ใกล้เกลือกินด่าง
อ่าน: 2230หลายๆ คน(รวมทั้งผม) ถูกสอนหรือถูกทำให้เข้าใจว่าธรรมะนั้นอยู่ที่วัด หมายความว่าถ้าอยากรู้ อยากได้ธรรมะก็ต้องไปวัด อยากปฏิบัติธรรมก็ต้องเข้าวัด ออกจากวัดเมื่อไรก็ต้องทิ้งธรรมะไว้ที่วัด หรือมันจะติดตัวเราไปได้ไม่นาน แล้วต้องเข้าวัดไปเอามาใหม่
ความเข้าใจอันนี้ทำให้เกิดการบ้าบุญกันใหญ่ ทำให้เกิดพุทธพาณิชย์ และเกิดมาเฟียภายใต้ร่มกาสาวพัตร์ อย่างน่ารังเกียจอย่างยิ่ง
เหล่าผู้บอกตัวเองและผู้อื่นว่าตนเป็นชาวพุทธ(แต่ในนาม) โดยไม่เคยเหลียวมองเลยว่าพระพุทธองค์ทรงสอนอะไร ไม่เคยหรือแม้แต่พยายามตรวจสอบว่าคำสอนนั้นถูกต้องหรือไม่ มัวแต่บนบานศาลกล่าว คิดหาทางแต่จะรวยทางลัด โดยไม่ลงทุน หรือลงทุนแบบนักธุรกิจผู้ค้ากำไรเกินควร หรือไม่ก็ทำแบบสนองกิเลสตัวเอง โยมก็ถูกกิเลสพระก็ถูกกิเลสเป็นพอ
แห่แหนกันทำบุญหลายๆ วัด แห่กันสร้างโบสถ์วิหาร พระพุทธรูป ให้เลิศหรู ใหญ่โต อลังการ โดยไม่สนใจเลยว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งปัญญา เป็นศาสนาแห่งการศึกษา และมีหลักปฏิบัติอย่างเป็นระบบ หมายความว่าอยากได้อะไรก็ต้องทำเอาด้วยตนเองตามหลักที่วางเอาไว้แล้วในพระไตรปิฏก
พระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบไม่เอา วัดที่ไม่เน้นวัตถุไม่เอา วัดที่สอนปฏิบัติธรรม(แบบถูกต้อง)ก็ไม่เอา เวลาพระเทศน์ก็จะเอาแบบสนุกโปกฮา ตอนนี้พระเริ่มทำตัวเป็นตลกคาเฟ่เริ่มมีให้เห็นกันแล้ว (สงสัยเวลาพระจะเทศน์คงต้องถวายถาดเปล่าๆ ใบเดียวคงพอ)
เป็นอะไรกันหมดนะชาวพุทธเรา ธรรมะยังมีอยู่ พระผู้ปฎิบัติดีปฏิบัติชอบก็ยังพอมีอยู่ ช่วยกันปกป้อง ช่วยกันรักษา ช่วยกันศึกษา ช่วยกันปฏิบัติ ช่วยกันสานต่อ อย่าใกล้เกลือกินด่างกันเลยครับ
ธรรมสวัสดีครับ