เขียนที่ห้องใต้หลังคา….(บันทึกตกค้างจากสวนป่า)
บันทึกนี้ไม่มีอะไร…….แค่อยากบอกว่าประทับใจอะไรที่สวนป่าบ้าง เป็นบันทึกที่เป็นความรู้สึกจริงๆ ไม่เป็นวิชาการ ไม่มีเนื้อหาสาระ (ออกแนวไร้สาระ อิอิ ) ไม่มีการถอดบทเรียน ……..แง่ววววววว
……………………………..
หากจะพูดถึงการใช้ชีวิตประจำวันตามปกติธรรมดานั้น คงจะเป็นเรื่องยากสักหน่อยที่จะมีโอกาสได้ไปนอนนับดาว ในบรรยากาศที่โรแมนติกขนาดนั้น แต่ที่สวนป่าทำให้มิมมีโอกาสได้นอนนับดาวอีกครั้งหนึ่ง
จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ได้นอนนับดาว ก็ตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย ช่วงที่เกิดฝนดาวตก ตอนนั้นตื่นเต้นมาก มันละลานตาไปหมดทั้งผู้คนที่มากันอย่างล้นหลามเต็มสนามฟุตบอล แต่บรรยากาศความโรแมนติกสู้สวนป่าของพ่อครูบาไม่ได้สักกะนิดเดียว ที่สวนป่าของพ่อครูบา นอกจากจะมีดวงดาวสุกใสแล้ว บรรยากาศยังถูกขับกล่อมด้วยเสียงของสัตว์น้อยใหญ่ที่ช่างขับกล่อมให้บรรยากาศโรแมนติกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีเสียงห้องข้างๆ ที่กำลังอยู่ในภวังค์ดังมาเป็นระยะๆ บวกกับเสียงของสัตว์น้อยใหญ่ก็ยิ่งเพิ่มความโรแมนติกเข้าไปอีก เอิ๊กซ์!!
ก่อนนอนมองดูดาว นับดาว เห็นดาวตกไปสี่ดวง แต่ไม่ทันได้อธิฐานอะไร ถือว่ามีบุญวาสนาที่ได้เห็นดาวตกเพราะนอนนับอยู่ด้วยกันกับพี่ราณีสองคน แต่พี่ราณีไม่ได้เห็นดาวตกสักดวง เค้าว่าไม่มีบุญวาสนาหรือเปล่าค่ะ แป่ววววววว ตื่นขึ้นมาค่อนเช้าประมาณตีสามตีสี่ ท้องฟ้าก็ยิ่งสวย ใสปิ๊งเลย ดวงดาวก็สุกใส สว่าง จนต้องปลุกน้าอึ่งอ๊อบ ที่นอนกรนอยู่ข้างๆ หูให้ดูด้วยเพราะความสวยงามแบบนี้ต้องแบ่งกันชื่นชม พี่ราณีก็ตื่นขึ้นมาดูด้วย สวยๆๆๆ ได้ยินแต่เสียงพี่ราณีบ่นพรึมพรำ
พ่อครูขา…….สวนป่าของพ่อครูนี่วิเศษสุดเลย การไปสวนป่าคราวนี้ทำให้มิมได้เห็นอะไรที่ตื่นเต้น ประทับใจตั้งหลายอย่าง เช่น การนอนนับดาว การได้สัมผัสห้องใต้หลังคา ที่คิดว่าเป็นเรื่องโจ๊กของน้าอึ่งอ๊อบ แท้จริงแล้วมันมีอยู่จริง และได้ไปนอนไปสัมผัสมาแล้ว อีกอย่างการนอนบนดาดฟ้า ที่ไม่มีน้ำค้างสักหยด (แม่เคยบอกว่าอย่านอนตากน้ำค้างเดี๋ยวไม่สบาย) มีลมพัดเย็นสบาย โดยที่ไม่ต้องเปิดพัดลมเลย ได้เห็นน้องตาหวานเต้นระบำ อันนี้ก็ไม่คิดว่านกกระจอกเทศก็เต้นระบำเป็นด้วย ได้เห็นไก่ต๊อกของพ่อครูเดินตามกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ผิดกับลูกศิษย์ของมิมเลิกแถวทีไร ยังกะผึ้งแตกรัง ครูต้องหลบลูกศิษย์เอา เพราะมันไม่หลบเราอยู่แล้ว อยากให้ไปเห็นไก่ต๊อกของพ่อครูจัง ไม่เห็นมีใครต้องสอน อันนี้สอนกันอยู่ทุกวันยังทำไม่ได้ อย่างนี้อายไก่ต๊อกไหมล่ะ………
ไปเจอผลไม้แปลกๆ ใบคล้ายฝรั่ง แต่ลูกเหมือนน้อยหน่า ……..เอ มันลูกอะไรค่ะ?
แล้วทำไมขนุน ออกลูกเป็นส้มค่ะ…..ปริศนาธรรมอะไร คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก? อิอิ
แล้วเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวนี่….ทำไมไม่ออกมาให้ยลโฉมถ่ายรูปเลย เลยอดชมความงาม !!
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เห็นต้นมะม่วงหิมพานต์ …(บ้านนอกเนอะ อิอิ )
แล้วคนที่ค้นพบ KM ที่ลานไผ่ ได้รางวัลเป็นไข่จีเจี๊ยมจริงหรือเปล่า (อันนี้สงสัยมากๆ )
ได้พบกับความหมายของคำว่า ” ไม่ต้องห่วงฉัน” จริงๆ ก็คราวนี้เอง อิอิ หลวงพี่ติ๊กคอนเฟิร์ม!!
ฯลฯ
บ่นๆๆ เหลือบมองดูนาฬิกา โอ้…….จะตีหนึ่งแล้ว พรุ่งนี้มีสอนแปดโมง นี่กะว่าจะเขียนนิดหน่อยเพราะนอนไม่หลับเท่านั้นเองนะค่ะ แต่เขียนไปเขียนมายาวเลย กลับไปอ่านทบทวนอีกที ฮ่าๆๆ ไม่มีสาระอะไรเลยเรา พร่ำรำพันอะไรอยู่เนี๊ยะ ไปนอนๆๆๆๆๆ พรุ่งนี้จะได้ตื่นไหว…….ว่าแล้วก็จบแค่นี้ก่อน บ๊ายบายค่ะ ขอไปนอนก่อนค่ะ
ฝันดีทุกคนนะคะ……..
« « Prev : ความประทับที่ได้ไปสวนป่า..และทุกท่านที่มาเยี่ยมบ้าน
Next : มารยาทในสังคมออนไลน์…โลกเสมือนจริง » »
14 ความคิดเห็น
ไม่รู้เหมือนกันว่ามีสาระไหม? แต่ก็อ่านจนจบ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ
ชอบอ่ะ ถ้าไม่มีสาระก็แปลว่าคนอ่านก็ไม่มีสาระเหมือนกัน อิอิ
ทุกห้องอยู่ใต้หลังคามั๊งครับ
นอนโรงแรมแอร์ก็เย็นเหมือนกัน อิอิ
ครูมิมถูก ป๋า ป๋า ป๋า ขาใหญ่แซว
ป๋าเปลี่ยน เลยมาแซวอีกคน
ต้นน้อยโหน่งมั้งหนู ที่ลูกเหมือนน้อยหน่า
คนเจียงใหม่เรียก “บ่า เหนียงแร้ง”
คนหงสาเรียก “หมากคันทะรด”
คนก็สวย เขียนก็น่าอ่าน นวดก็เก่ง
เขียนอีกๆๆๆๆ นะคะคุณครู…อิอิ
แสดงว่าเป็นคนประเภทเดียวกันหรือค่ะ? อิอิ
มาแซวแบบนี้แป๊กเลย ไปไม่เป็นเลย ฮ่าๆๆ
ตรงที่มิมนอนแอร์ธรรมชาติแท้ๆ เลย เย็นสบายมากๆ ตอนกลางคืนนอนดูดาวจนหลับไป แต่มาตื่นเพราะกลิ่นหอมๆ ของไข่เจียวอยู่ด้านล่าง ….อยากจะบอกว่าทำร้ายกันชะมัดเลย ฮ่าๆ
ว่าแต่ว่าที่โรงแรมหน่ะ แอร์อะไรค่ะ…เอิ๊กซ์!!
น้อยโหน่งหรือค่ะนั่น ….คือลูกมันยังเล็กอยู่ค่ะ มองไม่ออกเลย ในชีวิตนี้เคยกินอยู่ครั้งหนึ่งตอนไปเวียตนาม มันลูกใหญ่ๆ นะคะ มีรสออกเปรี้ยวๆ หวานๆ แต่ที่เมืองไทยยังไม่เคยได้กินเลย และเพิ่งเคยเห็นที่สวนป่าเป็นครั้งแรกนี่แหละค่ะ……
ที่หงสามีไหมค่ะไอ้น้อยโหน่งนี่นะคะ?
นับเป็นบุญวาสนาของมิมต่างหากละคะ ที่มีโอกาสได้นวดอุ้ย และยิ่งดีใจที่เห็นอุ้ยลุกเดินได้ ไม่นอนนิ่งไปเพราะมิมนวด ฮา..
คราวหน้าจะนวดให้ดีกว่านี้อีกค่ะ
คิดถึงอุ้ยจังเลยค่ะ….มีโอกาสคงได้ไปกอดอุ้ยถึงเวียงเจียงใหม่นะเจ้า
ไม่ลงไปนอน วิลล่า ข้างล่าง บ้างเลย
ไม่มีดาว เพราะมองไม่เห็น วิลล่าบ้านพ่อครู ชอบมาก คราวหน้า ขอจอง อิอิ
เขียนชวนอ่านซ๊า….สบายๆ….เขียนอีกนะน้องครูมิมจ๋า….ไร้สาระหรือ….พี่ว่าไม่ใช่นะ…อ่านสนุกดีออก….คิดถึงคนเขียนเลยเชียว….เสียงเล็กๆตัวบางๆ….โรแมนติกอีกตะหาก…ไปสวนป่าหลายหนแล้ว…ยังไม่เคยขึ้นบนหลังคาเลย….ว่าแล้วก็เตรียมลอง…อยากเห็นดาวตกมั่งอ่ะ
ตาหยูค่ะ….ไปคราวหน้าต้องลองหลายๆ บรรยากาศค่ะ อิอิ
คิดถึงคุณหมอค่ะ