เธออยู่ไหนตอนไฟดับ

อ่าน: 1446

 บ่ายวันนี้ รามสูรย์อาละวาดอีกแล้ว เที่ยวไล่ขว้างขวานก่อกวนเมฆขลาจนได้เรื่อง ลมบนโหมพัดกระหน่ำ มองดูยอดไม้ใหญ่โอนเอนวืดๆตามพายุ ไม้กิ่งเล็กกิ่งน้อยหักปลิวเกลื่อนพื้น เมล็ดไม้แก่แตกตกเรี่ยราดฝังตัวที่ผิวดิน ออกหน่อยคงจะแตกหน่ออ่อนเจริญพันธุ์ทั่วไป ถ้าเรามีแม่ไม้อายุมาก ธรรมชาติของป่าไม้ก็ขยายพันธุ์เองได้อยู่แล้ว โดยที่มนุษย์ไม่ต้องไปปลูก เพียงแต่จะถึงจุดนี้ได้ คุณภาพของสภาพแวดล้อมต้องยืนอยู่ในจุดที่เป็นบวกทางนิเวศน์

หลังจากลมและฝนถล่มสวนป่านาน1ชั่วโมง

คณะเราไม่รู้จะทำอะไร ไฟฟ้าดับWIFI.ก็พลอยเดี้ยงไปด้วย

จึงพากันจัดโต๊ะอาหารมื้อเย็นเลี้ยงคุณคอนฯกับน้องชาย

ผมทำไก่อบโอ่ง แห้วเอาปลาทูจากสุราษฎร์มาประชัน

ก็อิ่มหมีพีมันไปตามเหตุและปัจจัย 

นั่งคุยกันรอไฟฟ้าจน3ทุ่มไฟฟ้าก็ยังมาไม่เต็มที่ ยังดีที่เปิดทีวีดูภาพได้ แต่เสียงไม่มีนะ ดูทีวีใบ้ไม่รู้เรื่อง จึงหยิบไฟฉายมาค้นหาตัวเสริมกำลังไฟฟ้าให้กับไอโฟน ส่วนโน๊ทบุกค์มีไฟพอที่จะเขียนอะไรๆได้ค่อนคืน น่าจะเขียนเรื่องราวแล้วโพสต์ให้คุณคนสวยอ่านก่อนนอนคืนนี้ได้ บางคนเห็นเป็นยากล่อมประสาท ถ้าไม่มาเจ๊าะแจ๊ะในFB.อารารมณ์ค้าง ตาค้าง ใจค้าง..เป็นงั้นไป

ปกติถ้าสวนป่าฝนตกแรงขนาดนี้  อึ่งอ่างจะร้องระงม แต่คืนนี้เงียบกริบ แปลกแท้ๆ รึว่าอึ่งอ้างก็ติดนิสัยประท้วงมาจากที่ไหนสักแห่ง ตั้งใจว่าจะไม่นอนดึก พรุ่งนี้แห้วจะขับรถไปส่งที่มหาวิทยาลัยอุบล มีคิวไปโม้ให้นักศึกษาป.โทที่เรียนภาคฤดูร้อนทางด้านชีวะ/วิทยาศาสตร์ เรียกถูกรึเปล่าก็ไม่รู้นะ บอกเขาเองแหละว่า..ไม่ต้องส่งหนังสือเชิญเป็นทางการ ถ้าผมรักอาจารย์ที่เชิญก็ไปให้อยู่แล้ว อาจารย์บอกว่ากำลังตรวจเช็คตารางบินให้ ดูแล้วผมจะต้องบินอ้อมไปลงที่สุวรรณภูมิแล้วต่อไปลงอุบล

ผมบอกไม่ต้องเลย ข้าน้อยจะไปเองนะขอรับ

ไฟก็ไม่มี จะต้องออกเดินทางไปตอนเช้า ต้องเตรียมสื่่อไปประกอบการโม้ น่าจะนอนพิจารณาว่าจะเอามะพร้าวห้าวไปขายสวนทำนองไหน ถึงจะคุ้มค่าสมราคาของทุกฝ่าย เวลาของนักศึกษามีค่าควรแก่การให้ความสำคัญอย่างมาก 

ผมต้องถามตัวเองว่า..

ถ้าผมเป็นครูสอนวิชาชีวะวิทยา

ผมควรจะสอนอย่างไรเด็กๆถึงจะสนใจและตระหนักต่อวิชานี้

 

ผมก็จะถามลูกศิษย์ว่า..

นี่เธอรู้ไหม  ทำไมเราถึงต้องมาเรียนวิชานี้

วิชานี้มีความหมายความสำคัญอย่างไร

จึงได้รับการบรรจุเข้ามาในวิชาเรียนของเรา

พวกเราตระหนักและเข้าใจเกี่ยวกับวิชานี้อย่างไร

ใครจะช่วยอธิบายแนะนำให้คุณครูได้ ยกมือขึ้น!

หลังจากผ่านสารบัญนี้ไปแล้ว ผมอยากจะหยิบเนื้อหาวิชาเรียนที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของเด็กๆ ให้เด็กเห็นองค์ประกอบ และได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมของวิชานี้ จะได้สนใจและใส่ใจช่วยพัฒนาบรรยากาศและวิธีเรียนให้มีชีวิตชีวา

วิชาชีวะจะไปสอนแห้งๆเหมือนกระดาษทรายไม่ได้หรอก

ถ้าทำให้วิชานี้จืดชืดเหมือนน้ำล้างหัว-ล

มันจะเป็นทุกข์มากกว่าเป็นสุข

การเรียนรู้ทำไมต้องทุกข์ด้วย..

ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกหรือผิดนะครับ

แหม..ถ้าอยู่ใกล้ๆจะอยากชวนคนสวยไปด้วย

ไปคอยหิ้วปีกเข้ามุม..

 

ตะกี้นี้เปิดดูFB. เจอคุณพรพรรณ ศรีวิชัย

คนสวยแห่งสันป่าตองมาขอเป็นเพื่อน

นึกๆแล้วก็แปลกใจ

เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่วัยกระเตาะเมื่อสัก40กว่าปีได้ละมัง

ทำไมจะต้องมาสมัครเป็นเพื่อนกันอีกเล่า

อยากจะบอกว่าเคยแอบรักอย่างไรก็ยังมั่นคงสม่ำเสมอมิลืมเลือน

นี่แหละน๊า..เทคโนโลยีมันไม่ยอมรับรู้เบื้องหน้าเบื้องหลังของใครๆ

ถ้าอยากจะเป็นเพื่อนกันก็ต้องมาตั้งต้นตามกติกาที่วางไว้

เอ๊ะ..รึมันจะบังคับให้เราทวนความหล้ง

ก็ดีนะ..จะได้เขียนเรื่องรักหลังวัยเกษียณนั้นเป็นฉันใด

“เพื่อนเก่าคนนี้ฮักตั๊วขนาดเน๊อพรเน้อ”

 แคว๊กๆ

 

 

แคว๊กๆ..


ขอปลูกไผ่ในหัวใจเธอได้ไหม

อ่าน: 3833

เพาะเมล็ดไผ่ 

มิตรภาพแห่งไมตรีของญาติออนไลน์เรากำลังงอกงาม และจะค่อยๆงดงามต่อๆไป ถ้าเราเอาวิถีไทยมาใช้ ถ้อยทีถ้อยอาศัยหล่อเลี้ยงน้ำใจกัน เป็นพื้นที่แห่งความสุขความหวัง ที่พอจะช่วยกันก่อเกิดพลังใจระหว่างกัน ไปเยี่ยมยามถามข่าว ส่งเรื่องราวและของฝากแบ่งปันกัน สังคมแห่งความเอื้ออาทรกำลังจะผลิบานน้อยๆแต่มั่นคง อาจจะแซวกันบ้างเพื่อความสนิทสนม ที่นี่ไม่มีเขามีแต่เรา ทุกคนเป็นตัวคูณของกันและกัน บางจังหวะได้อ่านการโต้ตอบ..แบบกอร่อกอติกก็ถือว่าเป็นอายิโน๊ะโม๊ะโต๊ะเสริมบรรยากาศ ที่เป็นเสน่ห์ของการเขียนแบบฉบับของหมู่เฮา เราไม่ได้เขียนเชิงวิชาการไม่ได้เขียนวิทยานิพนธ์ แต่เรากำลังเขียนแบบปะปนความซาบซึ้งให้กัน จึงขอขอบคุณกองเชียร์ที่คอยอ่านคอยให้กำลังใจ

เรามาให้กำลังใจกันเถิด

อ่านแล้วก็มีแก่ใจคอมเมนท์บ้าง

นึกถึงหัวอกคนอื่นบ้างก็ดีนะ

น้ำใจก็มีคนทุกคน..ควรนำไปรดไมตรีให้งอกเงย..

ถ้าเราเริ่มกระชับพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้เข้าหากัน ใครติดขัดสงสัยประเด็นไหนก็ส่งโจทย์ขึ้นมา ข้าผู้น้อยพอรู้บ้างแค่หางอึ่งก็จะปะติดปะต่อให้ฟัง ทำไมละครับ  ไม่เป็นกูรูก็เว้าวอนสู่กันฟังได้ ท่านใดมีข้อมูลเพิ่มก็ถ่างขยายให้กว้างขึ้น ละเอียดขึ้น ไม่อย่างนั้นเราจะ..เข้ามาใช้FB.ให้เสียเวลาทำไมละครับ

ผมสังเกตุว่า..ในFB.เราจับกลุ่มกันมากมาย ใครใคร่เข้าไปเป็นเพื่อนกลุ่มไหนก็สมัครใจเข้าไปตามอัธยาศัย ดูเหมือนมันจะมีเค้าโครงหลวมๆอยู่พอประมาณ กลุ่มสวนป่าก็กระดี๊กระด๊าหาบริบทของตนเอง ค่อยๆเรียนรู้ค่อยๆเติบใหญ่ จนเมื่อชัดเจนกระจ่างใจแล้ว ก็จะเกิดเป็นวัฒธรรมของกลุ่ม พัฒนาเป็นขององค์กรในลำดับต่อไป

ผมเชื่อว่ากลุ่มเรา..คงจะไม่ช้าเป็นเต่าเตาะแตะอยู่อย่างนี้หรอก

อีกหน่อยความสามารถในตัวท่านทั้งหลาย

ก็จะช่วยกันติดเทอร์โบให้เต่าตัวนี้

วิธีที่ดีและง่ายที่สุดก็คือสร้างนิสัยคอมเมนท์ให้กันและกัน
สิ่งนี้เป็นตัวชี้วัดว่า..ท่านสนใจจะเป็นผู้เรียนแล้วหรือยัง

ไม่ต้องคอมเมนท์แบบเอาเป็นเอาตายอะไรหรอกนะครับ

มาอิๆเอ๊ะๆกันบ้างก็นับว่าได้หล่อเลี้ยงน้ำใจให้กันแล้ว..

ช่วยกันสร้างวัฒนธรรมการคอมเมนท์กันหน่อยได้ไหมคนสวย

ไผ่หม่าจู

เพื่อขยายความที่เยิ่นเย้อข้างบน  วันนี้จะเขียนข่าวเล่าแจ้ง“เรื่องไผ่” ด้วยมีคนสวยสนใจอากจะให้เขียนเรื่องนี้ เมื่อคนดีต้องการ เราก็บริการให้กันสิครับ การที่มีผู้ข้อร้อง ผู้ตั้งโจทย์ให้ เป็นจุดเริ่มที่สำคัญ ดีกว่าการเขียนเปะปะตามอำเภอใจ แสดงว่า..รูปรอยของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เริ่มเข้าสู่บทที่1แล้ว..จึงขอนำเสนอเรื่องตามที่มีการร้องขอ ณ บัดนี้..

วันนี้จะเล่าเรื่องไผ่ฉบับย่อตามบริบทที่สวนป่าได้ถูลู่ถูกังมา

..กล่าวนามตามท้องเรื่อง..นับตั้งแต่บรรพบุรุษได้มาหักร้างถางพงจับจองพื้นที่ตรงนี้ หลังจากเคลียพื้นที่ป่าให้เป็นพื้นที่กสิกรรมแล้ว สิ่งแรกที่ลงมือก็ทำลงมือปลูกก็คือปัจจัยที่จำเป็นเบื้องต้น ..สร้างกระต๊อบขึ้นมาพำนัก สร้างคอกควาย ตัวพลังงานหลักในขณะนั้น ปลูกพืชอาหารที่จำเป็น เช่น มะกรูด มะนาว ตะไคร้ ข่า พริก มะเขือ แมงลัก กระเพรา กล้วย อ้อย หลังจากนั้น มะพร่้าว มะม่วง ขนุน น้อยหน่าก็ตามมา พร้อมกับหน่อไผ่มาลงไว้ที่มุมสวน เป็นไผ่พันธุ์มีหนามลำใหญ่ที่ครัวเรือนไทยอีสานปลูกกันทั่วไป เพื่ออาศัยคุณสมบัติของไม้ชนิดนี้ได้สารพัดประโยชน์ จักสานก็ได้ ใช้ทั้งลำมาเป็นเค้าโครงกระต๊อบก็ดี หน่อยังแกงป่าเด็ดสะระตี่นัก

ควรนึกด้วยว่าในป่าสมัยนั้นไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆเลย

เกษตรกรต้องคิดพึ่งพาตัวเอง100%

ไม่มีเพื่อนบ้าน อยู่เดี่ยวโดดกลางป่า

เกิดอะไรขึ้นมา  ต้องการอะไร

มีวิธีเดียว ให้ถามตัวเอง

แสดงว่าในอดีตเราทำเรื่องความพอเพียงอย่างถึงพริกถึงขิงมาแล้วละครับ

 

ไผ่กิมซุง

ไผ่เป็นตัวเลือกลำดับต้นๆที่ควรลงไว้ ต่อมาบ้านเมืองเจริญขึ้น นักส่งเสริมการเกษตร พ่อค้าพันธุ์ไม้ ผู้สนใจเรื่องพันธุ์ไม้ ได้นำไผ่สายพันธุ์ดีเข้ามาขยายในประเทศเรา เมื่อ50ปีที่แล้ว ชาวบ้านฮือฮากันมากกับไผ่ตงจากเมืองจีน จะไม่ตาโตยังไงละเธอ แต่ละหน่อโตเท่าโคนขา ออกหน่อครึดรอบกอไปหมด เอามาต้มใส่กระดูกสุกรก็หวานฉ่ำ เอาไปผัดเอาไปใส่ห่อหมกอร่อยเหาะ เรียกว่าเอามาทำอาหารจะโดนใจกว่าหน่อไผ่รวกหน่อเล็กๆของเราว่างั้นเถอะ

ยังไม่จบแค่นี้หรอกเธอ

ไผ่พันธุ์ดีๆแปลกๆจากทั่วโลกทยอยเข้ามาสู่แผ่นดินไทยไม่น้อยหน้าพันธุ์ไม้อื่นๆ

ผมในฐานะเกษตรกรที่ปลูกสร้างสวนป่า รับรางวัลจากในหลวงด้วยนะเธอ ผมจึงสนใจพันธุ์ไม้แปลกๆทุกชนิด สนใจซื้อหามาทดลองปลูกหลายหลาก ปลูกแล้วก็รอชื่นชม สมัยเมื่อ30กว่าปีที่ผมมาปักหลักปลูกป่า ผมก็ได้พันธุ์ไผ่บงจากศูนย์เพาะชำกล้าไม้มาปลูกเป็นแนวรั้ว ปัจจุบันเป็นทิวไผ่ให้ใช้ประโยชน์ได้ไม่อั้น ถัดมา20ปี ไผ่บงหวานมีผู้นำมาจากจังหวัดเลยมาเสนอขายหน่อละ30บาท ผมสั่งมาปลูก30หน่อ ไผ่บงหวานก็ขึ้นรอบๆบ้าน ให้อาศัยร่มเงาอาศัยลำต้นและอาศัยหน่อ จุดพิเศษของไผ่บงหวานก็คือ หักเปาะออกมาปอกเปลือกออกเคี้ยวกินสดๆได้เลย ไม่มีรสขื่นแม้แต่นิดเดียว  นับว่าอัศจรรย์ไม่เบาในสมัยนั้น จะเอาไปต้ม/ไปผัด/ไปยำ/กรอบอร่อยไปหมด

ไผ่หม่าจู

ถัดมาอีก10ปี มีไผ่แปลกๆใหม่ๆที่หน่วยราชการส่งเสริม เช่น ไผ่หม่าจู หม่าจูเป็นไผ่ที่มีหน่ออร่อยมาก ที่เราเห็นตุ๋นไผ่ในร้านข้าวต้มในภัตตาคารล้วนเป็นหน่อไผ่ชนิดนี้ โครงการหลวงขายหน่อสดก.ก.ละ60บาท ขายลำต้นราคาลำเล็ก-ใหญ่ตามขนาด ราคาตั้งแต่100-400บาท/ลำ ส่วนหน่อกิ่งตอนราคาอยู่ที่ 150-200 บาท เป็นไผ่ที่มีลำเปลาตรง ไม่มีกิ่งก้านเกะกะเหมือนไผ่อื่น มีความแข็งแรงทนทาน นำไปทำเฟอร์นิเจอร์ได้ดี

 

ไผ่บงหวานเมืองเลย

3 ปีต่อมามีไผ่เข้ามาเขย่าวงการอีกชนิดหนึ่ง เป็นไผ่ที่ปลูกกินหน่อ ถ้าใส่ปุ๋ยรดน้ำจะออกหน่อรอบโคนทั้งปี ไผ่ชนิดนี้โดนใจคนอีสานเข้าเต็มๆ พวกชอบกินซุปไผ่ชอบใจมาก บางคนถึงกับเอามาตั้งชื่อใหม่ว่า  “ไผ่แม่ลูกดก” ชื่อเป็นทางการคือ “ไผ่กิมซุง” คุณคอนฯซื้อมาฝาก5หน่อ ปลูกรอด4หน่อ ตอนออกมาใหม่ๆราคากิ่งพันธุ์ละ 250-500 บาท ตอนนี้เป็นแตกกอใหญ่ยืนต้นถาวรแล้ว

ปีที่แล้วทดลองขยายพันธุ์ตามสไตล์ของผม

ให้ลูกน้องไปตัดลำต้นกลางแก่กลางอ่อนมาเป็นท่อนๆยาว 2 เมตร

เอาสว่านเจาะหลุม ใส่ปุ๋ย แล้วหย่อยท่อนพันธุ์ลงปลูก

เดินท่อน้ำหยดช่วยรดใน 2 เดือนแรก หรือยามฝนทิ้งช่วงบ้าง

ผ่านไป1ปี ไผ่20หลุมเหลือรอดมาเติบใหญ่18 หลุม

วิธีนี้ง่ายจริงๆ..แต่เหมาะกับการขยายพันธุ์ในพื้นที่ (ตัดปุ๊บปลูกปั๊บ)

ต่อๆมาผมก็ยังปลูกไผ่พันธุ์ใหม่ๆ ไผ่เหลือง ไผ่ซางนวล ไผ่บงเขียวปราจีน ไผ่บงพันธุ์ศรีสะเกษ ผมยังรักษาพันธุ์ไผ่ป่าไว้ด้วยนะ.. เธอเอ๋ยมันมีหนามยุบยับไปทั้งกอ หนามแหลมคมซะด้วย สมัยก่อนเขาปลูกล้อมบ้าน ปลูกเป็นรั้วล้อมคอกวัวควาย โจรขะโมยเห็นหนามไผ่มิดชิดถึงกับหมดปัญญาบุกมาย่องเบา

ใครจะบ้าไปถางหนามไผ่หนาหลายเมตรบุกเข้ามาละครับ

ปีที่แล้วขาใหญ่ชวนไปเมืองจีน ไปดูเรื่องการปลูกไผ่ เพราะมีโครงการจะปลูกไผ่ขนานใหญ่ในประเทศไทยและประเทศลาว ก่อนปลูกก็พากันไปหาความรู้ ผมพาขาใหญ่ไปหาครูอึ่งที่ลำพูน ไปคุยกับนักอุตสาหกรรมไผ่มือหนึ่งของเอเซีย ที่ค้นคิดเทคนิคการแปรรูปไผ่ได้ดี ผลิตไม้ไผ่แผ่นแปรรูปส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก ในระยะใกล้เคียงกัน กรมป่าไม้จัดประชุมวิชาการประจำปี กรมฯเชิญไปบรรยายเรื่องการปลูกสวนป่า ได้โอกาสสอบถามนักวิชาการในกรมป่าไม้เรื่องไผ่เพิ่มเติม เขาแนะนำให้ไปดูงานที่ประเทศจีนชื่อ”แบมบูซิตี้” ซึ่งเป็นเมืองที่รวบรวมเรื่องไผ่ไว้ครบวงจรแห่งหนึ่งของโลก

ผมสงสัยมานานแล้ว..เวลาดูหนังกำลังภายใน

ผู้กำกับออกแบบคิวบู๊ให้พระเอกโผร่างละลิ่วฟันฉั๊วะฉะที่ยอดไผ่

นึกชมในใจว่าเกษตรกรจีนนี่นายแน่มาก

มีฝีมือในการปลูกไผ่ไม่ให้แน่นกอแผ่ขยายเป็นลำๆเหมือนต้นไม้ทั่วไป

พอไปเห็นกับตา อีโธ่อีถังเอ๋ย..มันเป็นไผ่พันธุ์ที่ขึ้นเป็นต้นๆไม่ได้ขึ้นเป็นกอ

ผมก็เพิ่งเคยรู้เคยเห็น โง่เป็นบ้าเลยละครับ

ที่เมืองจีนมันขึ้นเองตามภูเขา..จีนตัดเอามาทำนั่งร้าน ฯลฯ

กลับจากจีนก็กว้านซื้อพันธุ์ไผ่ซางนวลที่เมืองลับแล ได้พันธุ์ไผ่ไปหลายหมื่นกิ่ง ส่งไปปลูกที่เลยและข้ามไปปลูกที่ลาว บังเอิญช่วงที่ส่งพันธุ์ไผ่ข้ามโขง ตรงกับช่วงที่น้ำท่วมใหญ่บางกอก ที่ลาวเองก็ท่วมท้นเช่นกัน กระแสน้ำในลำโขงเชี่ยวกราก พัดเอาเรือขนกิ่งไผ่จมไปลำหนึ่ง พันธุ์ไผ่ถูกส่งไปปลูกในเมืองบาดาลเสียแล้ว เจ๊งไปหลายหมื่นกับลำที่จม ภายในเดือนหน้ากำลังหาเวลาว่างไปติดตามดูไผ่เสียหน่อย แทนที่จะนั่งฟังเพลงลูกทุ่งของไผ่ พงศธร เฉยๆ

ปีนี้ไผ่บงหวานเมืองเลยกอหน้าบ้านตายขุยก่อนตายไผ่ก็จะออกเมล็ดมาสืบทอดสายพันธุ์ เมล็ดไผ่เล็กๆคล้ายกับเมล็ดหญ้า สมัยก่อนตอนเจอภัยแล้งรุนแรงผู้คนอดอยาก ชาวบ้านป่าก็จะไปรวมรวมเมล็ดไผ่มาตำจะได้เหมือนเมล็ดข้าวเล็กๆ..เอามาหุงต้มผสมกับมันป่า แต่สมัยนี้ไม่ต้องแล้ว..ยามไผ่ออกเมล็ด..นกตัวเล็กๆจะยกโขยงมาปาร์ตี้เมล็ดไผ่จ๊อกแจ๊กทั้งวัน

เมล็ดไผ่หล่นเกลื่อนพื้น

ผมเอาน้ำรดไว้ ไม่นานนักหน่อไผ่เล็กๆก็งอก

เราก็ไปถอนมาชำในถาดเพาะชำ

อายุได้ 3 เดือนก็นำไปปลูกได้

ข้อดีก็คือจะได้นับอายุเลข1ของไผ่ชนิดนี้

 

: หมายเหตุ 

  • 1. ถ้าศึกษาจะรู้ว่าไผ่แต่ละชนิดอายุไม่เท่ากัน50-100ปี ถึงเวลาก็ตายพร้อมกัน
  • 2. ถ้าสนใจเรื่องไผ่เวลามาที่สวนป่า ก็อี๋อ๋อชวนเสวนาหาความรู้เพิ่มเติมได้
  • 3. ถ้าสนใจจะเพาะเมล็ดไผ่ มาช่วงนี้แหละได้เรียนปฏิบัติแน่ๆ
  • 4. ถ้าอยากจะชิมไผ่ ต้มไผ่ ผัดไผ่ แกงไผ่ ทำซุปหน่อไม้ ก็มาช่วงนี้แหละ
  • 5. ถ้าอยากรู้ว่าไม่แก่ดัดยากไม้อ่อนดัดง่าย ก็ลองมาดัดดู
  • 6. ถ้าจะนอนนวดเตียงไม้ไผ่นั่งในกระต๊อบไม้ไผ่ได้เลย หมอนวดให้นวดกันเอง
  • 7. ถ้าจะตามดู เรื่องดินขุยไผ่ หนอนรถด่วน เรียนการขยายพันธุ์มาได้เลย
  • 8. ถ้าจะอ่านอย่างเดียวไม่คอมเมนท์ นี่น่าโดนไม้เรียวไม้ไผ่

          แคว๊กๆ



Main: 0.039021968841553 sec
Sidebar: 0.069211006164551 sec