ดิน น้ำ ลม ไป

อ่าน: 1192

มีคนตั้งข้อสังเกตุว่า

รัฐบาลที่แล้วยุ่งอยู่กับไล่ม็อบ

รัฐบาลนี้ยุ่งกับการไล่น้ำ

การไล่น้ำกับการไล่คน

อย่างไหนจะลำบากมากกว่ากัน

รึว่ามันเป็นวิบากกรรมให้ต้องมีเรื่องไล่ล่ากันมิเว้นวาย

อุทกภัยเที่ยวนี้มีคนคาดคะเนความเสียหายแห่งละเท่านั้นเท่านี้ล้าน แต่ไม่มีใครประเมินความเสียใจ จะตีค่าเสียหายประมาณไหน ฝนตกก็แช่ง ฝนแล้งก็ด่า แสดงว่ามนุษย์เราโดยเฉพาะภาคการเกษตร จะต้องประสบกับความเป็นไปของธรรมชาติ ซึ่งไม่สามารถกำหนดได้ บังคับให้เกิดพอดีได้ มนุษย์จึงประยุกต์วิถีชีวิตให้สอดรับกับธรรมชาติ ไม่ไปโทษไปโวยวายต่อว่าฟ้าดิน ฝนไม่ได้รู้เรื่องด้วยหรอก ฝนมีสิทธิ์ที่จะตกมากตกน้อยก็ได้ ฝนไม่มีผลประโยชน์กับใคร แต่หลายใครๆต่างหากเล่าที่มีผลประโยชน์กับฝนตกและฝนแล้ง ภูมิปัญญาดั่งเดิมจึงเชิดชูแม่โพสพ แม่คงคา แม่ธรณี การทำความเข้าใจกับธรรมชาติ ทำให้มนุษย์ไม่บกพร่องขาดๆเกินๆ ไม่ทำอะไรเกินเลยกับธรรมชาติ

ถ้าเธอไม่รู้จักธรรมชาติ ธรรมชาติก็จะไม่รู้จักเธอ

ถ้าเธอทอดทิ้งธรรมชาติ ธรรมชาติก็จะทอดทิ้งเธอ

ปีนี้ไม่ต้องแห่นางแมวหรือจุดบ้องไฟขอฝนจากพระยาเถร ฝนก็เทลงมาโดยมิรั้งรอ พายุฝนเข้าลูกแล้วลูกเล่า ไล่กันมาโดยไม่รอบัตรคิว เรื่องที่อึกกระทึกครึกโครมอย่างนี้ มีผู้อธิบายไว้หลายกระแส นักวิทยาศาสตร์บอกว่าหิมะขั้วโลกละลาย แสดงว่าโลกร้อนขึ้นกว่าเดิม สาเหตุมาจากการปล่อยก๊าซขึ้นไปสะสมเป็นฉนวนไม่ให้แสงผ่านไปมาได้สะดวก เกิดการสะสมความร้อนในชั้นบรรยากาศ ความร้อนที่ว่านี้ไปแผดเผาแผดไอน้ำให้จับกลุ่มเป็นเมฆ และพัฒนาเป็นความกดอากาศ เป็นพายุ เป็นดีเปรสชั่น นักทรัพยากรศาสตร์บอกว่า มนุษย์พากันทำลายสภาพแวดล้อมมากเกินไปจนเกิดวิกฤติ ป่าไม้ลดลงทั่วโลกเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่ง และยังมีเหตุผลแวดล้อมอีกยุบยับ

ความเปลี่ยนแปลงสุดโต่งได้เปลี่ยนผลกระทบวิกฤติจนเกินวิกฤติ ทั่วโลกจึงเจออภิมหาภัยต่างๆ อเมริกาเจ้าแห่งเทคโนโลยีก็ยังเจอจนหน้าซีด บางประเทศเจอแผ่นดินไหวให้วิ่งกระเจิดกระเจิง ยังมีสึนามิอีกละ ก่อนหน้านี้พี่ไทยก็เจอคลื่นยักษ์พุ่งสูงไปถึงยอดมะพร้าวโน่น สร้างความเสียหายทั้งชีวิตมนุษย์และทรัพย์มหาศาล ญี่ปุ่นเองก็โดนเข้าจังหนับ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด มันจะเป็นเรื่องเล็กๆได้ที่ไหนเล่า วิกฤติแต่ละหมัดล้วนเป็นชนิดมัดโป้งจอดทั้งนั้น

ปีนี้ทั้งปี บ้านเราเอาเจอบททดสอบเรื่องอุทกภัยเรื่อยมา เฉลี่ยไปทุกภาค ดินถล่มน้ำท่วมภาคใต้ แล้วก็ย้ายมาภาคเหนือ ไล่มาภาคกลางภาคอีสาน ใครจะคิดละครับว่าแถวปักธงชัยน้ำจะท่วมจนลอยคอ พอช่วงกลางปีก็มีมหกรรมน้ำท่วมชนิดท่วมแล้วท่วมอีก ท่วมจนมึนงง เป็นโจทย์ใหม่ที่ยากจะคาดการณ์ ยากที่จะตั้งรับ เพราะความสดใหม่ของวิกฤตการณ์ทำให้ต้องเอาสถิติต่างๆโยนลงตะกร้า แผนตั้งรับเดิม ทำอุโมงค์ผันน้ำ ทำแก้มลิง ทำคันคูป้องกัน ทำกำแพงกึ่งถาวร ทำประตูน้ำ พอมาเจออภิมหาวาตภัยก็ไหลยุ่ยไปกับน้ำ

ถ้าไม่รื้อโครงสร้างแผนการบริหารจัดการน้ำใหม่คงจะทำยังไงละครับ

อุทกภัยเที่ยวนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นจุดรับจุดอ่อนของแผนเดิมอย่างปรุโปร่ง

ความเหนื่อยยากในระหว่างแก้ไขวิกฤตินั้นพอที่จะกระตุ้นให้คิดใหม่ได้แล้วนะ

ปีนี้ยังเพียงนี้ ถ้าเจอปีหน้า ปีโน้นอีกจะเพียงไหน

ถ้าไม่แก้ไขให้ถ่องแท้ก็ยากที่จะเดินหน้าต่อไปได้

ชาวบ้านยังเรียกร้องให้เรื้อคันดิน นักวางแผนจะไม่เรื้อแผนได้อย่างไร

วิกฤติน้ำเที่ยวนี้ ทำให้เกิดวิกฤติในใจคน ในสังคม ในวงการธุรกิจ ในนักวิชาการ ในกระทรวงกรมกองและในทำเนียบรัฐบาล อย่าบอกนะว่าปีหน้าจะไม่ผวาอีก หลังจากน้ำท่วมมีการบ้านรอยู่ไม่รู้กี่ร้อยข้อ ในระหว่างรีๆรอๆลมหนาวก็จะโหมกระหน่ำมาอีก ภั ย ค ว า ม ห น า ว เ ย็ น จ า ก ก า ร แ ช่ น้ำ ยั ง ไ ม่ ห า ย ภั ย ค ว า ม ห น า ว เ ห น็ บ จ า ก ไ ซ บี เ รี ย ก็จะหวีดหวิวมาให้สั่นงันงกกันอีก เรื่องหนาวๆร้อนๆนี่ละครับที่สำคัญ ไม่รู้ว่าใครจะเป็นเจ้าภาพหลักเจ้าภาพรองในเรื่องนี้ ถ้าไม่รวมพลังไทยกัดฟันสู้ร่วมกันเหมือนชาติญี่ปุ่นคงลำบากแย่

“น้ำท่วมนาจมหายหลายล้านไร่

จะเอาข้าวที่ไหนไปขายหวา

ข้าวจะกินไม่มีถึงปีหน้า

ทำเหมือนว่าปิ้งปลาประชดแมว”

มีอาการน่าเป็นห่วงพอประมาณ

ท่านพี่ลงมาตรวจการฯดูแล้วแอ๊บแบ๋วเหลือเกิน

มันไม่ทำให้เกิดความเชื่อมั่นอะไรได้เลย

คำพูดคำจาอาสาสมัครปอเต๊กตึ้งยังน่าเชื่อถือมากกว่า

วิกฤติน้ำว่าหนักแล้ว วิกฤติคนคุมนโยบายหนักหนาสาหัสยิ่งกว่าอีก

เราจะต้องรู้อย่างไรจึงจะบรรเทาเรื่องน้ำให้อยู่ในระดับที่พอรับได้

รู้อย่างไร นี่ไล่ไปตั้งแต่ชาวนาจนถึงหอคอยงาช้าง

จะวางผังวางแผนให้เป็นแนวเดียวกันอย่างไร

ออกกฎหมายภาษีน้ำท่วมดีไหมละ

ชาวนาจะไม่ได้รู้สึกว่าถูกกระทำข้างเดียว

น้ำบ่ามาปล่อยให้ชาวนาตกน้ำป๋อมแป๋ม

แต่คนเมืองมีอภิสิทธิ์ปกป้องดูแลอย่างกับไข่ในหิน

สูบน้ำออกมาซ้ำเติมไร่นาให้เป็นทะเลหนักเข้าไปอีก

ประพฤติเยี่ยงนี้ความชอบธรรมอยู่ตรงไหนมิทราบ

ชาวไร่ชาวนาเอาพื้นที่รับน้ำรับความเสี่ยงแทนท่านผู้มีอันจะกิน

ร้านค้า-ธุรกิจ-อุตสาหกรรม-เขตพื้นที่พิเศษ-ควรจะจ่ายภาษีนี้

ยามเกิดอุทกภัยจะได้เอาเงินภาษีน้ำท่วมมาบริการจัดการช่วยเหลือ

ถ้ามองกว้างมองไกลคนที่เดือดร้อนอาจจะพอรับได้

เรื่องที่จะพอรับได้นี่ต้องตีให้แตกนะเธอ

แค่เงินชดเชยจิ๊บจ้อยคงรับสถานการณ์นี้ไม่ได้หรอก

คนหมดเนื้อหมดตัวถ้าไม่ดูแลให้ดี

วันดีคืนดีม็อบพันธุ์แท้อาจจะลุกฮือขึ้นมาเป็นระลอก

:: ชวนฉุกคิดง่ายๆ

1 ปีนี้น้ำท่วมไร่นาที่ราบลุ่มทุกภาคนับล้านไร่

ชาวนาจะเอาข้าวที่ไหนมาจำนำเกวียนละ 15,000 บาท

โยกงบจำนำข้าวมาช่วยการฟื้นฟูอาชีพได้ไหม

2 ค่าชดเชยความเสียหายที่พักอาศัยที่ทำกินจะชดเชยอย่างไร

อย่าบอกนะว่าครอบครัวละ 5,000 บาท ไร่ละ 2,000 บาท ก็พอแล้ว

3 โครงการประชานิยม ไหนๆจะทำนอกกรอบแล้ว ทดลองทำอย่างนี้ดีไหม

3.1 โครงการรถคันแรก โยกมาช่วยซ่อมรถที่ถูกน้ำท่วมได้ไหม?

3.2 โครงการบ้านหลังแรก โยกมาช่วยซ่อมบ้านน้ำท่วมได้ไหม?

4 หลังน้ำท่วมจะมีมาตรการสงเคราะห์ภาคเกษตรกรรม

ให้เป็นรูปธรรมอย่างไรบ้าง

จะใช้นโยบายประชานิยมก็ไม่ว่า

จะทำให้เป็นที่นิยมถึงอกถึงใจแค่ไหน เ ชิ ญ แ ส ด ง . .

แ ส ด ง ใ น โ จ ท ย์ ที่ ตำ ต า ตำ ใ จ นี่ แ ห ล ะ

จะดูฝีมือรัฐบาล ดูได้จากการแก้ไขวิกฤติของชาติในคราวนี้

ง่ายๆตรงๆชัดๆ จะสอบได้ หรือสอบตก

พวกเราคอยเอาใจช่วยด้วยนะเธอ

อีกหน่อยลมหนาวก็จะมา

ข้าไม่ได้หนาวลมหรอกนะ

แต่หนาวที่รัฐฯจะต้องไปหาเงินกู้มาอีกกี่แสนล้าน

คราวก่อนเงินไทยเข้มแข็งก็ละเลงกันไปมิใช่น้อย

คราวนี้เงินกู้ที่จะมาแก้น้ำท่วมจะตกน้ำไปกี่ต๋อมก็ไม่รู้ได้

“จะสั่งการสั่งงานสั่งไปเถิด

จะฉายเฉิดรำพันฉันไม่ว่า

จะจัดการอย่างไรให้ชาวนา

ได้รู้ว่าเลือกผู้แทนไม่ผิดตัว”



Main: 0.81533479690552 sec
Sidebar: 0.06219220161438 sec