ขอจีบได้ไหม ไม่เปลืองใจหรอก

อ่าน: 2267

ถ้าเราใคร่ครวญดูสังคมไทยในขณะนี้ จะเห็นรูปรอยของการแบ่งแยกแบ่งพรรคแบ่งพวกชัดเจนมากขึ้น ใครจะไปสังกัดหมู่ไหนขึ้นอยู่กับความชอบ-ความคิด-ความต้องการแห่งตน ส่วนเหตุผลนั้นมีร้อยแปดพันประการที่จะยกมาแจกแจง ดูๆไปแล้วเหมือนคนไทยแห้งแล้งน้ำใจต่อกันเหลือเกิน หลังจากนั้นก็ระดมพลระดมพลังกัน คนที่คิดเห็นใกล้เคียงกัน ก็มักจะเกิดความฮึกเหิมกระเหี้ยนกระหือที่จะเรื้อโครงสร้างสังคมบ้านเมือง โดยอ้างว่าจะช่วยนำไปสู่ความเจริญแบบก้าวกระโดด

เรื่องของคนหมู่มากไม่ได้ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ
เพราะเรื่องหัวจิตหัวใจคนนั้นยากนักที่จะหลอมรวมไปในทิศเดียวกัน
ถ้าทำด้วยความไม่บริสุทธิ์ใจด้วยแล้วอ๊อฟเตอร์ช๊อกก็จะตามเป็นละลอก
เราจึงเห็นบ้านเมืองเดือดปุดๆในแต่ละเดือน

ในเมื่อแต่ละกลุ่มไม่มีหางเสือสติกำกับ..จะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น

ถ้าเอ็กซเรย์เข้าไปดูชัดๆ จะเห็นกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการของค่ายหนึ่งค่ายใด ไม่ต้องการที่จะเป็นเบ้เป็นพรรคเป็นพวกกับใคร ยังมีจุดยืนที่มั่นคงเป็นของตนเอง เชื่อใจตัวเอง มากกว่าจะหลงตามคำโอ้โลมชวนเชื่อของนักก่อการกลุ่มต่างๆ ผมไม่ทราบว่าท่านใดบ้างที่ยืนอยู่จุดนี้ จึงเป็นที่มาของการขอจีบในครั้งนี้ไงละจ๊ะ..

ผมไม่ได้ชักชวนมาตั้งกลุ่มตั้งแก็งค์อะไรหรอก
แต่อยากจะขอชวนให้มาสร้างสัมพันภาพกันอย่างญาติ
ตามที่วัฒนธรรมของสยามเมืองยิ้มแต่เก่าก่อน
ยึดโยงกันแบบร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน
มีความรู้ความรักก็มาแชร์กัน
ปรึกษาหารือกันได้ทุกเรื่องโดยไม่มีผลประโยชน์ใดๆ
มีผลตอบแทนเป็นเพียงดอกเบี้ยของความรักที่แบ่งปันให้เพื่อนร่วมโลก

ปีนี้สวนป่ากำลังเดินหน้าเรื่องสร้างหมู่บ้านโลก
หมู่บ้านโลกก็คือเจตจำนงตั้งแต่แรกเริ่มของมหาชีวาลัยอีสาน
ที่มีคำอธิบายว่า..คือยาข้มหม้อใหญ่ ที่ปรุงแต่งขึ้นมาเพื่อรักษาไข้ใจของคนอีสาน
ยาขมหม้อใหญ่ก็คือชุดความรู้และกระบวนการเรียนรู้
ที่จะแสวงหาแนวทางการดำรงวิถีชีวิตให้อยู่รอดอยู่ดีกินอิ่มนอนอุ่น
พัฒนาพื้นที่ให้ศักยภาพของธรรมชาติกลับมาทรงพลัง

เพื่ออธิบายให้คนภายนอกเห็นว่า..
ถ้าไม่จับประเด็นตรงที่การเสริมสร้างสภาพแวดล้อมฯให้กลับคืนมา
ภาคการเกษตรก็จะแถกไถไปสู่ความแร้นแค้นด้วยหนี้สินที่พอกพูน
ทำแทบตาย กลับไม่ได้อะไร แถมยังทำลายต้นทุนธรรมชาติจนเหลือแต่ซาก
ประเทศเรานั้นเป็นสวรรค์ชั้นเยี่ยมของโลก
ไม่อย่างนั้นเราจะได้ชื่อว่าแผ่นดินทอง แหล่งผลิตอาหาร และครัวโลกรึ
ที่ได้รับการขนานนามสวยหรูดังกล่าวนี้
ถ้าต้องแลกมาด้วยต้นทุนธรรมชาติจนวิบัติมันก็ยากที่จะรับได้

เราจะทำยังไงกันดีละ
ผมคิดว่าคนที่คิดดีคิดทำเพื่อบ้านเมืองมากมาย
ถ้าจะเพิ่มเสริมหนุนอีกหนึ่งกลุ่มก็น่าจะบรรเจิด
ทำใจ ทำบ้าน ทำการงาน ให้เขียวระบัด
ลงขันความรู้อยู่กับความจริงไม่ทอดทิ้งสังคม

ตกลงจะยอมให้จีบไหมนี่
ถ้าคนดีเห็นด้วยเอามือลง..
จะจีบจริงๆนะ ..

ตั้งใจจริงจีบจริงนะแก้มขาว
ไม่ได้เขียนเพลงยาวมาล่อเล่น
อยากจะชวนแก้มใสใจเย็นๆ
มาช่วยเป็นสะพานให้ได้ไหมเธอ

รู้จักใครมีไมตรีที่ซี๊แหง๋
ส่งตาแลยิ้มหวานหว่านเสนอ
หลักการที่ชวนคนดีมาเจอะเจอ
ดีกว่าเพ้อกว่าพร่ำอยู่เดียวดาย

มาลงขันความคิดติดเทอร์โบ
มาร่วมโชว์แอนด์แชร์กันง่ายๆ
มาร่วมเรียนร่วมรู้แบบสู้ตาย
มาผ่องถ่ายชีวีวิถีไทย

เดี๋ยวนี้เลิกตีกลองประชุมแล้ว
ผู้ใหญ่ลีกินแห้วหมดสมัย
การสื่อสารผ่านเร็วด้วยWIFI
ส่งสิ่งใดทันใจเสมอเลย

นอนในมุ้งก็ใช่จะยุ่งยาก
ไม่ลำบากอยู่ไหนใคร่เฉลย
เสนอแนะสิ่งใดแสนเสบย
อย่าละเลยคอมเมนท์เป็นได้การ

เอาแต่อ่านไม่คอมเมนท์ก็เป็นหมัน
ความรู้มันติดกับนอนพับฐาน
ไม่แตกหน่อปัญญาวิชาชาญ
แม่ตาหวานรู้ไว้แก้ไขเอย..


จดหมายรักจากสวนป่า

อ่าน: 1882

เรียน อาจารย์คุณหมออุ๊ ที่นับถือ

ผมก็มีชื่อเล่นเหมือนคุณหมอนั่นแหละ แปลกๆแท้ๆ ยังนึกขำๆ จะต้องเขียนว่า..เรียนคุณหมออุ๊ จากคนชื่ออุ๊ เป็นอุ๊ยกกำลัง2 งานนี้จึงกลายเป็นการผนึกกำลังของคนชื่ออุ๊กับมิตรสหาย ที่จะได้มาช่วยกันบรรเลงจัดค่ายฤดูร้อนนิสิตแพทย์จุฬาฯให้เทิดเทิง

พี่น้องครับ ผมไปรับโพยมาเมื่อคราวไปงานปัจฉิมโอวาทนักศึกษาแพทย์จุฬาที่ชลบุรี ปีนี้คณะอาจารย์และนักศึกษาจะมาเข้าค่ายที่สวนป่าในวันที่ 4-8พฤษภาคม 2555 จำนวน 40 ชีวิต ผมลงรายการไว้ให้นานแล้ว เกรงว่าจะไปชนตูม! เข้ากับคณะอื่น.. ตามธรรมเนียมของชาวเฮ ใครจะไปจะมาผมก็มองหาตัวช่วย ประกอบกับคุณหมออุ๊ก็ตามประชิดถามถึงวิทยากรในรอบนี้มีใครบ้าง ..จะได้ทำหนังสือเชิญไปถึงเจ้าตัวอย่างเป็นทางการ ผมได้เกริ่นเรื่องนี้บ้างแล้วเมื่อจัดงานเฮที่ผ่านมา และได้เอ่ยมธุรสวาจาผ่านลานปัญญายั่วเย้าขาเก่าเจ้าประจำ
ปรากฎว่าได้ผลแฮะ

มีบางคนสมัครใจทิ้งรายการไปเที่ยวพักร้อนต่างประเทศเฉยเลย
เพื่อความแน่ใจ..โยนหินถามทาง..
ท่านใดจะมาร่วมวงประจงจิตกับค่ายฤดูร้อนคราวนี้บ้าง
เอามือลง..ขอให้ออกมาข้างหน้าหนึ่งก้าว
ขอนับละนะ

1 นายแพทย์สุธี ฮั่นตระกูล
สำนักงานเทศบาลนครพิษณุโลก
อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก 65000

2 ผศ.ดร.จันทรรัตน์ เจริญสันติ
กลุ่มพยาบาลสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา
คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50200
(เรียนคณบดี คณะพยาบาลศาสตร์)

3 นางสาวสมพร พวงประทุม
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
(เรียนคณบดี คณะเภสัชศาสตร์)

4 อาจารย์ดวงพร เลาหกุล
อาจารย์อาราม อู่ทอง
โรงเรียนมงคลวิทยา
อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน 51000
(เรียนผู้อำนวยการโรงเรียนมงคลวิทยา)

5 แพทย์หญิง ศิริรัตน์ สุวันทโรจน์
โรงพยาบาลกระบี่ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ 81000
(เรียนผู้อำนวยการโรงพยาบาลกระบี่)

6 นายตฤณ ตัณฑเศรษฐี
มูลนิธิโอเพ่นแคร์
ชั้น 11 อาคารซอฟต์แวร์พาร์ค ถนนแจ้งวัฒนะ
อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120

นอกจากท่านดังกล่าวแล้ว ผมขอฝากอีกาคาบข่าวไปถึงอาจารย์ไร้กรอบแห่งนาซา ท่านบางทราย อัยการชาวเกาะ อาว์เปลี่ยน ที่ชาวลาวเรียกว่า ปา-ลี-ยอง-ป้าหวาน หมอเบิร์ด ..ยังมีสมาชิกกลุ่มอีแอบกระดี๊กระด๊าจะมาสมทบตามวาระจรอีกไม่น้อย พวกนี้เป็นนางอายไม่ยอมให้เอ่ยนามตามท้องเรื่อง แต่ตั้งใจมาอย่างดุดันแน่ ถึงเอาลวดหนามล้อมก็แหกด่านเข้ามา เพื่อความไม่ประมาท

อาจารย์หมอเตรียมเข็มมาด้วยนะครับ ถ้าจับฝังเข็มอาการหวือหวาน่าจะสงบลงได้

ส่วนผมต้องการตรวจหูเช่นเคย พักนี้หูชอบหาเรื่องครับ

พวกแซ่เฮนี่ร้อนวิชาทั้งนั้นละครับ ชวนเข้าป่าเข้าดงจึงสนใจกันไม่น้อย ส่วนเนื้อหาสาระและกิจกรรมได้คิดไว้บ้างแล้ว วิทยากรเจ้าเก๋าส์มองตาก็รู้ใจ รู้ทิศทางกันอยู่แล้ว คงจะมีอะไรดีๆมาฝากลูกหลานนักศึกษาไม่น้อย

กิจกรรมยามค่ำคืนบ่ต้องห่วง ร้อนๆอย่างนี้จะมีอะไรดีกว่าเอาฟางมาปูแล้วนอนดูดาว แต่เชื่อเถอะ..รายการแย่งไมค์ก็จะเกิดขึ้นอยู่ดี ในเมื่อมีนักรักเต็มป่าออกอย่างนั้น ถ้าได้อาจารย์Handy มาบริหารไมค์ละหัวใจผะผ่าวแน่ คอยดูทีท่านักร้องแหบเสน่ห์แย่งไมค์กันก็ชื่นมื่นแล้ว ส่วนเครื่องไม้เครื่องมือที่ควรเตรียมมา อย่าลืมกล้อง โน็ตบุกค์ และรอยยิ้ม
ตอนนี้เรามีWIFI.ให้ทำการบ้านสะดวกแล้วนะครับ ขอบอก

ช่วงนี้เรากำลังสร้างหมู่บ้านโลก นอกจากจะพาเดินชมแล้ว ยังจะจัดเรื่องเล่า..ว่าหมู่บ้านทะลุโลกเป็นยังไง มีองค์ประกอบอะไรบ้าง คงยกหน้าที่นี้ให้ท่านรอกอดส์เจ้าของต้นเรื่อง ส่วนผมจะชวนคุย:เรื่องผ่าแตงโม, :เรื่องหัวอกของแพทย์ชนบท..อยู่ไหนอยู่ได้ ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ แถมยังอยู่สบายถ้ารู้วิธีเข้าไปนั่งอยู่บนตักของชาวบ้าน

ยังมีเรื่องสนุกอีกเยอะ เช่น ทำอาหารด้วยเตาดาโคต้า ตอนนี้พัฒาการขึ้นเยอะแล้วนะครับ นอกจากหุงข้าวหม้อดินสะดวกกว่าเมื่อก่อนแล้ว ยังทำไก่อบโอ่ง ปลาเผาน้ำพริกหนุ่ม ซุปผักสดบันลือโลก เมี่ยงคำของโฉมยง เมนูสลัดสดๆที่ไปเดินตัดฉับๆมากับมือ ส่วนของหวาน นอกจากผลไม้ ยังมีน้ำปั่นมะสังสูตรพิเศษ ให้ชื่นชิมสลายความร้อนยามบ่ายดีนักเชียว หมู่นี้มะตูมหล่นเต็มสวน จะนำเสนอมะตูมไข่หวาน และชวนทำขนมครกตอนเช้า

อนึ่ง ก่อนหน้าจะถึงรายการนี้
จะมีคณะเครือญาติจากFB.ของผมมาเยี่ยมยาม
หลายคนเป็นนักชิมระดับอึ้งกิมกี่อยู่แล้ว
เราก็จะพากันซ้อมใหญ่เมนูเด็ดสักรอบสองรอบเป็นการนำร่อง

ส่วนวันงานจริงมีวิทยากรมาจากต่างภาคอยู่แล้ว
คงได้แสดงเสน่ห์ปลายจวักกันอย่างหวือหวา
ถ้าเป็นไปได้ผมจะให้ไอ่ตาหวานมาทำอาหารอินตะละเดียโชว์

ในงานเฮที่ผ่านมา..คุณหมอจอมป่วนจะโชว์ทำกับข้าวให้สนั่น
อุตส่าห์รอดูกัน
ไอ่เราก็นึกว่าท่านเที่ยวไปบรรยายมาทั่วโลก น่าจะมีเมนูเด็ดๆ
สุดท้าย ..กลายเป็นไข่เจียว โธ่ๆๆ


สวัสดีปีใหม่พี่น้อง

6 ความคิดเห็น โดย sutthinun เมื่อ 12 เมษายน 2012 เวลา 19:45 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 1681

วันปีใหม่ไทยเป็นวันระดมญาติระดมสุข ทุกหมู่บ้านจัดงานสนุกสนาน ยุคนี้ลูกหลานไปทำงานต่างถิ่นจะนัดหมายมาพบปะกัน พี่ป้าน้าอาพ่อแม่คุณตาคุณยายต่างก็รอวันนี้กัน ธรรมเนียมคนอีสานบ้านเฮานอกจากจะเลี้ยงดูกันอิ่มหมีพีมันแล้ว เรื่องเข้าวัดทำบุญก็ไม่ได้น้อยหน้าใคร

ผมปลีกวิเวกมานอนกระต๊อบน้อยคนเดียว
ช่วงสาย..เดินไปทางบ้านใหญ่เงียบเชียบ
โฉมยงคงไปวัดทำบุญ ..
จึงรดน้ำผัก ..นึกเข้าข้างตัวเอง
ไม่ได้ออกไปสรงน้ำพระที่ไหน ..ก็ขอสรงน้ำให้ผักที่ช่วยกันชำไว้
ขอให้เจริญงามวันงามคืนเถิดนะ..ผักสลัดน้อยเอ๋ย..

ผมไม่นิยมไปร่วมงานรื่นเริงตามเทศกาลต่างๆมา20 ปีแล้ว เว้นแต่ไปต่างถิ่น ไปดูสิ่งใหม่ๆของวิถีชุมชนนั้นๆก็สนใจบ้าง แต่กับท้องถิ่นตัวเองแทบไม่ได้ข้องแวะเลย ใครมาเชิญ..ก็มักจะเบี้ยวเขาอยู่เรื่อย รู้ว่าเป็นสิ่งไม่สมควร..แต่ไปแล้วมันไม่สนุกเสียดายเวลา ชอบทำงานอยู่กับต้นไม้มากกว่า กลายเป็นตาแก่ติดบ้านติดสวนไปเสียแล้ว

สงกรานต์ปีนี้อากาศสลับไปสลับมา ตอนบ่ายอาบน้ำแล้วนอนงีบหนึ่ง ตื่นเพราะได้ยินเสียงฝนเปาะแปะ ฝนตกเหมือนขี้เกียจ นิดๆหน่อยๆก็หยุดไป..อาจจะย้อนมาใหม่ยามค่ำคืนก็อาจเป็นได้ ลุงอานคนเลี้ยงวัวมาบอก..เจ้าตากลมตายแล้ว ..อ้าว! เกิดอะไรขึ้น มันก็อ้วนท้วนดีนี่น่า..แกบอกว่ามันแก่แล้ว คงจะสิ้นอายุไข ..

ถ้าเพราะเหตุนั้น..จะเอาไปฝังหรือทำยังไง..แกขอเนื้อนกกระจอกเทศไปทำกับแกล้มเลี้ยงฉลองวันสงกรานต์ เออ..ก็พิจารณากันเองก็แล้วกัน ..ลองชำแหละดูภายในด้วยนะ ตับไตใส้พุงเป็นปกติหรือเปล่า แล้วมาเล่าให้ฟังด้วย ..ผมไม่ออกไปดูซากเจ้าตากลมเพราะสงสาร กลับมานั่งทำใจ..ไปดีเถิดเพื่อนเอ๋ย ..แต่นี้ไปเจ้าตาหวานคงจะอยู่โดดเดี่ยว ไม่มีเพื่อนมาวิ่งแข่งออกกำลังกันอีกแล้ว

เย็นนี้จะออกไปปลอบใจเจ้าตาหวานเสียหน่อย
นี่แหละหนอชีวิต..วาระพรากจากกันมีอยู่แล้ว จะช้าหรือเร็ว..บอกไม่ได้

เสียงรถเข้ามาส่งพัสดุไปรษณีย์
รีบแกะกล่อง..ต่อสาย..เปิดฟัง
เสียงกระหึ่ม..เริ่มด้วยเพลง “ดีใจที่มีวันนี้”
ซึ่งเป็นเพลงประจำบล็อกสมัยที่เขียนในโกทูโน
ตามด้วยเพลง “กอด” ซึ่งเป็นเพลงประจำกลุ่มเฮฮาศาสตร์
ต่อด้วยเสียงเทศน์ ของท่านพุทธทาส ภิกขุ
เสียงบันทึกชัดเจนมาก..มีเสียงน้ำไหลเบาๆ
ฟังไปซึ้งไประลึกไป..ยังกะได้ไปนั่งอยู่สวนโมก
สาธุ..หลวงพ่อ..ท่านมาโปรดสัตว์ได้จังหวะเหลือเกิน

หวลคิดถึงคนที่ส่งเครื่องบันทึกเสียง
กล่องเล็กๆแต่ประสิทธิภาพใหญ่เกินตัวอย่างน่าอัศจรรย์
ทำไมมันช่างเหมาะเจาะได้จังหวะเช่นนี้
การฟังเทศน์ท่ามกลางความเงียบสงบ
ช่างเป็นวันสงกรานต์ที่อิ่มเอิบเหลือเกิน

ถึงไม่ได้ไปทำบุญที่วัด
บุญก็ยังเดินมาหาในป่าได้..
เรามีบุญหรือเปล่าไม่ทราบได้
แต่เราได้เพื่อนดีมีบุญคุณนับเป็นวาสนานัก ..
ขอบคุณมากครับ พระอาจารย์ Handy
สงกรานต์ปีมีขอให้ชีวีเหมือนเสียงแจ่มใสจากลำโพงที่ส่งมา

สาธุ อายุ วันโณ สุขโข ขายของดี จนไม่มีที่เก็บเงิน
ฝากกอดเจ้าเว๊ปไซด์ด้วย ครับ


สงกรานต์บ้านกระต๊อบ

อ่าน: 4083

ปีนี้ โชคดีที่มีกระต๊อบใหม่ มาให้อาศัยหลบลมร้อนพักผ่อนกายใจ นั่งๆนอนๆทำงานไปท่ามกลางเสียงนกร้องเพลงตามสุมทุมพ่มไม้ มีแดดบ้าง ลมบ้าง ใบไม้บ้างมาเยือน มีมดดำเป็นผู้คุมกฎความสกปรก ถ้ามีกลิ่นอาหารกลิ่นอร่อย มดยกทัพขบวนยาวเฟื้อยมาทักทายทันที
แสดงว่า..
เพื่อนร่วมโลกไม่ต้องการให้เรานำสิ่งแปลกปลอม
มาทำความแปดเปื้อนพื้นที่ๆเราอยู่ร่วมกับเขา
เราจึงควรจะอยู่อย่างสะอาด สงบ เรียบร้อย แช่มช้อยแต่พองาม
เดินเบา หายใจเบา เอ๊ะยิ้มเบาๆด้วยสิ..

คืนนี้ออกมานอนครั้งแรก
เปิดไฟทำงานอ่านหนังสือ..สักพักแมลงจะบินมา
เขาคงมาดูว่า..มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น
ทำไม!! ที่นี่สว่างจัง.. จึงมากันบินมาตอมไฟ
บางคนเข้าใจว่าแมลงชอบเล่นไฟ..จริงรึ!
แมลงอาจจะบินมาเพื่อหาวิธีลดแสงสว่างลงก็ได้นะ

ไม่เป็นไรเพื่อนเอ๋ย ..ปิดไฟก็ได้ ..
นั่งเงียบๆท่ามกลางแสงเดือนหรุบหรู่ ฟังเสียงนกเพรียกไพร เป็นอะไรหรือเจ้านกน้อย นอนเหงาเปล่าเปลี่ยวหรือไร จึงส่งเสียงเว้าวอนอยู่ทั้งคืน นั่งไปสักพักชักจะสะลึมสะลือ เอาผ้าขาวม้ามาปู หยิบผ้าห่มมาคลุมขาถึงหน้าอก พื้นที่นอนจำกัดแค่ตัวเอนนอนได้ ..นึกไปถึงว่า..วาระสุดท้ายคนเราก็ต้องการพื้นที่แค่กว้างศอกยาววาเท่านั้น
แต่เมื่อยังมีลมหายใจอยู่นี่ละ..มนุษย์เราต้องการพื้นที่ดำรงชีพมากน้อยเท่าใดถึงจะพอดี คนเมืองอาจจะต้องการห้อง/โต๊ะทำงาน คนป่าอาจจะต้องการพื้นที่เพาะปลูกบ้าง ซึ่งถ้าทำอย่างประณีตและเข้าใจ มีวิชาความรู้ที่จะอยู่จะทำในพื้นที่นั้นๆอย่างมีคุณภาพ คนเราก็ไม่ได้ต้องการที่ดินมากมายอะไรหรอก

ถ้าเป็นผม..มีที่ดิน 5 ไร่ก็มากไปแล้ว
แค่ปลูกผัก1ไร่ ก็ทำแทบไม่ไหวแล้ว
ต้องปลูกไม้ผล ไม้ผักยืนต้น เพื่อจะไม่ต้องปลูกบ่อยๆ
เป็นการบริหารการทำงานให้น้อยลงไปส่วนหนึ่ง
พื้นที่ๆเหลือปลูกผักล้มลุก ผักตามฤดูกาล ไม้ดอกไว้ชื่นชม
แทรกกระถาง/ถุงเพาะชำต้นไม้/แปลงเพาะกล้าไม้ ในที่ว่าง
แค่นี้ แค่นี้จริงๆ ก็อยู่ได้อย่างเรียบง่ายปกติสุข

ถ้าโลภมาก ต้องทำมาก เหนื่อยมาก
จะเหลือเวลาที่ไหนเอามาดูแลตัวเอง จะเอาเวลาที่ไหนมาพักผ่อน
จะมีเวลาที่ไหนไปเรียนรู้ไปใคร่ครวญ
ในเมื่อสาละวนอยู่กับความต้องการที่ไม่มีวันจบ

อยู่กระต๊อบแล้วรู้สึกดี อยู่ในที่น้อยๆ ง่ายๆ ตอกตะปูแขวนสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้บ้าง กระต๊อบไม่มีตู้เตียง ไม่มีชั้นเก็บของ ก็ไม่ควรมีมีภาระให้มากมาย คำว่าเสื่อผืนหมอนใบยังมีเสน่ห์ถ้าเราใคร่ครวญ เปลี่ยนตัวเองมาชื่นชมวิธีอยู่วิธีทำที่ไม่ต้องมีสมบัติรุงรังนี่ดีจังเลย มีหม้อหุงข้าวเล็กๆ มีหม้อไฟฟ้าสีแดงที่ใช้นึ่งข้าว ผัก ไข่ ไปพร้อมกัน มีพัดลมตัวน้อยไว้คอยเพิ่มกระแสลมยามบ่าย มีกระติ๊กน้ำร้อนไว้ชงชา อ้อ! มีโน๊ตบุกส์ มีWIFI.ก็สุดหรูแล้ว

เทียบกับเมื่อก่อน ที่นี่ไม่มีอะไรเลยเราก็อยู่มาแล้ว ผ่านมาแล้ว
ปัจจุบันสิ่งที่มีที่สมทบเข้ามามากขึ้นๆ..
มากไปก็เป็นภาระ..เดี๋ยวมด แมลง ปลวก ก็จะมาประท้วงอีก
ความพอดีพอเพียงเป็นวินัยกำกับกิเลสเราเหมือนกันนะเธอ
ชีวิตที่พอดี เดินอยู่สายกลางของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน
ของใครของมันออกแบบกันให้ลงตัวลงใจเถิดนะ

มีแฟนหลายคนไม่ดี ถูกมองว่าหลายใจ
แต่ถ้ามีเพื่อนมากมาย..เพื่อนที่รู้ใจ
เพื่อนที่รักและไว้วางใจได้ ..มีมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีใช่ไหมละเธอ

อุ้ยจันตา..บอกว่า..
วันไหนเศร้าเพื่อนก็เล่าเรื่องให้หัวเราะ
วันไหนอกเดาะ..ก็มีอกให้ซบสะอื้นไห้

สงกรานต์..คนไกลขอส่งกระแสใจมาถึงเพื่อนทุกคน
ขอให้ชีวิตชุ่มเย็นเหมือนน้ำฝนที่โปรยปราย
หล่นไปตกตรงไหนความชุ่มชื่นงอกงามเขียวระบัด
ชีวิตยิ้มชื่น ผ่อนคลาย หัวเราะได้ ก็พอแล้ว
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด..
จงคอมเมนท์ บ้างเถิด ..
คิ คิ..


โลกในความคิดคำนึง

อ่าน: 1248

__++

เกือบไปแล้วไหมละ ต่อๆไปมนุษย์เราก็จะเผชิญกับจุดใจหายใจคว่ำมากขึ้น วิกฤติโลกที่ยากจะป้องกันหรือต้านทาน ที่มนุษย์ยังแก้ไม่ตกก็คือภัยพิบัติจากธรรมชาตินี่แหละ มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว ช่วงที่โลกค่อยๆเย็นลงมันคงเกิดการหดตัว หลายแสนปีแล้วก็ยังไม่นิ่งไม่อยู่ตัว วันดีคืนดีมันก็บิดขี้เกียจ พวกมนุษย์ก็พล่านกันสิครับ เมื่อก่อนอาจจะหลายร้อยหลายพันปีเปลือกโลกลุกขึ้นมาเขย่าครั้งหนึ่ง เดี๋ยวนี้บ่อยขึ้นเพราะน้ำมือมนุษย์นี้แหละ ที่ชอนไขโลกจนเสียศูนย์ ตั้งแต่เราใช้น้ำมัน เราสูบของเหลวจากพื้นพิภพเป็นจำนวนเท่าไหร่ เทียบกับแม่น้ำใหญ่ๆได้กี่สาย ดูดเอาของเหลวจากส่วนลึกระดับนั้น..มีอะไรเข้าไปแทน รึปล่อยให้มันเป็นโพรงว่างเปล่า

เปิดพื้นที่ให้เปลือกโลกขยับ
ใช่หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ..
ส่วนด้านบนพื้นภิภพเล่า..สร้างเขื่อนสร้างตึก ระเบิดภูเขา
เปลี่ยนแปลงเปลือกโลกผิวนอกไม่แพ้การเจาะพรุนด้านใน
ตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับการอาศัยอยู่บนโลกในนี้แบบโง่ๆ
มีสรรพสัตว์ชนิดไหนบ้างที่ทำลายโลกใบนี้ได้เท่ามนุษย์

แล้วยังทะลึ่งสถาปนาตัวเองว่า..เป็นสัตว์ประเสริฐสัตว์ชั้นสูง!
เป็นได้จริงๆหรือในเมื่อโง่วายป่วงอย่างนี้

ถ้ามนุษย์เรียนรู้จากธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง ความพอดีพองามในสังคมโลกมนุษย์จะดีกว่านี้มาก คนยุคก่อนเขาคิดได้นะ เขามองเห็นธรรมชาติเป็นผู้มีพระคุณ เปรียบเสมือนมารดา แม่คงคง แม่โพสพ ในเบื้องต้น ต่อมาก็แปรเปลี่ยนเป็นแม่แปลกสาแหรกไปต่างๆนานา แม่ยก ไม่รู้ยกอะไร คล้ายแม่แรงรึเปล่า

เขียนขยักไม่ให้เครียดไปอย่างนั้นเอง สรุปว่าวิกฤติกิเลสยากที่พวกหัวเดียวกระเทียมลีบจะไปทำอะไรได้ เมื่อความคิดโลกมันจมดิ่งไปปานนั้น สิ่งที่พวกพอจะมีสติอยู่บ้างคิดทำ ก็คงเป็นการช่วยกันเหยี่ยวยาธรรมชาติเท่าที่จะทำได้ ดีกว่างอมืองอเท้าทำตาปริบๆ และการเข้ามาช่วยกันทะนุบำรุงธรรมชาติ ก็เท่ากับได้กล่อมเกลาจิตใจของตนเองไปด้วย

“คำว่าธรรมชาติบำบัดนั้นมันตีความได้กว้างไกลไปถึงจักรวาลโน่น”

เรื่องเหล่านี้เป็นบุญเป็นกุศลที่ได้รับตรงๆ
ปลูกมะม่วงมันไม่ออกลูกเป็นซองมาม่าหรอกนะเธอ
คนเราเกิดมามีเวลาไม่มากนัก
กว่าจะผ่านวัยเด็กมาถึงวัยทำงานก็ลองคิดดู
จะมีเวลาทำงานเต็มที่ได้กี่ปี
หลังจากนั้นสังขารก็ถดถอย
ถึงทำงานก็คงจะทำได้ไม่เต็มที่เหมือนวัยกลางคน
แต่ถ้าทำการบ้านมาดีแต่ต้น
ยามถึงวัยบ่ายคล้อย..ธรรมชาติก็จะดูแลตอบแทนเรา

สิ่งที่มนุษย์ต้องการคงจะไม่เหมือนกันทั้งหมด
แต่ก็มีหลายส่วนที่ต้องการตรงกัน
เช่นเรื่อง อากาศ อาหาร อารมณ์ อนามัย ที่ปกติสุขและปลอดภัย
และยังมีเรื่องอื่นๆที่นับล้านเรื่องที่มนุษย์ปรุงแต่งขึ้นมา
ปัญหาคือเราไม่ได้คิดเรื่องนี้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน
ถ้าค่อยๆคิดค่อยๆทำที่ละเล็กละน้อยตามลำดับ
เราก็จะไม่ต้องนอนก่ายหน้าผากคร่ำครวญถึงปัจจัยต่างๆ

สุดท้ายก็คิดว่า..ตนเองผ่านวาระที่จำเป็นนั้นมาแล้ว หมดโอกาสแล้ว จำยอมรับสภาพ หมดกำลังใจ ที่จะคิดจะทำอะไร สุดท้ายจิตใจก็ห่อเหี่ยว อยู่ไปวันๆอย่างซักกะตายไปยังงั้นเอง อยู่อย่างพลุกพล่านและฟุ้งซ่าน คงคิดจนเซ็งด้านไปหมดแล้วละมัง ในทุกครั้งที่มานั่งเป็นไอ่เบื้อหลังพวงมาลัยรอไฟเขียว

ชีวิตคนเรานี่นะติดไฟแดง
ถ้ามดแมลงพูดได้..มันคงหัวเราะเยาะจนฟันโยก
เพราะชีวิตของสัตว์เล็กสัตว์น้อยพวกนั้นไม่ต้องติดต้องรออะไรเลย
ไม่ใช่เพียงแค่ติดไฟเขียวนี้หรอกนะ
ชีวิตของเธอยังติดโน่นติดนี่พะรุงพะรังรอบตัวและรอบใจ

ลองถามตัวเองดูสิ..วันนี้เธอติดอะไร
บางคนอาจจะตอบว่าติด FB. ติดกาแฟ ติดเกมส์ ติดทีวี ติดๆๆ
ถ้าให้ดีช่วยกันต่อให้ติดกับธรรมชาติเถิด
แล้วเธอจะรู้ว่าธรรมชาติไม่ธรรมดา
มีความลึกซึ้งกว่าที่เคยรู้สึกและเข้าใจมากกว่าที่เคยรับรู้
ลุกมาพร่ำกลางดึกก็ไม่รู้ว่าเธอจะเข้าใจบ้างไหมหนอ

โลกได้ตักเตือนแล้ว..ในชีวิตเธอจะต้องซ้อมรับความเสี่ยงเป็นระยะๆ
ตอนนี้เธอกำลังเสี่ยงอะไร เสี่ยงทาย หรือเสี่ยงเซียมซี
ใบที่ 16 ..บ่งบอกว่า..
อ่านเรื่องใดๆแล้ว..ควรจะคอมเมนท์กลับมาบ้าง
แคว๊กๆ



Main: 0.041256904602051 sec
Sidebar: 0.10211896896362 sec