อาม่าเล่าเรื่อง (๓) เล่ากงเล่าม่า

อ่าน: 2629

        เรื่องของเล่ากงเล่าม่าของเรา  ฟังอาม่าเล่าใหม่ ๆ รู้สึกสับสนพอสมควร ก็พยายามค่อย ๆ คุยสอบถามเพิ่มเติมจนได้ภาพที่ค่อนข้างชัดเจน จึงนำมาเล่าไว้สำหรับลูก ๆ หลาน ๆ ได้รับทราบดังนี้

          อากงอาม่า ก็จะมีกันสองฝ่าย คือ ฝ่ายพ่อแม่ของพ่อ (ฝ่ายชาย) จะเรียกว่า ไล่กงไล่ม่า  ส่วนพ่อแม่ของแม่ (ฝ่ายหญิง) จะเรียกว่า งั่วกงงั่วม่า  เมื่อพูดถึงพ่อแม่ของอากงและอาม่าอีกชั้นก็จะเรียกว่า เล่ากงเล่าม่า ถ้าจะเรียกให้เต็มก็จะเรียกว่า ไล่เล่ากงและไล่เล่าม่า สำหรับ พ่อแม่ของอากง และ งั่วเล่ากงและงั่วเล่าม่า สำหรับพ่อแม่ของอาม่า

กรณีของอาม่าของเรายิ่งซับซ้อนมากขึ้นเพราะ  พ่อแม่ของอาม่ายกอาม่าให้เป็นลูกบุญธรรมของน้องชาย  ดังนั้นอาม่าจึงเหมือนมีพ่อแม่อย่างละ ๒ คน คือพ่อแม่ที่ให้กำเนิด กับพ่อแม่ที่เลี้ยงดูจนเติบใหญ่ นั่นคือพวกเราจะมี งั่วเล่ากงและงั่วเล่าม่า อย่างละ ๒ คน แต่เวลาพูดถึงโดยทั่วไปจะเรียกสั้น ๆ ว่า เล่ากงเล่าม่าเฉย ๆ โดยส่วนใหญ่ก็จะหมายถึง เล่ากงเล่าม่าที่มาอยู่เมืองไทยที่เลี้ยงดูอาม่ามาตั้งแต่เล็ก ๆ  สอบถามจากอาม่าจึงได้ทราบว่า อาม่าเก็บภาพของ เล่ากงเล่าม่าทั้งสอง ใส่กรอบเล็ก ๆ ไว้ จึงถ่ายภาพมาให้ได้เห็นกันครับ

 

ภาพเล่ากงเล่าม่า ที่เป็น พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดอาม่า  ที่อยู่เมืองจีน อ่านต่อ »


อาม่าเล่าเรื่อง (๒) ถึงเมืองไทย

2 ความคิดเห็น โดย Panda เมื่อ 13 สิงหาคม 2010 เวลา 11:28 ในหมวดหมู่ เรื่องเล่าทั่วไป #
อ่าน: 2547

 

      การเดินทางจากซัวเถาประเทศจีนมาเมืองไทยโดยทางเรือของอาม่า เดินทางมาพร้อมกับคุณพ่อหรือเตี่ยของอาม่าเอง (เล่ากง ของพวกเรา)  อาม่าเล่าให้ฟังว่า เป็นเรือขนาดใหญ่ มีผู้โดยสารมาเป็นร้อย ๆ คน มีการบันทุกสินค้ามาด้วยจำนวนมากที่ด้านล่างสุดของเรือ  ชั้นถัดขึ้นมาเป็นบริเวณโล่ง ที่ผู้โดยสารพักอาศัยอยู่รวมกันในการเดินทางมา โดยมีของใช้ที่จำเป็นส่วนตัวของแต่ละคนมาด้วย และที่ขาดไม่ได้ ก็อย่างที่เราเคยได้ยินได้ฟังมาในเชิงเปรียบเทียบว่า “คนจีนที่เดินทางมาประเทศไทยจำนวนมาก สิ่งที่มีติดตัวมานั้นมีน้อยมาก มีแค่เสื่อผืนหมอนใบ เท่านั้น  แต่ด้วยความขยัน อดทน อดออม ก็สามารถมาสร้างเนื้อสร้างตัว จนมีฐานะร่ำรวยได้ ที่เมืองไทย”  สำหรับผู้โดยสารที่มีฐานะดีก็จะอยู่ชั้นบนสุด โดยมีการแบ่งเป็นห้อง ๆ อย่างเป็นสัดเป็นส่วน ก่อนจะเป็นชั้นที่เรียกว่าชั้นดาดฟ้าเรือ  เล่ากงและอาม่าเดินทางมาในชั้นที่ผู้โดยสารพักอาศัยอยู่รวมกัน ตลอดระยะเวลาเดินทางประมาณหนึ่งสัปดาห์  หลาย ๆ คนเมาเรือ  กินอาหารไม่ได้ แต่อาม่าไม่เป็นไร และยังเดินขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือได้อีกด้วย  สำหรับเรื่องอาหารการกิน ทางเรือจะบริการเฉพาะน้ำ ข้าวสวยและข้าวต้ม  ผู้โดยสารจะต้องนำกับข้าวหรืออาหารอื่น ๆ มาเอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือ ผักดอง หมูเค็มและปลาเค็ม

อ่านต่อ »


อาม่าเล่าเรื่อง (๑) การเดินทางมาจากเมืองจีน

2 ความคิดเห็น โดย Panda เมื่อ 12 สิงหาคม 2010 เวลา 9:30 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา, สังคม ครอบครัว ชุมชน #
อ่าน: 2157

      ในวาระวันแม่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ นี้ เราได้เตรียมรูปที่ อาม่า (Lin Hui) ได้ถ่ายรูป อาม่า (ตัวจริง) เมื่อปลายเดือนที่แล้ว และพิมพ์ด้วยตนเองด้วยเครื่องพิมพ์ที่บ้าน ออกมาในขนาดเต็มกระดาษ A4 นำไปใส่กรอบเรียบร้อย เพื่อจะมอบให้อาม่าในวันแม่ปีนี้

      จากที่อาม่าเล่าให้ฟัง อาม่าเป็นชาวจีนแต้จิ๋ว เกิดที่อำเภอเก๊กเอี๊ย จังหวัดซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน  เดินทางมาประเทศไทยกับคุณพ่อ (เตี่ย) โดยทางเรือ ตอนที่ตัวเองมีอายุได้เพียง ๘ ขวบ โดยออกเดินทางจากบ้านเกิดมาที่ซัวเถา โดยเรือเล็กใช้เวลาเดินทางไม่นาน (ราวสองสามชั่วโมง) แล้วจึงมาขึ้นเรือใหญ่ที่ซัวเถา เดินทางต่อมาประเทศไทย ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งอาทิตย์หรือ ๗ วันจึงถึงประเทศไทย ตอนนี้อาม่า อายุ ๙๕ ปี ก็ลองลบดูเอาเองนะครับว่า อาม่าเดินทางมาประเทศไทยในปี พ.ศ. ใด

 

            อ่านต่อ »


งานแต่งครั้งที่ 2

2 ความคิดเห็น โดย Panda เมื่อ 16 ธันวาคม 2009 เวลา 12:55 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา, สังคม ครอบครัว ชุมชน #
อ่าน: 3461

        มีโอกาสจัดงานแต่งอย่างมีส่วนร่วมครั้งที่ 2 อย่างจริงจังในชีวิต เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา  ไม่ใช่ผมได้แต่งงานเป็นครั้งที่ 2 หรอกนะครับ แต่เป็นการได้ร่วมการจัดงานของลูกสาว ถือว่าเป็นการได้ร่วมจัดงานอย่างจริงจังเป็นครั้งที่ 2 นอกเหนือจากการจัดงานแต่งของตนเอง เมื่อ 35 ปีก่อน จึงอยากจะนำมาเล่าสู่กันฟัง จากประสบการณ์การจัดงานที่ห่างกันถึงขนาดนี้ เผื่อจะให้ข้อคิดหรือประโยชน์แก่ท่านอื่น หรือได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับท่านอื่นบ้างครับ

          อ่านต่อ »


พ่อของลูก

อ่าน: 2054

     เนื่องในโอกาสวันพ่อ 5 ธันวาคม  2552  ปีนี้มีเวลาอยู่กับบ้านแบบสบาย ๆ   นึกถึงคุณพ่อที่จากพวกเราไปนานหลายปีแล้ว  คุณพ่อเป็นต้นแบบของผมและลูก ๆ ในเรื่องความขยันหมั่นเพียรและการดูแลเลี้ยงดูลูก ๆ 

      จำได้ว่าตอนสมัยที่ผมยังเด็ก ๆ เรียนอยู่ในชั้นประถมศึกษา  คุณพ่อกับพี่ชายจะตื่นแต่เช้า ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง  ออกจากบ้านไปเพื่อไปรอรับซื้อของที่ชาวบ้านจะนำมาขายยังตลาด แต่คุณพ่อกับคุณพี่จะไปรอดักซื้อก่อนที่ชาวบ้านจะเดินทางมาถึงตลาด   อุปกรณ์ที่นำติดตัวไปก็จะมีตาชั่งแบบเก่าที่เป็นคันด้ามยาวเพื่อไว้ชั่งน้ำหนักของที่จะซื้อ  ของที่ซื้อก็จะมีทั้งข้าวเปลือก เป็ด ไก่ และ ของป่าต่าง ๆ ที่ชาวบ้านเอามาขาย  พอฟ้าสว่างก็จะกลับมาเปิดร้านที่เป็นร้านค้าปลีก ที่มีทั้งของใช้ต่าง ๆ เครื่องมือสำหรับทำการเกษตร เสื้อผ้า และของอื่น ๆ อีกมาก  เรียกว่าถ้ามีคนมาถามหาอะไรที่ไม่มีขาย  คุณพ่อก็จะพยายามไปหาซื้อว่าไว้ขาย โดยเดินทางจากตัวอำเภอไปซื้อมาจากร้านค้าขายส่งที่อยู่ในตัวจังหวัด

        คุณพ่อจะดูแลเรื่องอาหารการกินและการไปโรงเรียนของลูก ๆ อย่างดี  คุณพ่อจะเป็นคนไปซื้ออาหารจากตลาดเอง ไม่ว่าจะเป็นผักผลไม้  เนื้อหมูและปลา นำมาให้คุณแม่เป็นผู้ทำให้พวกเราได้ทานก่อนที่จะไปโรงเรียน  และในตอนกลางวันคุณพ่อก็จะเป็นผู้นำอาหารใส่ปิ่นโต ปั่นจักรยานไปส่งให้เราได้รับประทานกันที่โรงเรียนทุกวัน คุณพ่อจะนั่งดูเราทานจนอิ่มแล้วจึงนำเอาปิ่นโตกลับบ้าน  ดังนั้นพวกเราจึงได้รับประทานทั้งอาหารเช้าและอาหารกลางวันอย่างเต็มที่   คุณพ่อจะซื้ออาหารที่ดี ๆ มาให้พวกเราทานกันอย่างสม่ำเสมอ  คุณพ่อพูดกับพวกเราเสมอว่า “คนเรา ถ้าได้รับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ ก็จะทำให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง มีสมองที่ดีและเฉลียวฉลาด“  ดังนั้นเรื่องอาหารการกิน คุณพ่อจะเลือกแต่อาหารที่ดีมีคุณภาพให้พวกเราได้รับประทานกัน  และพวกเราก็ไม่ทำให้คุณพ่อผิดหวังครับ  ลูกของพ่อทุกคนเรียนดี สอบได้ที่หนึ่งของชั้น หรือที่หนึ่งของโรงเรียนกันแทบทุกคน  มีชื่อติดบอร์ดของโรงเรียนกันหลายคน

       ขอบพระคุณ คุณพ่อ ที่ทำให้ลูก ๆ มีวันนี้ คุณพ่อที่เป็นทั้งผู้ให้ และเป็นแบบอย่างที่ยอดเยี่ยมของพวกเราทุกคน…..ระลึกถึงพ่อครับ


วันแม่ของเราปี 2552

อ่าน: 1970

       วันแม่ของพวกเราในทุก ๆ ปี ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในเดือนสิงหาคม หลังจากวันแม่แห่งชาติ 1-2 สัปดาห์ แต่ปีนี้เลื่อนมาอยู่กลางเดือนกันยายน เนื่องจากมีเดือนซ้ำตามปฏิทินจีน  งานวันแม่ของพวกเราปีนี้ที่จริงคุณแม่ยืนยันว่า ไม่ต้องมีและไม่ออกไป รับประทานอาหารที่ร้านเหมือนหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา  ในที่สุดก็มาลงเอยกันที่ว่าจะมีการทำอาหาร 2 อย่างมาร่วมรับประทานกันที่บ้าน ตามประเพณีจีนคือ ผัดเส้นหมี่ กับ ไข่หวาน ในเย็นวันอังคารที่ 15 กันยายน แทนการจัดวันเสาร์หรือวันอาทิตย์อย่างที่เคยทำกันมา  และลูกหลานคนไหนว่างก็มาร่วมรับประทานผัดเส้นหมี่และไข่หวาน ตามประเพณีจีน

 

          อ่านต่อ »


เบิ่งสกลนครในสามชั่วโมง

อ่าน: 3566

ร่วมยินดีที่สกลนคร

6 ความคิดเห็น โดย Panda เมื่อ 6 กรกฏาคม 2009 เวลา 14:38 ในหมวดหมู่ สังคม ครอบครัว ชุมชน #
อ่าน: 4436

ส้มมหามงคล

3 ความคิดเห็น โดย Panda เมื่อ 20 เมษายน 2009 เวลา 13:55 ในหมวดหมู่ สังคม ครอบครัว ชุมชน #
อ่าน: 3337

Happiness Day 18042009

      วันเสาร์ที่ 18 เมษายน 2552 ที่ผ่านมา เป็นวันที่ เราได้รับการมาเยี่ยมตามธรรมเนียมจีนที่สำคัญจากผู้ใหญ่ ผู้มาเยี่ยมจึงนำ ส้มมหามงคล 4 ผล มาอวยพร เจ้าบ้านจะรับมา และจะมาเปลี่ยนเอาส้ม 2 ใบออกมาและใส่ส้ม 2 ใบใหม่เข้าไปแทน แล้วคืนส้ม 4 ใบให้กับแขกผู้มาเยือน เป็นการอวยพร และเป็นการแลกเปลี่ยนโชคลาภ มอบโชคลาภให้แก่กันและกัน
      ผลไม้ ส้ม จีนกลางเรียก ไต้กิก ไต้ แปลว่า ใหญ่ กิก แปลว่า มงคล เมื่อรวมกันจึงอาจจะเรียกว่า ส้มมหามงคล นอกจากนั้น ส้ม ในภาษาจีนแต้จิ๋วออกเสียงว่า “กา” ยังไปพ้องไปกับคำว่า “ทอง” จึงสื่อถึงความหมายที่ดี เหมือนกับการนำ ทอง หรือ ความร่ำรวยไปมอบให้ จนในปัจจุบัน ตามห้างสรรพสินค้าจะจัด ส้มเป็นชุด 4 ผล พร้อมมีคำอวยพรว่า “มั่ง มี ศรี สุข” ติดไว้ให้ด้วย และยังมีคำอวยพรเป็นภาษาต่าง ๆ ทั้งภาษาจีน ภาษาอังกฤษ (Bonne Chance - Happiness) ประกอบอีกด้วย
     การมาเยี่ยมครั้งนี้ผู้ใหญ่มาพร้อมกับลูกชาย ลูกชายจึงมีของฝากสมัยใหม่ คือ ฟรุตเค็ก (Fruit Cake) ที่เป็นที่ชื่นชอบของเจ้าของบ้าน มามอบให้ด้วยครับ การเยี่ยมครั้งนี้จึงเป็นครั้งที่มีความสุขกันทุก ๆ คน



Main: 0.31052589416504 sec
Sidebar: 0.29871511459351 sec