ใกล้เกลือกินด่าง

โดย Nothing เมื่อ 1 February 2010 เวลา 3:39 pm ในหมวดหมู่ ธรรมะ #
อ่าน: 2144

หลายๆ คน(รวมทั้งผม) ถูกสอนหรือถูกทำให้เข้าใจว่าธรรมะนั้นอยู่ที่วัด  หมายความว่าถ้าอยากรู้ อยากได้ธรรมะก็ต้องไปวัด อยากปฏิบัติธรรมก็ต้องเข้าวัด ออกจากวัดเมื่อไรก็ต้องทิ้งธรรมะไว้ที่วัด หรือมันจะติดตัวเราไปได้ไม่นาน แล้วต้องเข้าวัดไปเอามาใหม่

ความเข้าใจอันนี้ทำให้เกิดการบ้าบุญกันใหญ่ ทำให้เกิดพุทธพาณิชย์ และเกิดมาเฟียภายใต้ร่มกาสาวพัตร์ อย่างน่ารังเกียจอย่างยิ่ง

เหล่าผู้บอกตัวเองและผู้อื่นว่าตนเป็นชาวพุทธ(แต่ในนาม) โดยไม่เคยเหลียวมองเลยว่าพระพุทธองค์ทรงสอนอะไร ไม่เคยหรือแม้แต่พยายามตรวจสอบว่าคำสอนนั้นถูกต้องหรือไม่ มัวแต่บนบานศาลกล่าว คิดหาทางแต่จะรวยทางลัด โดยไม่ลงทุน หรือลงทุนแบบนักธุรกิจผู้ค้ากำไรเกินควร หรือไม่ก็ทำแบบสนองกิเลสตัวเอง โยมก็ถูกกิเลสพระก็ถูกกิเลสเป็นพอ

แห่แหนกันทำบุญหลายๆ วัด  แห่กันสร้างโบสถ์วิหาร พระพุทธรูป ให้เลิศหรู ใหญ่โต อลังการ  โดยไม่สนใจเลยว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งปัญญา เป็นศาสนาแห่งการศึกษา และมีหลักปฏิบัติอย่างเป็นระบบ  หมายความว่าอยากได้อะไรก็ต้องทำเอาด้วยตนเองตามหลักที่วางเอาไว้แล้วในพระไตรปิฏก

พระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบไม่เอา วัดที่ไม่เน้นวัตถุไม่เอา วัดที่สอนปฏิบัติธรรม(แบบถูกต้อง)ก็ไม่เอา เวลาพระเทศน์ก็จะเอาแบบสนุกโปกฮา ตอนนี้พระเริ่มทำตัวเป็นตลกคาเฟ่เริ่มมีให้เห็นกันแล้ว (สงสัยเวลาพระจะเทศน์คงต้องถวายถาดเปล่าๆ ใบเดียวคงพอ)

เป็นอะไรกันหมดนะชาวพุทธเรา  ธรรมะยังมีอยู่ พระผู้ปฎิบัติดีปฏิบัติชอบก็ยังพอมีอยู่ ช่วยกันปกป้อง ช่วยกันรักษา ช่วยกันศึกษา ช่วยกันปฏิบัติ ช่วยกันสานต่อ อย่าใกล้เกลือกินด่างกันเลยครับ

ธรรมสวัสดีครับ

« « Prev : สู่หนใด?

Next : คำสอนหลวงปู่ชา » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

7 ความคิดเห็น

  • #1 อุ๊ยสร้อย ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 February 2010 เวลา 5:29 pm

    สาธุ

  • #2 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 February 2010 เวลา 10:55 pm

    เป็นเช่นนั้นจริงๆ

  • #3 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 February 2010 เวลา 10:47 am

    เฮอะ ๆ เหอ เคยมีคนบอกว่าการรวบอำนาจดูแลพระสงฆ์จากประชาชน นำไปจัดตั้งเป็นองค์คณะเหมือนราชการทำให้พระห่างไกลชุมชน และดูแลควบคุมลำบาก

    แต่เบิร์ดแย้งว่าไม่จริง เพราะคนยังไปวัดอยู่ ยังมีการติดตามคำสอน คำกล่าวขององค์ศาสดาผ่านพระภิกษุสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบหลายรูป เมื่อการติดตามก็เกิดการควบคุมดูแลโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว ข่าวหลายข่าวที่เราเห็นก็เกิดจากการซุ่มดูของชาวบ้านจนรู้จริง นี่จะบอกว่าประชาชนเสียการดูแลพระภิกษุสงฆ์ไปคงไม่ถูก แต่เราได้ทำหน้าที่นั้นอย่างดีแล้วหรือยังต่างหาก

    การจะดูแลใครเราต้องรู้นะคะว่าดูเรื่องอะไร มีขอบเขตแค่ไหน เหมือนการเป็นพ่อแม่ที่ดูแลลูก ถ้าไม่รู้วิธีเลี้ยงลูกให้ดี จะทำได้ดีมั้ย…ประชาชนก็เช่นกันเป็นพุทธแบบไหน ? เคยศึกษาศาสนาดูหรือไม่ หรือฟังและจำตาม ๆ กันมาเท่านั้น สักพักก็ลืม หรือสนใจแต่พระที่ห้อยคอว่ารุ่นไหน มีมวลสารอะไร มีพุทธคุณด้านไหน นั่นพอแล้ว ?

    แหม งับทีหลังนี่สนุกแฮะ เดี๋ยวงับต่อดีกว่าเรื่องกบเลือกนาย อิอิอิ

  • #4 Nothing ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 February 2010 เวลา 11:42 am

    #1 อุ๊ยสร้อย ครับ
    ไม่มีอะไรมาก แค่คนแก่บ่นเฉยๆ น่ะครับ อิอิ

  • #5 Nothing ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 February 2010 เวลา 11:53 am

    #2 พี่บู๊ดครับ

    ธรรมะคือธรรมชาติ ไม่ว่าจะอย่างไร จะเกิดอะไรขึ้น มันก็ยังเป็นและจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป
    แต่ผู้เปิดเผยความจริงของธรรมชาติให้เราได้รู้ ให้เราได้ศึกษา จนเข้าใจที่สุดแห่งธรรมชาตินั้นเกิดยากมาก

    เมื่อเราโชคดีที่เกิดมาทันยุคนั้นก็ไม่อยากให้เมินเฉยกัน

    แต่ผมเชื่อว่าพี่ก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่เมินเฉยต่อสิ่งนั้น เห็นเข้าวัดเข้าวาบ่อยเหมือนกัน ยิ่งได้พบกับพระสุปฏิปันโนอย่าง หลวงพ่อคำเขียน กับพระอาจารย์ไพศาล ผมล่ะอิจฉาจริงๆ ครับ

  • #6 Nothing ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 February 2010 เวลา 12:14 pm

    #3 คุณเบิร์ด ครับ

    ผมคิดว่าความหวังหรือทางแก้ให้สังคมดีขึ้นอยู่ที่วัดครับ  เพราะจุดศูนย์กลางแห่งศีลธรรมย่อมอยู่ที่วัด
    สังคมสมัยก่อนเนื่องอยู่กับวัด สมัยก่อนผมว่ากรณีพิพาทหลายๆ กรณีก็จบลงอยู่ที่วัด

    พระพุทธศาสนาของเราจะอยู่ได้นานแค่ไหนก็ขึ้นกับพุทธบริษัททั้ง ๔
    ในความเห็นของผมคิดว่าภาระใหญ่ควรจะอยู่ที่ อุบาสก อุบาสิกา นี่แหละครับ เพราะผู้ที่เป็นพระก็ต้องเป็นโยมมาก่อน วัดจะอยู่ได้หรือไม่ก็ขึ้นกับโยม
    ผมว่าปัญหาหลักก็อยู่ที่โยมนี่แหละครับ

    เห็นด้วยกับคุณเบิร์ดที่ว่า
    ประชาชนก็เช่นกันเป็นพุทธแบบไหน ? เคยศึกษาศาสนาดูหรือไม่ หรือฟังและจำตาม ๆ กันมาเท่านั้น สักพักก็ลืม หรือสนใจแต่พระที่ห้อยคอว่ารุ่นไหน มีมวลสารอะไร มีพุทธคุณด้านไหน นั่นพอแล้ว ?
    ก็นั่นแหละครับ ใกล้เกลือกินด่าง

    เรื่องกบเลือกนาย? ชักอยากฟังซะแล้วซิ แต่รู้สึกเสียวสันหลังยังไงไม่รู้ อิอิ

    อ้อ ลืมบอกไป จริงๆ แล้วในบันทึกนี้ผมจะเขียนเรื่องอื่น กะจะเขียนเรื่องนี้นำร่องก่อนนิดหน่อย สุดท้ายนิ้วพาไป เลยเลี้ยวกลับไม่ทันครับ

  • #7 ลูกหว้า ให้ความคิดเห็นเมื่อ 15 April 2010 เวลา 6:24 pm
    • สวัสดีปีใหม่ไทยนะคะน้องเทพ  นานๆเข้ามาต้องแวะมาทักทายซะหน่อย

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.35961890220642 sec
Sidebar: 0.51734709739685 sec