จุดดับ..จุดเดือด
อ่าน: 2530วันนี้ ขณะที่ทั่วโลก ตื่นเต้นกับการเกิดสุริยุปราคา
ซึ่งบันทึกได้ว่าเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์อีกเรื่องหนึ่ง
โลกใบเล็กในกะลา ก็ดูราวจะต้องผจญกับพายุที่พัดมาติดต่อกันหลายระลอก
จนอยากจะบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ของโลกใบเล็กที่เริ่มต้นในเช้าวันหนึ่ง
ถูกตามตัวแต่เช้า ให้เข้ามาพบกับพายุอารมณ์ระลอกแรกจากแขกที่มารอพบ
เรื่องราวที่สนทนา ทำให้รู้ว่า ไม่สบอารมณ์กับวิธีการดูแลลูกชายวัยรุ่น
ที่ครูต้องวุ่นคอยตาม ยามหายตัวออกจากห้องเป็นประจำ
ซ้ำยังตอบคำถามเมื่อครูทวงถามให้ทำงานส่ง ด้วยวลี ขี้เกียจครับ..ไม่รู้ครับ..อยู่ทุกเมื่อ
แม้เอื้อเฟื้อด้วยการจัดห้องสอน ดูแลเป็นพิเศษ ก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้
สุดท้ายครูลงความเห็นกันว่า คงต้องสอนให้รู้คุณค่าของการงาน
ไปขอให้ลองอยู่กับบ้านเพื่อช่วยทำงานสักสองวัน เผื่อจะหันมาเห็นประโยชน์ของการเรียน
พูดคุย ตกลงกับผู้ใหญ่ที่ไปพบถึงบ้าน จนเห็นร่วมกันว่าจะลองดู
ยามเช้าในวันนี้ ก็มีรายการเปลี่ยนแปลง
ด้วยมีผู้ดูแลร่วมอีกคนหนึ่งซึ่งไม่ได้พบกันเมื่อวันวาน จูงลูกมาบอกว่าไม่เห็นด้วย
ครูช่วยทำตามวิธีของฉัน ที่แล้วมานั้นครูทำไม่ถูก ลูกของฉันต้องอย่างนั้นอย่างนี้
ระหว่างการสนทนา ที่เต็มไปด้วยคำว่า..เข้าใจนะ…แต่ว่า….มากมาย
สังเกตใจของตนเอง ที่รับรู้ได้ถึงตัวตนอันยิ่งใหญ่ ความมั่นใจในอำนาจเงินตรา
ทัศนะต่อการใช้ชีวิตที่เชื่อมั่นในอำนาจแห่งการควบคุมจัดการลูก
และทุกสิ่งรอบข้างของคู่สนทนา
ได้เห็นการได้ยิน แต่ไม่ได้ฟัง ทั้งที่นั่งคุยกันอยู่เป็นนาน
รับรู้ว่าในบางขณะ ใจกระเพื่อมด้วยตัวตนของตัวเองถูกกระทบ ต้องเตือนตนให้สงบด้วยสติ
พยายามฟังด้วยใจที่เรียนรู้จะยอมรับทัศนะอันแตกต่างอย่างเข้าใจ
เปลี่ยนมาใช้การถามคำแนะนำ ความต้องการ
และกำหนดวิธีดูแลร่วมกัน บนฐานความเชื่อของคู่สนทนา
ซึ่งพบว่า..หาทางออกร่วมกันได้ และยอมรับในสิ่งที่ได้เสนอเพิ่มเติมในภายหลัง
พายุระลอกสอง ตามติดเข้ามาโดยไม่มีเวลาให้หยุดพัก
เป็นเรื่องราวของความรัก ความหลงของสาวน้อยผู้มีใจเป็นหนุ่ม
ทุ่มเทชีวิตและจิตใจให้เพื่อนสาวรุ่นพี่ ที่เรียนจบแล้วจากไปเรียนโรงเรียนอื่น
เป็นเรื่องขมขื่นจนไม่อาจบังคับใจให้มาเรียน เพียรแต่จะไปตามติดสาวเจ้าถึงบ้าน
เป็นงานหนักที่ต้องจัดการกันทั้งครูและครอบครัวเด็ก
เรื่องของเจ้าตัวเล็กลุกลามไปจนผู้ใหญ่ในบ้านบาดหมาง
ทะเลาะเบาะแว้ง ด้วยเรื่องลูกหลานไม่ยอมเรียน
แม่พากเพียรแก้ไข แต่ก็ต้องการกำลังใจและคำปรึกษา
ใช้เวลารับฟัง สร้างกำลังใจ และช่วยให้น้ำตาเหือดแห้งลงบ้าง
หลังล่ำลากัน เตรียมตัวจะไปหาอาหารใส่ท้องที่ร้องเตือนว่าเกินเวลามากแล้ว
ก็ต้องแจวอ้าวกลับมาห้องทำงาน ด้วยต้องรับมือกับพายุระลอกสาม
ที่พัดกระหน่ำรุนแรงเกินกำลังของทีมงานจะรับมือ
เจ้าลูกชายวัยรุ่นต่างห้องสองคน ถือเอาการล้อเลียนกันมาเป็นเรื่องท้าตีต่อย
ฝ่ายที่มือเร็วกว่า ชกหน้าเพื่อนไปทีเดียวได้เรื่อง ตาบวมปูด
ครูใช้วิทยายุทธ์เรียกมาซักถาม ได้ความแล้ว ก็ให้มาปฐมพยาบาลกันต่อหน้า
หวังจะสมานฉันท์ด้วยใช้การดูแลของคู่ความเป็นการลบความบาดหมาง
ประคบแผลกันแค่ครึ่งชั่วโมง คงเหม็นหน้า จึงบอกว่าหายแล้ว เลิกประคบได้จะไปเรียน
หลังจากนั้นเปลี่ยนใจโทรศัพท์ไปบอกพ่อแม่
นับแต่นั้น เรื่องราวก็เริ่มรุนแรง เมื่อพ่อได้พบลูก
รับมือกับเรื่องราวด้วยการรับฟัง และ รับผิด ตั้งแต่เริ่มต้นสนทนาโดยยังไม่คิดชี้แจง
ทั้งแสดงให้เห็นว่ายอมรับในความโกรธที่พึงมีด้วยความรักลูก
อดทนต่อเรื่องราวที่กล่าวซ้ำวนเวียน และเพียรติดตามกระแสแห่งอารมณ์ที่พรั่งพรู
จนครูติดต่อให้แม่ของอีกฝ่ายมาพบได้สำเร็จ
โชคดีที่เป็นฝ่ายแม่มาพบ และซักถามด้วยความนุ่มนวล ไม่ปกป้องเข้าข้าง
สงครามความกร่างระหว่างสองฝ่ายจึงไม่เกิดขึ้น
ได้เห็นกระแสความรุนแรงที่ผ่อนคลายลง เมื่อมีคำกล่าวขอโทษจากแม่
แม้ยังมีท่าทีที่ต้องไว้ลายจากอีกฝ่ายหนึ่ง
ที่ผ่านมามักจะรู้ซึ้งถึงความยุ่งยากหากแต่ละฝ่ายใช้ตัวตนเป็นที่ตั้ง
และหากให้ความกร่างในศักดิ์ศรีเข้ามามีบทบาท
เรื่องราวที่พูดคุย มักจะวนเวียนอยู่กับความรู้สึกต่อเหตุการณ์ที่ผ่านไป
และอยากให้ชี้ถึงความผิดของผู้เกี่ยวข้อง
บางทีก็มองไปล่วงหน้าด้วยความกังวล คาดหวังในทางร้าย
กว่าจะให้เรื่องราวสงบลงได้ ต้องจัดการให้พายุอารมณ์บรรเทาเบาลงก่อนเสมอ
ท่ามกลางพายุอารมณ์ที่โหมกระหน่ำ
ไม่มีประโยชน์ที่จะบอกเล่าชี้แจง แสดงเหตุผล
และหากมีเรื่องราวที่กระทบตัวตนของผู้เกี่ยวข้อง ยิ่งต้องเป็นเรื่องละเอียดอ่อนไหว
การสงบใจ รับฟังอย่างเข้าใจ ก็อาจช่วยให้คลี่คลายลงจนพร้อมจะพูดคุยด้วยเหตุผล
เมื่อเกี่ยวข้องกับเรื่องราวแห่งอารมณ์ครั้งใด ต้องใช้พลังในการจัดใจตัวเองในการรับฟังเสมอ
เป็นพลังที่ต้องจดจ่อ ใช้ความคิด ที่ต้องตามติดอย่างต่อเนื่อง
ทั้งเรื่องภายนอกและในใจตน
วันนี้นึกขอบคุณครูบาอาจารย์ ที่ก่อร่างสร้างฐานใจให้เท่าทันให้ผ่านพ้นพายุอารมณ์มาได้
ไม่เช่นนั้น คงถูกพัดปลิวไปตั้งแต่ระลอกแรก
นี่ยังอุตส่าห์รอดมา แม้ว่าจะได้กินข้าวกลางวันกันเมื่อเกือบสามโมงเย็นก็เถอะ…
แต่ขอร้องล่ะ…อย่าพัดมาติดๆ กันแบบนี้ บ่อยๆ นะ…
« « Prev : เข้าที่….ระว้าง.!!!
Next : ได้เรื่อง..แต่..ไม่”เป็นเรื่อง” » »
5 ความคิดเห็น
เห็นใจครับพี่ ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน — แต่ลมพัดมาแรง ถ้าไม่มีตัวเรา ยังไงก็ไม่โดน/ไม่ปลิวนะครับ
คนไทย “เสีย” ง่ายเกินไป เพราะได้ง่ายเกินไป พ่อแม่รักอยากให้สิ่งที่ดีที่สุด จึงได้มาง่ายๆ แล้วไม่เข้าใจคุณค่า
ไม่เข้าใจคำว่า “earn” ซึ่งต้องทำก่อนจึงได้มา เมื่อไม่ earn แต่อยากได้มา จึงขอ…เบ่ง…เรียกร้อง…แสดงอำนาจ… และทำอะไรที่ไม่น่ารักอีกหลายอย่าง
พายุอารมณ์ พัดมาร้อนๆ แต่คนรับใจเย็นๆ
ลมร้อน ปะทะ ลมเย็น
แต่เจอวันละ 3 เวลาหลังอาหารแบบนี้
ก็หนักหนา สู้กับหนักแน่น
ดูเหมือนยังรับไหว แต่ถ้ามากกว่านี้ละ
จะมีอะไรมาลดแรงลงได้บ้าง
ถ้าพัดปะทะตรงๆ ไม่มีกันชน ใจยุบได้เหมือนกันนะ ครู
อยากจะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเปลี่ยนผู้ปกครองพวกนั้นมาเป็นครูบ้าง
อิจฉาๆๆๆๆๆ มีเรื่องให้ได้ฝึกมากมายเลย อิอิ
เรามีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในตัวเราเอง คือการเอาชนะอารมณ์ที่เกิดขึ้นเนาะคะพี่ครูอึ่ง ^ ^
เมื่อวานนี้คิดถึงฉันด้วยหรือเปล่า ถึงมีกระแสให้โทรไปหาอ่ะ…
แล้วมันก็ผ่านไปเน๊อะอึ่งเน๊อะ
คนเป็นพ่อแม่อยากให้สิ่งที่ถูกใจลูกที่สุดก็จะอย่างเนี๊ยะ แต่ถ้าเมื่อไหร่เขาเริ่มคิดเป็นว่า สิ่งที่ดีที่เหมาะสมกับลูก และมีมรณานุสติบ้างว่าตัวเขาก็คงไม่ได้อยู่คุ้มครองลูกไปตลอดชีวิต ความดีความงามต่างหากที่จะพิทักษ์ให้ลูกเขาอยู่รอดต่อไป เขาก็จะลดการกดดันคนอื่นลงบ้างนะ