ตัวหารของการเวลา( 1 )..หากความหมายของแต่ละวัน
อ่าน: 3346หากว่าทุกวันนี้ผมกำลังค้นหาความหมายที่แท้จริงของการมีอยู่ชีวิตอยู่
ทุกสิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้ มันคงไม่ได้หมายถึงอย่างนั้นจริง ๆ ก็ว่าได้
ตื่นเช้าวันนี้ ผมเริ่มต้นชีวิตด้วยวิธีการเดิม ๆ ด้วยกิจวัตรเดิม ๆ
หากแต่ช่วงเวลาที่ผ่านมาชีวิตผมได้เปลี่ยนแปลงไปบ้างเล็กน้อย หลังจากผมมีบ้านเป็นของตัวเอง
กิจวัตรต่าง ๆ รู้สึกว่าจะมีเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ และบางทีตัวผมเองก็ละเว้นที่จะทำสิ่งนั้น ๆ อย่างตั้งใจ
รดน้ำให้กับสนามหญ้าหน้าบ้าน เป็นกิจกรรมที่ผมพยายามที่จะทำให้ดีที่สุดในตอนเช้าตรู่ที่อากาศดูเหมือนจะสดใส แต่ก็นั่นแหละครับ เป็นอีกอย่างหนึ่งที่บางทีผมก็แกล้งลืมๆ มันบ้างในบางครั้งของวันที่ผมคิดจะตื่นสายและหวังไว้แก้ตัวใหม่ในตอนเย็น ๆ ที่จะมายืนบนสนามหญ้าด้วยเท้าเปล่าๆ และทำเป็นดูเหมือนเอาใจใส่เป็นอย่างดีทั้ง ๆ ที่มีเพียงสนามหญ้าเพียว ๆ เท่านั้น ไม่มีต้นไม้อื่นแม้แต่ต้นเดียว
……….
…….
…..
….
..
.
วันนี้ เวลาประมาณ 17.50 น.
ผลปลีกตัวออกจากที่ทำงานทั้ง ๆ ที่ปกติหากพระอาทิตย์ไม่ติกดินคล้อยไปถึงช่วงดึก ๆ ผมคงยังไม่ออกจากที่ทำงานเป็นแน่แท้ .. แต่วันนี้หากมีความรู้สึกที่ต่างออกไป
ผมหิ้วน้ำหมักกระป๋องเขียวติดดาวแดง มานั่งที่ม้านั่งริมฟุตบาทพร้อมกับพี่พี่ที่ร่วมชะตากรรมเดียวกันในงานที่รับผิดชอบซึ่งล้วนมากมาย แต่ ณ เวลานี้ พวกเราทุกคนต่างก็ได้ทิ้งความรับผิดชอบอันมากมายนั้นไว้บนโต๊ะทำงานแต่เพียงแค่เวลาอันน้อยนิดนี้เท่านั้น
การสนทนาเริ่มขึ้น หลายหลากความคิด มากล้นความรู้สึก นานาทรรศนะ ร้อยพันความคิดเห็น และเสียงหัวเราะที่ทุกคนได้ดื่มด่ำพอหอมปากหอมคอ ต่างก็โบกมือลา เพื่อแยกย้ายกันกลับบ้าน
นั่นสิ .. บ้าน ผมก็ต้องกลับบ้านของผมเหมือนกัน
ระหว่างขับรถกลับบ้าน ผมจินตนาการว่าผมได้ยืนเท้าเปล่า ๆ รดน้ำสนามหญ้าหน้าบ้านอย่างสบายใจ
ผมยังจินตนาการต่อไปอีกว่า หลังจากที่ผมทำให้เจ้าต้นหญ้าของผมอิ่มหนำสำราญจนมันพอใจแล้ว ก็ถึงทีที่ผมจะทำให้ท้องของผมอิ่มบ้างเช่นกัน .. ผมนึกถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ต้มใส่ไว้ในถ้วยใบเก่งของผมพร้อมด้วยไข่ไก่สองฟอง ไอกรุ่นหอมของเจ้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปล่องลอยมาถูกับจมูกของผมจนทำให้ผมน้ำลายสอ
เพียงแค่คิดแค่นี้ .. ผมยิ่งอยากให้ถึงบ้านให้เร็วขึ้น
ผมขับรถมาจอดที่หน้าประตูบ้าน เปิดประตูรั้ว ขับรถเข้าไปจอดที่โรงรถ แบกกระเป๋าเอกสาร หอบกระเป๋าคอมพิวเตอร์ เกี่ยวเอาโน่นเอานี่ลงจากรถเพื่อเอาไปเก็บไว้บนบ้านเพื่อหวังที่จะใช้งานเจ้าพวกนี้ต่อในคืนนี้
หลังจากที่เก็บของเหล่านั้นเสร็จ ผมออกมายืนเท้าเปล่า ๆ อยู่บนสนามหญ้าหน้าบ้าน
ผมกำลังต่อสู้กับความเหนื่อยล้าของร่างกาย ในหัวของผมเริ่มคิดอะไรไม่ออก
ผมมองเข้าไปยังบ้านของผม บ้านหลังแรกของผม
ความภูมิใจผุดขึ้นมาเบ่งบานในใจของผม ผมยิ้มที่มุมปากเพียงเล็กน้อย แต่ร่างกายทำไมถึงสวนทางกัน
ผมเหนื่อย ล้า อ่อนเพลียซะเหลือเกิน
ผมหันหลังให้สนามหญ้าของผม สาวเท้าเดินเข้าบ้านอย่างกับล่องลอยไร้ทิศทาง
ผมทิ้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถ้วยใหญ่พร้อมกับไข่สองฟองไว้ในจินตนาการ
ผมบอกสนามหญ้าของผมว่า “เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าจะชดเชยให้นะครับ”
ผมคิดอะไรไม่ออก
หรือบ้านจะเป็นเพียงแค่ที่ที่ให้ผมซุกตัวลงนอนในยามเหนื่อยล้าของแต่ละวันเท่านั้น
………………………………………………
บันทึกนี้โพสต์เมื่อ วันที่ วันอังคาร, 12 มกราคม 2010 เวลา 12:40 (เย็น) และจัดไว้ในหมวดหมู่ Uncategorized. ติดตามอ่านการแสดงความเห็นได้ที่ฟีดนี้ RSS 2.0. คุณสามารถจะ ฝากความคิดเห็นไว้, หรือ แทร็กย้อนหลัง จากเว็บไซต์ของคุณได้.
#2:: นักการหนิง 13 มกราคม 2010 เวลา 9:55 (เย็น)
ทำไมเป็นเหมือนเราเนี่ย…
วิถีชีวิตสมัยใหม่ .. ทำให้เราเป็นมนุษย์กล่อง มนุษย์แคปซูลเข้าไปทุกวัน เนอะ
“หากความหมายของแต่ละวัน” บอกเล่าเรื่องราวที่หายๆ
รออ่านตอนต่อๆ ไปค่ะ