ชีวิตชาวนา ชาวสวน… ถ้าไม่สู้ก็อยู่ไม่ได้
วันนี้อยู่บ้านสวน เดินสำรวจบริเวณบ้าน แล้วก็มีกล้องติดมือถ่ายรูปมาฝากกันค่ะ เช้านี้พ่อไปปลุกให้ลุกจากที่นอนแต่เช้า เพราะวันนี้เราสามคน พ่อแม่ลูก จะไปทำงานเป็นกรมทางหลวงชนบทกัน ชีวิตของเกษตรกรชนบทอันห่างไกล เมื่อบริการของรัฐเข้าไม่ถึง ก็ต้องพึ่งสองมือสองเท้ากับมันสมองของตัวเองเท่านั้น ถึงจะอยู่รอดได้
ช่วงหน้าฝน ถนนเข้าสวนมะขามหวานเป็นหลุมเป็นบ่อเยอะมาก เพราะทางเส้นนี้มีคนที่ทำไร่ทำนาอยู่บริเวณนั้นเข้ามาใช้เส้นทางอยู่หลายเจ้า ทำให้ถนนที่เคยเป็นถนน กลับกลายมีหลุมอุกาบาตรอยู่กลางถนนเต็มไปหมด ลำบากคนที่เข้าออกทุกวัน กว่าจะถึงสวนได้ก็จุกท้องเสียดท้องเพราะแรงกระแทก วันนี้มิมขอบายกับการจะนั่งรถประจำตำแหน่งพ่อไป ขอเป็นมอเตอร์ไซด์ดีกว่า อย่างน้อยก็ยังพอหลบหลีกหลุมขนาดยักษ์ได้อยู่บ้าง
เราได้ขนหินลูกรังหลังบ้าน ขึ้นรถพ่อ แล้วนำไปใส่หลุมตามถนนเส้นทางเข้าสวน พอเอาหินลงใส่หลุมแล้วก็ใช้ค้อนทุบให้หินแตก เพื่อให้มันเรียบ จากนั้นค่อยขุดดินที่อยู่ข้างทางกลบอีกที ระยะทางเข้าสวนกว่าสองกิโลเมตร มีหลุมใหญ่ๆ อยู่หลายหลุม กว่าจะเสร็จเล่นเอาปวดเมื่อยไปทั่วร่างกายเลยหล่ะ
ช่วงหน้าฝน เป็นช่วงที่ต้นหญ้าเติบโตได้ดี แข่งขันกันขึ้นมา จนบางทีดูแลไม่ไหว สวนมะขามหวานของเราก็เลยดูรกครึ้มมาก ตอนนี้มะขามกำลังฝักใหญ่ พ่อกับแม่เลยต้องเข้าสวนทุกวัน เพราะต้องคอยดูแลช่วงนี้ให้ดี หากมะขามเป็นโรคเราก็จะรักษามันได้ทัน ขนาดดูแลกันอย่างใกล้ชิด ก็ยังไม่วายเป็นโรคเชื้อรา เป็นเพลี้ยอยู่ดี เราไม่ได้ใช้สารเคมี แต่ใช้สารจากน้ำหมักชีวภาพแทน บางทีก็เอาไม่อยู่ พวกเชื้อรา หรือเพลี้ยนี่มันเก่ง อาจจะปรับตัวให้ชินต่อสารหมักชีวภาพได้แล้ว ฆ่าเท่าไหร่ก็ไม่ตาย มะขามบางส่วนเลยต้องยอมให้มันเสียหายไป ปีนี้มะขามหวาน “พันธุ์ประกายทอง” ติดฝักด้วย ตั้งแต่ปลูกมาไม่เคยติดฝักให้ได้ลองชิมรสชาติเลย มะขามหวานพันธุ์ประกายทองจะฝักใหญ่กว่าพันธุ์อื่นๆ บางจังหวัดเรียกกันว่าพันธุ์ “ตาแป๊ะ“ ฝักที่เห็นในรูปกลางและขวามือที่ฝักตรงๆ นั่นแหละพันธุ์ประกายทอง ส่วนรูปซ้ายมือที่เห็นฝักโค้งจนหัวฝักกับท้ายฝักชนกัน นั่น “พันธุ์สีทอง” พันธุ์นี้เนื้อเยอะ และมีรสหวานมาก บางคนไม่ชอบเพราะมันหวานเกิน ถ้าจะกินแบบไม่หวานมาก หรือหวานอมเปรี้ยวก็ต้องกิน “พันธุ์ขันตี” หรือ “พันธุ์สีชมพู” แทน สุดแล้วแต่ว่าจะชอบกันแบบไหน ปีนี้มะขามค่อนข้างดก สิ้นปีก็จะสุกเป็น “มะขามหมู” ให้ได้ชิมกัน ใครยังไม่เคยลองกินมะขามหมู ปีนี้เชิญที่บ้านสวนนะคะ จะแจกกรรไกรคนละอัน แล้วปล่อยเข้าสวนให้ได้เลือกกินกันตามอัธยาศัย อิอิ
พ่อปลูกต้นยูคาลิปตัส ไว้เมื่อสามสี่ปีก่อน ปลูกตามหัวไร่ปลายนา และตามหัวคันนา ส่วนที่ปลูกเป็นสวนก็มีประมาณสัก 6 ไร่ ให้เค้าตัดไปแล้ว ตอนนี้ต้นตอมันแตกโตมากแล้ว แต่พ่อยังไม่มีเวลาไปตัดแต่งเลือกเอาต้นที่ใหญ่ๆไว้เลย เพราะกำลังยุ่งอยู่กับมะขามหวาน และนาข้าว นาข้าวที่เห็นเป็นข้าวหอมมะลิ เดินไปถึงแปลงนี้จะได้กลิ่นหอมของข้าวหอมมะลิมาก หอมสดชื่น เพราะลมก็พัดเย็นๆ แต่ที่น่าเศร้าก็คือตอนนี้เพลี้ยกำลังจะรุมข้าวของพ่อแล้ว เพราะนาที่อยู่บริเวณโดยรอบฉีดพ่นสารเคมี ทำให้เพลี้ยมันหนีมารุมข้าวของพ่ออยู่เจ้าเดียว พรุ่งนี้พ่อจะจัดการเพลี้ยพวกนี้ด้วยน้ำหมักชีวภาพ อีกอย่างคือ ทั้งที่เป็นหน้าฝน แต่บ้านเราฝนก็ยังแล้งอยู่ดี นาข้าวน้ำไม่พอ ก็ได้แต่รอๆ เมื่อไหร่เทวดาจะเห็นใจส่งน้ำมาให้ ต้องพึ่งเทวดาอย่างเดียวเพราะระบบชลประทานไม่ต้องพูดถึง ทำนามาเกือบจะตลอดชีวิตของพ่อ ก็ได้แต่หวังจนเดี๋ยวนี้เลิกหวังไปแล้ว รัฐไม่ทำระบบชลประทานให้ พ่อก็ทำเองซะ…ก็หมดเรื่อง…
พื้นที่ส่วนหนึ่งพ่อตัดสินใจขุดสระเก็บน้ำขนาดใหญ่ เก็บน้ำไว้เผื่อเทวดาไม่ยอมส่งฝนมาให้ ข้าวของเราก็จะได้ไม่ตาย เราก็สูบน้ำใส่นาของเราได้ โดยไม่ต้องรอ รอ และรอ ทางด้านบนของแปลงนา มีฝายน้ำอยู่ แต่น้ำก็จะไหลไปจนหมด หากไม่ทำฝายเล็กๆ กั้นไว้ น้ำก็จะไม่เหลือเลย วันนี้ไปดู “ฝายแม้ว” กับแม่ ทำไว้หลายปีแล้ว ใช้เก็บน้ำไว้ให้นาข้าวของเรา ฝายแม้วนี้มีประโยชน์มาก ต่อให้แล้งอย่างไรก็ยังมีน้ำอยู่ ถึงไม่มากก็ยังดีกว่าไม่มีเลย ตรงฝายแม้วนี้มีปลาเยอะ วันนี้แอบสังเกตเห็นฝูงปลาตัวเล็กๆ สีแดงๆ ว่ายเป็นฝูงใหญ่ มีตั้งหลายฝูง แม่บอกว่าเป็น “ลูกครอก” หรือ “ลูกปลาช่อน” นั่นเอง นอกจากนั้นยังมีผักบุ้งนา ยอดสวยๆ และตรงฝายแม่ปลูกกอไผ่ไว้ มีหน่อให้ได้กินกันแบบไม่ต้องซื้อหา มีเยอะก็เอามาต้มใส่ถุงพลาสติกแล้วนึ่งดูดอากาศออก เก็บไว้กินข้ามปีได้..
วิถีชีวิตของชาวนา ที่ยังเป็นวิถีชีวิตแบบเดิมๆ ทำนาปีละครั้งเพื่อให้ได้ข้าวเก็บไว้กินได้ตลอดทั้งปี ถ้าได้มากก็ขาย เราไม่ได้ทำนาปีละสามสี่ครั้งเหมือนบางพื้นที่ เพราะเราต้องรอฟ้ารอฝน พึ่งเทวดา…ต้องอาศัยการปรับตัว เรียนรู้ กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ก็ลองผิดลองถูก ปรับเปลี่ยนกันมาไม่รู้ตั้งกี่ร้อยรอบ หากจะรอแต่รัฐสร้างชลประทาน สร้างถนนให้โดยที่ชาวนาไม่ช่วยเหลือตัวเองเลย ก็คงจะอดตาย หรือเลิกอาชีพทำนา ไปใช้แรงงานอยู่ในเมืองกรุงแล้วก็เป็นได้ บางทีที่นาก็อาจจะไม่เหลือ ตกไปเป็นของใครแล้วก็ไม่รู้
ชีวิตชาวนา ชาวสวน ก็เป็นไปด้วยประการฉะนี้
อิอิ….
18 ความคิดเห็น
อยากกินมะขามหวาน อยากกินข้าวหอมมะลิ อยากไปบ้านสวน….
ความจริงมีคนอยากซ่อมหลุมอยู่นะ เค้ามีจอบติดหลังรถด้วยหละ อิอิ
เชิญมาได้ตลอดเวลาเลยคุณหมอ หรือจะมาซ่อมหลุมก็ได้นะคะไม่ว่ากัน
เอ…ใครมีจอบติดหลุงรถอ่ะ…อยากรู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อิอิ ปีนี้จะได้กินมะขามหวานไหมน๊าาาาาาาา เพราะ ปีที่แล้วกินแห้วววว เอิ๊กๆๆ
(อยากไปเที่ยวจังเลย สวยมาก)
ตอนนี้อะไรๆ ก็เขียว สวยไปหมด ถ้ามาหน้าแล้งมันก็เป็นแต่ฝุ่นอ่ะดิ
มานะ รออยู่…
โอแม่เจ้า ช่างเป็นบรรยากาศ ท้องทุ่งที่แสนจะงดงามตามธรรมชาติ กลิ่นหอมของข้าว ลมพัดเอื่อยๆ นอนดูฝูงปลาในฝายแม้ว ดอกหญ้าริมคันนาจะมีความสุขไม่น้อยเลยนี่ ช่างโชคดีอะไรอย่างนี้ เป็นจุดเล็กๆ จุดเดียวของโลกใบนี้ ที่เป็นอาณาจัดแห่งความรักที่แสนงาม ท่ามกลางความวุ่นวายของโลกภายนอกจ้าน้องมิม นี่แหละผินดินของเรา เราสร้างสวรรค์ของเราเองจ้า
ดูรูปแล้ว น่าไปมากค่ะ
มีคนชอบกลบหลุมประมาณ 2 คน ถึงขั้นพกจอบประจำรถ….สงสัยตอนนี้ตาลุกวาว…อิอิ
ถมเท่าไร ไม่รู้จักเต็ม( ฮือม ฮือม.)…โอ้..ความรัก..
มาร้องเพลงเฉยๆ ( สงสัยเพลงนี้น้องมิมยังไม่เกิด) อิอิ
กลบหลุมๆๆ ค่ะ..อิอิ อิอิ
น้องมิมขา.. ให้ป้าหวานไปด้วยคนสินะ..นะ นะ
จะฝึกยกจอบ..สู้ๆ
เตรียมตัวไปตัดมะขามแล้วครับ มีที่ให้กางเต็นท์นอนมั้ยครับ อิอิ
อาม่าขา….ครั้งก่อนป้าจุ๋ม ท่านคอน และพ่อครูบามาแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปเยี่ยมสวนเลยค่ะ อยากให้มากันอีกตอนมะขามสุกค่ะ ประมาณปลายปีค่ะ อาม่าสนใจไหมค่ะ
ถ้ามีอาสา พ่อคงตาลุกวาว เหมือนกันค่ะ อิอิ
ตาหยู…มาก่อนเน๊าะ เรื่องที่นอนจะนอนอย่างไรค่อยมาว่ากัน มีที่ให้นอนทั้งบนบ้าน หรือนอนรับลมที่ใต้ถุนบ้าน หรือจะกางเต้นท์ก็ได้ตามสะดวกค่ะ…อยากให้มา
สนใจ อยากนอนเต้นท์ ตาลุก อิอิ น้องมิม ให้คุณพ่อทำโฮมสเตย์ เก็บตังค์เลยจ้ะ
ตายแล้ว!!! ป้าหวานขา…..มิมไม่ได้ตั้งใจข้ามของป้าหวานไปนะคะ พอดีดูแต่ในบันทึกนะคะ ไม่ได้ไปดูหลังโรงเลย ว่ามีความคิดเห็นที่รอการอนุมัติอยู่ ฮือๆ ข้าน้อยสมควรตายจริงๆ ตอนเย็นมาเปิดเมล แล้วตกใจกับเมลของป้าหวานแล้วรู้สึกงงมากๆ ป้าหวานคงคิดว่ามิมไม่ยอมตอบคอมเม้นท์เพราะไม่พอใจข้อคิดเห็นของป้าหวานหรือค่ะ ไม่ใช่เลยนะคะ เพียงแต่ยังไม่เห็นเท่านั้นเอง แงๆ ป้าหวานคงเข้ามาดูหลายต่อหลายรอบแล้วไม่เห็นคอมเม้นท์ของตัวเอง ก็เลยคิดว่ามิมลบไปแล้วแน่ ขอโทษป้าหวานจริงๆ ค่ะ อย่าน้อยใจเลยนะคะ คนสวยต้องไม่น้อยใจ และไม่งอนนะคะ อิอิ
มิมรักป้าหวานค่ะ ถ้ารักมิม ต้องยกจอบให้ได้สูงๆ นะคะ อิอิ
อยากให้ป้าหวานมาค่ะ…รอนะคะ
ใครมาจะให้อยู่ฟรี กินฟรี แต่บ้านมิมกินเจนะคะ ไม่กินเนื้อสัตว์
ถ้ากินได้ก็ไม่น่ามีปัญหาคะ มาโลด อิอิ
ถมหลุม แลกมะขาม เข้าท่าเหมือนกันนะ
พ่อครูขา…มาดูว่าหลุมที่สวนป่า หรือ บ้านสวน ที่ไหนใหญ่กว่ากัน
มะขามไม่มีไว้แลก แต่มีไว้แจกฟรี(สำหรับชาวเฮ.)
อิอิ
มือจอบตราจรเข้สายเหนือ มาแว้ว..ววววววว
อิอิ ครูอาราม…ขอขำนิดนึ่งค่ะ
งั้นรวบรวมมือจอบสายเหนือด่วนเล้ยยยยยยยยยยยย
อิอิ