อย่ายอมให้ความพินาศมีอำนาจเหนือเรา : โสรีช์ โพธิแก้ว

โดย dd_l เมื่อ พฤษภาคม 29, 2010 เวลา 9:37 (เย็น) ในหมวดหมู่ กำลังใจ #
อ่าน: 2715

ภาพไฟไหม้ไฟลุกโชน เปลวเพลิงลูกใหญ่ และควันไฟโหมกระจาย เป็นภาพน่ากลัวและชวนตระหนก

สถานที่สำคัญ ธนาคาร ห้างร้าน แห่งแล้วแห่งเล่าถูกความชั่วร้ายและโหดเหี้ยมลงมือทำลายและเผาอย่างเมามัน โดยมุ่งให้เกิดความพินาศหายนะขึ้นในวงกว้างด้วยความสะใจ

เมื่อคืนอันมืดมิดหม่นหมองผ่านพ้นไป ตึกรามบ้านช่องที่ถูกเผาบางแห่งยังมีไฟลุกโหม ควันไฟยังคลุ้งตลบ แสดงร่องรอยของความอัปลักษณ์อันเกิดจากจิตใจที่ต่ำทราม ชั่วร้าย และมืดมนอย่างที่สุด

แต่เราต้องไม่ยินยอมให้การกระทำที่ไร้เหตุผลและไร้ความเป็นมนุษย์เช่นนั้น บั่นทอนจิตใจของเราให้หวั่นไหว ท้อแท้ หรือท้อถอย เพื่อว่าเราจะได้ดำเนินชีวิตของเราที่ยังมีอยู่และมีค่าเหนือสิ่งใดๆในโลกอย่างสง่างาม ฝ่าเปลวไฟแห่งความเลวร้ายนั้นไปได้อย่างทรนงองอาจ

บรรพบุรุษของเราล้วนเคยผ่านวันเวลาที่เลวร้ายเช่นนี้ บางครั้งถึงกับเสียบ้านเสียเมืองให้แก่ศัตรูร้าย แต่กำลังใจแห่งความกล้าหาญและยิ่งใหญ่ที่นำฝ่าฟันไปด้วยใจที่องอาจไม่เคยมอดดับลง มีแต่จะสว่างโพลงส่องแสงขจัดความมืดมนอนธกาลของชีวิตไปได้อย่างไม่กลัวเกรง

ในช่วงเวลาแห่งความรันทดหดหู่ เราต้องฟื้นหัวใจให้เข้มแข็ง โดยการระลึกถึงจิตวิญญาณที่หาญกล้าของบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งจนสามารถรักษาบ้านเมืองให้ผ่านวันเวลาที่วิกฤตไปได้ด้วยปัญญาอันคมกริบ ด้วยการมองว่าสิ่งใดที่เสียไปแล้วก็ให้มันเสียไป ไม่โหยหาอาดูรจนขาดกำลังใจ เพราะโดยแท้จริงแล้วโอกาสใหม่ที่กว้างใหญ่ได้เชื้อเชิญเราอยู่เบื้องหน้าให้ก่อสร้างความงอกงาม ยิ่งใหญ่ ให้ดียิ่งกว่าเก่ารอคอยเราอยู่ และเราควรจะให้ตัวเองแก่โอกาสนั้น เพื่อจะได้สร้างสิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิมด้วยจิตใจที่ทรหดอดทน

พึงสัมผัสและซึมซับความไม่ยอมพ่ายแพ้ของต้นไม้ใหญ่ที่ถูกฟ้าผ่าจนกิ่งใหญ่หักโค่นในคืนฝนฟ้าคะนอง และเกิดไฟไหม้ตรงยอดจนใบทั้งหมดไหม้เกรียม แต่ในเวลาไม่นานนักกิ่งอ่อนๆ ยอดเขียวๆ สดใสใหม่ก็ชูช่อเบิกบาน รับแสงแดดอุ่นๆ ในยามเช้า

พึงสัมผัสและซึมซับความไม่ยอมพ่ายแพ้ของมดแดงตัวเล็กๆ ที่เมื่อรังของมันถูกกระทบกระเทือนแตกกระจายด้วยน้ำมือของจิตใจที่เกเรอันธพาล แต่อีกไม่นานมันก็ร่วมมือร่วมใจประสานรังให้งดงามน่าอยู่ได้โดยไม่ยอมให้จิตใจชั่วร้ายเหล่านั้นมาบั่นทอนการมีวิถีชีวิตอยู่ร่วมกันของมันได้

พึงสัมผัสและซึมซับความหนักแน่นมั่นคงของภูผาใหญ่ที่ยืนหยัดตระหง่านท้าทายมรสุมรุนแรงที่พัดสาดฟาดซัดอย่างไม่ยอมหวั่นไหว แต่ยืนยงมั่นคง แน่นหนัก เผชิญหน้าท้าทาย ไม่ระย่อ

ทุ่งหญ้ากว้างถูกไฟร้อนด้วยแรงลมเผาผลาญไปในหลายๆ วันก่อนจนท้องทุ่งกลายเป็นเถ้าถ่านย่อยยับ แต่วันนี้ปรากฏดอกหญ้าเล็กๆ สีม่วง สลับสีขาวโผล่ขึ้นมาดำรงอยู่กลางแสงแดดจ้า และล้อลมเล่นอย่างภูมิใจและมั่นใจในอำนาจและอานุภาพยิ่งใหญ่ภายในตัวเอง

เราเป็นชีวิตที่มีคุณสมบัติพิเศษยิ่งกว่าดอกหญ้ามากมายนักมิใช่หรือ?

เรามีหัวใจ หัวคิด  มือและเท้าซึ่งธรรมชาติได้มอบให้เป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์แก่เราให้ได้ใช้สร้างชีวิตและเผชิญปัญหานานาชนิด เราพึงภูมิใจในสมบัติศักดิ์สิทธิ์ และกระตือรือล้นที่จะอาศัยมันมุ่งเดินผ่านความมืดมนอย่างเชิดหน้าสง่างาม

จะเป็นไรไป หากเราจะหกล้มหกลุกอีกสักครั้ง

จะเป็นไรไป หากเราจะสูญจะเสียจะเจ็บจะปวดอีกสักครั้ง

มันเป็นเรื่องยิ่งใหญ่อย่างพิเศษมิใช่หรือ? เมื่อเราจะต้องรวบรวมกำลังใจทั้งหมดเพื่อจุดประกายพลังให้แก่ตนเองเพื่อก้าวเคลื่อนไปข้างหน้าในความมืด และเราจะพบว่าอีกไม่นานท้องฟ้าสว่างแจ่มใสจะคอยต้อนรับเราอยู่เบื้องหน้า

ดอกหญ้าเล็กๆ ซึมซับสัมผัสถึงพลังของแผ่นดินที่โอบอุ้มให้โอกาส ให้อาหาร และเป็นรากฐานของความเติบโต และพลังของแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่งดงามนั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากเถ้าถ่านที่เกิดจากเปลวไฟเผาไหม้ในวันก่อน และเมื่อสายฝนโปรยปรายจากฟากฟ้าพร่างพรมมาเป็นสายน้ำไหลซึมแทรกแผ่นดิน เถ้าถ่านทั้งหลายทั้งปวงก็ถูกย่อยสลายกลับกลายเป็นอานุภาพของอาหารของผืนดิน หล่อเลี้ยงประโลมเร้าให้ชีวิตเติบโตงอกงามดำเนินไปเป็นชีวิตผ่องใสที่ประกอบด้วยผืนดิน หยาดน้ำ และเถ้าถ่าน

เราพึงซึมซับสัมผัสกับพลังยิ่งใหญ่ของผืนดินไทยที่โอบอุ้มเราให้เติบใหญ่ ผ่านวันเวลาที่ยากลำบากมาได้เสมอ ด้วยผืนดินไทยประกอบด้วยเลือดเนื้อและหัวใจที่ไม่ยอมพ่ายแพ้ของต้นไม้ใหญ่ในอดีต และเลือดเนื้อและหัวใจที่ไม่ยอมพ่ายแพ้ของมดแดงตัวเล็กที่กล้าหาญ ประสานกับเลือดเนื้อและหัวใจที่แข็งกล้าท้าพายุของภูผาใหญ่ เลือดเนื้อและหัวใจทั้งหมดนี้ได้จารจารึกบันทึกแทรกซึมไว้ในผืนดินที่เราได้มีชีวิตและอยู่อาศัย

และเราต้องไม่ลืมเด็ดขาดที่จะซึมซับสัมผัสกับสายฝนแห่งความกรุณาจากฟากฟ้าอันเป็นมงคลยิ่งที่ได้พร่างพรมดับไฟร้ายให้กลายเป็นเถ้าถ่าน และสลายมันเข้ากับแผ่นดินให้กลายเป็นอาหารหล่อเลี้ยงเรา

และด้วยความมั่นใจในผืนดินอันศักดิ์สิทธิ์และความเชื่อมั่นในแผ่นฟ้าแห่งสิริมงคลยิ่งนี้เองที่จะช่วยเราให้สามารถเดินผ่านความพินาศได้อย่างสง่างาม โดยที่มันไม่มีฤทธิ์เดชใดๆ ที่จะโค่นล้มเราลงได้เลย

โสรีช์  โพธิแก้ว
พ.ค.53

ในช่วงเวลาแห่งความหม่นหมอง  ได้รับจดหมายที่ส่งต่อมาถึง
จึงขออนุญาตอาจารย์เพื่อเผยแพร่แก่ญาติมิตรในลานเวลาค่ะ

« « Prev : ขอให้มีปาฏิหาริย์..

Next : มื้อนี้..ทำเอ๊งงง.. » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

13 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.44114303588867 sec
Sidebar: 0.09997296333313 sec