อันมือไกวเปลไซร้แต่ไรมา พระคุณมือมารดาผู้สร้างโลก : ณ รพ.ศรีนครินทร์
อ่าน: 2958สวัสดีครับ
ก่อนที่บันทึกนี้ของผมจะเริ่มขึ้น ผมขออนุญาตกล่าวขอบคุณอย่างสุดซึ้งกับน้ำใจของ พี่ลดาวัลย์ ศรีสุวรรณ หรือพี่ดา กัลยาณมิตรแห่ง Gotoknow.org ที่ได้ช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกและดูแลคุณแม่ของผมที่ตอนนี้ป่วยและพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ครับ และกราบขอบพระ
คุณอาจารย์หมอ คุณหมอ คุณพี่พยาบาล และ น้อง ๆ นักศึกษาแพทย์ทุก ๆ คนที่ต่างก็เฝ้าดูแลเอาใจใส่อาการป่วยของคุณแม่ของผมเป็นอย่างดี กราบขอบพระคุณและซึ้งใจจริง ๆ ครับ
พี่ดาใจดีครับ
อันมือไกวเปลไซร้แต่ไรมา พระคุณมือมารดาผู้สร้างโลก :
การค้นพบที่ยิ่งใหญ่จากการเจ็บไข้ของแม่
——————-
จากเมื่อก่อนผมเคยเข้าใจว่า “ลูก คือสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดของพ่อแม่”
แต่ในวันนี้ ตลอดระยะเวลาแรมเดือนที่ผมเฝ้าดูแลและปรนนิบัติแม่ที่กำลังป่วยด้วยความเป็นห่วงและกังวลที่สุด วันนี้ทำให้ผมรับรู้และสำนึกขึ้นได้ทันที่ว่า “พ่อและแม่ ก็คือสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดของลูกเช่นกัน”
ยามแก่เฒ่าหวังให้เจ้าเฝ้ารับใช้ ยามป่วยไข้หวังให้เจ้าเฝ้ารักษา ประโยคนี้ผุดขึ้นมาในหัวใจของผมทันทีที่ได้รู้ว่าผู้เป็นแม่ของตัวเองป่วยหนัก และหลายสิ่งหลายอย่างทำให้ผมได้รู้ว่าผมเองจะต้องดูแลและเอาใจใส่ท่านให้มากกว่าเดิม
หลังจากที่คุณแม่ผมเข้ารับการรักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจที่ศูนย์หัวใจสิริกิตต์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น หลังจากนั้นก็ส่งตัวเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ด้วยอีกหลายโรคหลายอาการที่รุมเร้าเข้ามาตอนร่างกายของแม่อ่อนแอ และด้วยกำลังใจของคนในครอบครัวรวมทั้งกำลังใจจากกัลยาณมิตรในพื้นที่ Gotoknow และ ลานปัญญา ก็ได้ช่วยทำให้อาการของแม่ผมเริ่มดีขึ้น ๆ ทีละนิดตามลำดับ
จากความเหนื่อยล้าของร่างกายของผมที่ต้องขับรถไปกลับไม่ต่ำกว่า 300 กิโลเมตรหลังเลิกงานเพื่อมาดูแลปรนนิบัติเพื่อให้แม่ได้มีกำลังใจสู้กับโรคภัยไข้เจ็บรวมทั้งได้ลางานเพื่อมาเฝ้าดูอาการของแม่อย่างใกล้ชิดรวมไปถึงคุณพ่อและน้องสาวของผมอีกสองคนก็เหนื่อยไม่แพ้กัน
วันนี้ ผมขอยกให้แม่ของผมคนนี้เป็น คุณแม่ดีเด่นแห่งชาติ คุณแม่ดีเด่นที่สุดในหัวใจลูก ครับ
คุณแม่ของผมคนนี้ท่านจบแค่ ป.4 แต่ด้วยนิสัยเป็นคนรักการอ่าน ท่านเห็นคุณค่าของการศึกษา ท่านตรากตรำ อดทนทำงานเพื่อส่งเสียให้ลูกได้เรียนหนังสือจนลูก ๆ ทุกคนได้เรียนจบในระดับที่สูงทั้งผมและน้อง มะเหมี่ยวหวาน ต่างก็จบระดับปริญญาโทและน้องสาวคนเล็กก็กำลังจะศึกษาต่อในระดับปริญญาโทเช่นกัน แม่ได้เฝ้าพากเพียรอบรมเพาะบ่มนิสัยให้ลูกของท่านทั้งสามคนเป็นคนดี ไม่เป็นเด็กเกเร สอนให้ลูกเป็นคนมีมิตรไมตรีและมีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมโลก ตั้งแต่เล็กจนถึงปัจจุบันแม่มักจะพาเข้าวัดไปทำบุญอย่างต่อเนื่องจนลูกทั้งสามคนต่างก็ได้รับอานิสงค์จากแม่ด้วยการเป็นคนดี
ตั้งแต่ผมจำความได้ ร่างกายแม่ก็เจ็บออด ๆ แอด ๆ มาโดยตลอด แม่จะมีกระเป๋ายาใบใหญ่ติดตัวอยู่เสมอ แม่มักจะพูดว่า “กินยาไว้ เดี๋ยวลูกจะไม่ได้เรียนหนังสือ” วันนี้ ผมและน้อง ๆ ทั้งสามคนต่างก็รู้มาโดยตลอดว่าแม่ต้องอดทน ต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บของตัวเองมากขนาดไหน รวมทั้งต้องทนอด ทนหิว อดทนพร่ำสอนให้ลูกได้เป็นคนดี อยากให้ลูกของแม่ทุกคนประสบความสำเร็จอย่างที่แม่หวังไว้
นานมาแล้ว ในวันพระราชทานปริญญาบัตร ระดับปริญญาตรี ผมในชุดเครื่องแบบปกติขาวสวมทับด้วยชุดครุยแถบสีฟ้า แม่พูดกับผมด้วยน้ำตาเอ่อล้นในแววตาสะท้อนถึงความปีติและภูมิใจที่สุดของแม่ในวันนั้นว่า “ไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่ได้เห็นลูกใส่ชุดครุยรับพระราชทานปริญญาบัตร เป็นบุญของแม่ที่เห็นลูกได้รับปริญญา” เป็นประโยคสั้น ๆ แต่กินใจผมเป็นอย่างมาก และผมก็รับรู้ได้ว่ากว่าจะมีวันนี้แม่ต้องอดทนลำบากขนาดไหน ผมกับน้อง ๆ จะไม่มีวันลืมว่ากว่าจะมีวันนี้ได้พวกเราต้องผ่านอะไรกันมาบ้างแน่นอนครับ
ในวันนี้บอกได้เลยครับว่า แม่ไม่ผิดหวังและภาคภูมิใจกับลูกๆ แน่นอนครับ ทั้งชีวิตที่แม่มอบให้ การศึกษาที่แม่หวังอยากให้ลูกได้เรียนจบในระดับที่สูง หน้าที่การงานที่มั่นคงของลูก รวมทั้งการเป็นคนดีอย่างที่แม่พร่ำสอนมาโดยตลอด แม่จะภูมิใจที่สุดในโลกเพราะผลิตผลของแม่นั้นคือลูกของแม่เป็นคนดีและสร้างประโยชน์ให้กับสังคมที่ลูกอยู่อย่างที่แม่ได้ตั้งใจไว้แน่นอนครับ
ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย บุญความดีทุกอย่างที่เคยได้สร้างได้ทำมาทั้งชีวิต ขอให้แม่หายจากโรคภัยไข้เจ็บ และมีสุขภาพแข็งแรง ดีวันดีคืน อายุยืนยาวอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของลูก ๆ ตราบนานเท่านาน
บันทึกนี้โพสต์เมื่อ วันที่ วันพุธ, 3 ธันวาคม 2008 เวลา 1:09 (เย็น) และจัดไว้ในหมวดหมู่ Uncategorized. ติดตามอ่านการแสดงความเห็นได้ที่ฟีดนี้ RSS 2.0. คุณสามารถจะ ฝากความคิดเห็นไว้, หรือ แทร็กย้อนหลัง จากเว็บไซต์ของคุณได้.
#2:: สิทธิรักษ์ 3 ธันวาคม 2008 เวลา 2:09 (เย็น)
ขอให้หายเร็วๆครับ เอาใจช่วยครับผม