สู้ต่อ..
อ่าน: 1344วันนี้มีนศ.ปี ๕ มาหาเรื่องโปรเจ๊ค ตัวเองเป็นที่ปรึกษาตั้งแต่ปีที่แ้ล้ว
ทั้งสองคนมาขอไม่สอบ Project II ซึ่งควรจะเกิดขึ้นตอนปลายเทอมที่แล้ว เพราะติดปัญหาทำงานไม่เสร็จทันกำหนดสอบ..
ดิฉันก็สวด..และเทศน์ไปพักใหญ่ ถามไปซักมา ถึงได้ทราบว่าทั้งสองคนต้องหาเลี้ยงตัวเองในการเรียนป.ตรี ก็เลยเรียนกระท่อนกระแท่น..
วันนี้มาหา..เอางาน Project มาทำต่อ..ก็เลยถามสารทุกข์สุขดิบ..หลังจากหารือกันเรื่อง Project แล้ว..
คนหนึ่งได้งานประจำแบบพาร์ทไทม์แล้ว จัดบูธ จัดแสดงให้ห้างดังแห่งหนึ่ง ทำงานทุกครึ่งบ่าย จันทร์ ถึงเสาร์
อีกคนไม่มีงานประจำแต่เปิดท้ายขายของตามตลาดนัด และขายของทางอินเตอร์เน็ต..
ก็เลยบอกไปว่า ห้ามเล่นการพนัน ไม่ให้กินเหล้า และอย่าเพิ่งไปติดสาวเป็นอันขาด..
แล้วก็สั่งไปว่า มีอะไรให้มาหาและมาปรึกษา
บอกเด็กว่า..ทำดีแล้ว..เรียนช้านิดหน่อย แต่เรียนได้ด้วยความภาคภูิมิใจ ส่งตัวเองเรียน.. และต้องสู้ต่อ..
Next : ทบทวน.. » »
2 ความคิดเห็น
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว (กว่าสองรอบนักษัตร) ผมสัมภาษณ์ผู้สมัครเข้าทำงานในตำแหน่งทางเทคนิค 65 คน รับไว้สองคนครับ คนหนึ่งจบ สจพ. แต่ทั้งสองคนทำโปรเจค และอธิบายเกี่ยวกับโปรเจคได้ด้วยความภูมิใจ ทะลุปรุโปร่ง
ความรู้สึกในเวลานั้นคือความรู้ที่ร่ำเรียนมาจากมหาวิทยาลัย ใช้ได้น้อยมากในการทำงาน ในตอนนั้นจึงต้องการข้อพิสูจน์ว่าคนที่จะรับ สามารถเรียนรู้ได้ อดทน พากเพียรจนงานสำเร็จไปได้ มีความรักในสิ่งที่ทำ สนุกกับสิ่งที่ทำ โปรเจคเป็นเครื่องมือพิสูจน์อย่างหนึ่งครับ
คิดอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ
การทำ project เป็นประสบการณ์สำคัญของ นศ. แต่ที่พยายามบอกเด็กคือ ช้าเร็วไม่เป็นไร ขอให้ตั้งใจทำ เพราะต้นทุนของเขาต่างจากคนอื่น ต้องส่งตัวเองเรียน
แต่มั่นใจว่าเด็กสองคนนี้น่าจะเป็นคนคุณภาพของสังคมได้หลังจากจบไปแ้ล้วค่ะ