ความรักของแม่ที่อยากให้คนไทยได้อ่าน…จากหนังสือพี่น้องสองกษัตริย์

โดย mimography เมื่อ 13 กุมภาพันธ 2009 เวลา 9:38 (เย็น) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 5587

วันแห่งความรักจะมาถึงอีกแล้วในวันพรุ่งนี้ 

มิมอยากให้ทุกท่านได้อ่าน…อยากให้คนไทยได้เห็นถึงความรักอันยิ่งใหญ่ที่แม่มีต่อลูก

จึงได้เรียบเรียงและคัดลอกบางตอนของหนังสือ พี่ น้ อ ง ส อ ง ก ษั ต ริ ย์ เล่มนี้มาให้ได้อ่านกัน

เพราะวันแห่งความรักไม่ได้หมายถึงความรักของหนุ่มสาวเท่านั้น

มิมอยากให้ลูกทุกคนนึกถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของแม่

แล้ววันพรุ่งนี้เราจะไปกราบแม่ กอดแม่ และบอกรักท่านเนื่องในวันแห่งความรักด้วยกันนะคะ

( ขอยกความดีทั้งหมดซึ่งจะเกิดจากอานุภาพแห่งความรักของแม่และลูก..ที่บังเกิดขึ้นจากการอ่านบทความนี้ให้แก่ผู้เขียนหนังสือ พี่ น้ อ ง ส อ ง ก ษั ต ริ ย์ ค่ ะ )

 

***************************************************

 

 

” ฉันอบรมบุตรให้เป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์  มีทั้งการศึกษาและสุขภาพดี

มีจิตใจดีด้วย นี่คือหลักในการเลี้ยงดูบุตรของฉัน ตอนเขายังเป็นเด็กๆ ฉันก็มีหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่ของลูก

ต้องคอยดูสุขภาพ ดูสมุดพกให้ ตรวจดูการบ้านให้เขา ให้เขาท่องหนังสือ เพื่อให้สอบได้ดีตั้งแต่เขายังอายุน้อยทีเดียว”

 

……………………………………………………………………………….

 

บางตอนในหนังสือ พี่ น้ อ ง ส อ ง ก ษั ต ริ ย์ ที่แสดงถึงความรักของแม่ที่มีต่อลูก

 

 

สมเด็จย่า ของปวงชาวไทย แม้พระองค์จะทรงสวรรคตไปนานแล้ว แต่ความรักของพระองค์ยังคงตรึงอยู่ในหัวใจของชาวไทยทั่วทุกแผ่นดิน เป็นที่ทราบกันว่า พระองค์ทรงเลี้ยงพระราชโอรสพระราชธิดาด้วยพระองค์เอง เนื่องจากพระราชชนกสวรรคตตั้งแต่สมเด็จย่ามีพระชนมายุได้เพียง ๒๙ พรรษา นับว่ายังน้อยมาก หากต้องรับภาระในการเลี้ยงดูลูกด้วยพระองค์เอง ทรงเป็นทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกัน ทรงเลี้ยงดุพระราชโอรสและพระราชธิดา จนพระราชโอรสได้เป็นกษัตริย์ที่ดีถึงสองพระองค์

 

ส ม เ ด็ จ ย่ า  ทรงเลี้ยงพระโอรสพระธิดาด้วยพระองค์เองมาโดยตลอด ทรงอบรมสั่งสอนให้ลูกๆ เป็นคนดี มีธรรมะ ขยัน อดทน ประหยัด และทรงให้การศึกษาเป็นอย่างดี สมเด็จย่าสอนให้ลูกๆ รักชาวไทยและแผ่นดินไทย จนพระราชโอรสได้เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองพระองค์ ถือว่าสมเด็จย่าเป็นแม่ที่ยิ่งใหญ่จริงๆ

 

ค ว า ม รั ก ข อ ง ส ม เ ด็ จ ย่ า  ที่มีต่อพระราชโอรสพระราชธิดาได้ถูกถ่ายทอดเป็นอักษร ดังความตอนหนึ่งที่พระองค์ทรงนิพนธ์ถึงสมเด็ดพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เป็นที่ประจักษ์ชัดถึงความรักอันยิ่งใหญ่ที่แม่มีต่อลูก อ่านแล้วสร้างความประทับใจมิรู้ลืม  ความตอนหนึ่งว่า…

 

” ลูก ข อ ง ห ม่ อ ม ฉั น ฉันรักอย่างดวงใจ และหม่อมฉันตั้งใจอยู่เสมอที่จะนำลูกไปในทางที่ถูกที่ดีสำหรับจะเป็นประโยชน์แก่ตนเอง ญาติ และบ้านเมือง ตัวหม่อมฉันเองทำประโยชน์อะไรให้ชาติบ้านเมืองได้ไม่มาก แต่ถ้าได้ช่วยลูกๆ ให้ได้รับการอบรมและเล่าเรียนในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่บ้านเมืองแล้วหม่อมฉันก็รู้สึกอิ่มใจเหมือนกัน ”

 

ทรงนิพนธ์ถึงสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าอีกคราถึงการได้รับยศศักดิ์และการอบรมพระโอรสพระธิดา

” ทั้งลูกและแม่ ไม่มีความต้องการยศและลาภ แต่ทรงรับเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เพราะเห็นว่าเป็นหน้าที่ต่อบ้านเมือง เพราะฉะนั้น จะทำอะไรต่อไปก็ขอให้พูดกันดีๆ อย่าบังคับและตัดอิสรภาพ”

” หม่อมฉันไม่เคยอยากได้ยศศักดิ์แต่ไหนแต่ไรแล้ว ที่หม่อมฉันต้องการก็คือ มีโอกาสอบรมลูกให้เป็นคนดี จะได้ทำประโยชน์ให้แก่บ้านเมืองได้”

 

 

ในช่วงเวลาที่ ร.๘ ขึ้นครองราชย์รัฐบาลได้กราบทูลให้สมเด็จย่า ร.๘ และพระราชวงค์ทรงย้ายจากบ้านพักเล็กๆ ไปประทับอยู่ที่คฤหาสน์ใหญ่ๆ ให้สมพระเกียรติของกษัตริย์ไทย เรื่องนี้สมเด็จย่าได้มีจดหมายถึงพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี สมเด็จย่าของในหลวง ถึง ๒ ฉบับ

 

จดหมายของสมเด็จย่าดังกล่าวได้แสดง ให้เห็นถึงพระหทัยอันงดงามของสมเด็จย่า ที่ทรงยึดถือพระองค์และราชบุตรราชธิดาเช่นสามัญชนทั่วไป ไม่ถือพระองค์ว่าทรงเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ทรงมีความเป็นอยู่อย่างสมถะ ไม่หลงใหลในลาภยศใดๆ ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะเลี้ยงดูพระราชโอรสพระราชธิดาทั้งสามพระองค์ให้เป็นคนดี มีความสามารถ นับได้ว่าเป็นจดหมายประวัติศาสตร์ที่ดีมาก

 

และแล้ว…. เมื่อเหตุการณ์วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๔๘๙ เหตุการณ์ลอบปลงพระชน พระทัยแทบแตกสลาย!!!!!

 

แน่นอน…ด้วยความรักและความผูกพันของแม่ทั้งหลายในโลกจะพึงมีต่อลูกอันเป็นสุดที่รักของแม่ เมื่อลูกมีสุขแม่ก็สุขด้วย เมื่อลูกมีทุกข์แม่ก็ทุกข์ด้วย และเมื่อลูกตาย…ชีวิต…วิญญานของแม่ก็แทบสบายตามลูกไป…

 

การสวรรคตของในหลวง ร.๘ อันเป็นสุดที่รักสุดห่วงแหนของสมเด็จย่า  พระราชชนนีซึ่งพระองค์ได้ทรงอุตส่าห์เลี้ยงดูมาด้วยความรักความเป็นห่วงใยมานานถึง ๒๑ ปี ย่อมจะทำให้พระทัยของพระราชชนนีแทบแตกสลายตามในหลวง ร.๘ ไปด้วย

 

ดังจะเห็นได้จากกระแสพระราชดำรัสของพระองค์ ต่อคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการสวรรคตของในหลวง ร.๘ แล้ว สมเด็จย่าทรงมีกระแสพระราชดำรัสต่อคณะกรรมการดังกล่าวว่า…

” ฉันร้องกรี๊ดแล้วก็วิ่งไป”

 

และสมเด็จย่าได้ทรงมีกระแสพระราชดำรัสตอบอัยการโจทย์ในคดี ร.๘ ตอนหนึ่ง  ดังนี้

” …พอฉันเห็นพระโลหิตก็ร้องกรี๊ดกร๊าด…และโผทับพระองค์ท่าน  ฉันเห็นในหลวงเต็มไปด้วยพระโลหิต แล้วก็ไม่สามารถสังเกตเห็นอะไรได้..ปืนหรือฉลองพระเนตรอยู่ตรงไหน อย่างไร ไม่เห็นทั้งสิ้น…ในหลวงองค์ปัจจุบัน ทรงประคองฉันให้พ้นจากพระอุระในหลวง ร.๘ ประคองฉันออกจากพระวิสูตรไปอยู่ทางปลายพระแท่น…”

 

ในหลวง ร.๙ ได้ทรงมีกระแสพระราชดำรัส ประเด็นเกี่ยวกับพระราชชนนีขณะเกิดเหตุการณ์บางตอน ดังนี้…

” ได้ยินสมเด็จพระราชชนนีวิ่งไปแล้วทรงพระกรรแสง…”

“…ทรงร้องไห้อยู่ตลอดเวลา…แล้วก็บอกว่า…นันท์ลูกของแม่ …นันท์จ๋า…จะไปหาป๋าแล้ว…”

 

ส่วนพระพี่เลี้ยง เนื่อง จิตตดุลย์ ได้เบิกความตอนหนึ่งถึงสมเด็จย่าว่า…

“…สมเด็จพระราชชนนีทรงพระกันแสง ร้อง อุ๊ย!! นันท์จ๋า…ซบพระพักตร์ทรุดพระองค์ริมพระแท่นปลายพระบาท ร.๘… พระชนนีทรงพระกันแสงสะอื้นกับพระเก้าอี้…”

 

 

ฟังแล้วเสมือนหนึ่งว่า พระทัยของสมเด็จย่าในขณะนั้นแทบจะแตกสลายตามในหลวง ร.๘ ไปในบัดดล !!!

 

…………………………………………………………………………………………..

 

ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ…พี่น้องสองกษัตริย์ พระผู้ครองในปวงชนชาวไทยทั้งชาติ

สำนักพิมพ์…Animate Group

โดย  บุญร่วม  เทียมจันทร์ (อัยการอาวุโส อดีตอธิบดีอัยการฯ)

 

« « Prev : ชมภาพหัวใจสวยๆกันค่ะ

Next : ขอตั้งหลักใหม่…อิอิ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 สายลมครับ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กุมภาพันธ 2009 เวลา 12:01 (เช้า)
    • อิอิ
    • ขอนำข้อมูลบางส่วนไปเล่าให้นักศึกษาฟังนะครับ อิอิ
    • ขอบคุณคร้าบบบบบบ
  • #2 mimography ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 มีนาคม 2009 เวลา 9:11 (เย็น)
    อิอิ 
    ไม่ได้มาดูเลยค่ะ
    ป่านนี้เอาไปสอนเด็กนักเรียนแล้วใช่ไหมค่ะ

    ขอบคุณมากเหมือนกันค่ะ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.038728952407837 sec
Sidebar: 0.08840799331665 sec