

 

แม่ต้องเล่นแชร์  ฉะนั้นอีกหน้าที่หนึ่งก็คือต้องไปเก็บค่าแชร์ และโพยเปียแชร์ให้แม่   ขาแชร์ของแม่ทุกคนพอเห็นหน้าจะให้ความเป็นกันเองเสมอๆ  ไม่เคยถามในลักษณะที่คลางแคลงใจ   ทำไมเขาไว้ใจเราซึ่งเป็นเด็ก  แม่บอกว่า เพราะเขาไว้ใจแม่และเชื่อว่าลูกแม่ก็ต้องไว้ใจได้  แม่สอนเสมอว่าถ้าเราทำอะไรให้คนอื่นไม่ไว้ใจ  เหมือนเราตัดหนามถมทางเดินตัวเอง  แล้วสุดท้ายเราก็จะไม่มีทางเดิน   คำสอนของแม่ง่าย  และเข้าใจง่าย

 ถอดบทเรียน

1.      แม่จะสอนเฉพาะเมื่อต้องสอนเชื่อมโยงตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ทำให้เกิดการเกาะเกี่ยว เรียนรู้ จดจำ

2.      ความเข้มแข็งนำพาชีวิตให้ก้าวไปข้างหน้าได้เสมอ

3.      เด็กคือผ้าขาว  ใส่ใจ ใส่ความรัก ให้ความนับถือให้แก่เขา บังเกิดการพัฒนาศักยภาพในตัวเด็กได้เป็นอย่างดี

« « Prev : ปัญญาปฏิบัติการ 3

Next : ชีวิตธรรมดา ตอน วัยรุ่นวุ่นวาย วุ่นวาย » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

82 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.75751900672913 sec
Sidebar: 0.025500059127808 sec