กำนดการคร่าวๆเรื่องนาทดลอง
อ่าน: 1299เมื่อวานผู้รับเหมาถมดินปรับที่นา โทรมาบอกว่าอีกสามวันเข้าไปดูที่นาได้ เพราะคงจะได้เห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้ว วันนี้จึงใช้เวลาในการวางแผน กำหนดการคร่าวๆที่จะเริ่มดำเนินการ ทำนาทดลองกับนักเรียน ป. 6 โรงเรียนพัฒนาเด็ก โดยเชิญคุณครูอุ๊ ซึ่งเป็นครูประจำชั้น ป. 6 มาคุยกันตอนเย็น หลังเลิกเรียน มาคุยกันแบบไม่เป็นทางการ เพราะไม่อยากให้โครงการนี้เป็นโครงการ แบบแข็งๆที่ มีจุดมุ่งหมาย มีหลักการอะไรมาก เพื่อจะต้องเอาไปโชว์คณะประเมินโรงเรียน แม่ใหญ่อยากให้เป็นโครงการที่เราทำกันไปเรียนกันไป ผิดถูกทำใหม่ได้ เพราะยังมีเวลาอีกตั้งสามครั้งต่อปี สำหรับนักเรียนรุ่นนี้ ที่เราจะทดลองและเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ
คุณครูอุ๊มีคุณพ่อเป็นหมอดิน ชื่อคุณพ่อสมัย พันธ์ชมพู บ้านอยู่แถวๆบ้านสงเปือย ไกลจากแปลงนาทดลองของเราไม่กี่กิโลเมตร คุณครูอุ๊ ได้เกริ่นไว้แล้วว่า แม่ใหญ่ขอให้มาเป็นที่ปรึกษาเรื่องเตรียมดิน และการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ล้วนๆ คุณครูบอกว่าเด็กๆจะว่างเช้าวันศุกร เพราะได้ทำตารางสอนเพื่อการไปทัศนศึกษา เรื่องต่างๆไว้ตลอดปี ดังนั้นจึงกำหนดว่า เราจะพาเด็กๆไปดูทีนาที่เตรียมดิน ในเช้าของวันศุกร 24 มิถุนายน เมื่อกลับมาก็จะให้เด็กๆมาโรยเมล็ดข้าวที่เราจะแช่น้ำเตรียมไว้พร้อมปลูก ลงในถ้วยพลาสติก (ที่เราใช้การโรยเมล็ดลงในถ้วยในกระบะพลาสติค ไม่ได้ใช้เจาะรูกระดานตามที่อ.ทวิชแนะนำในครั้งนี้ ก็เพราะอยากให้เด็กจะได้มารดน้ำดูแลในช่วงที่กล้ากำลังเจริญเติบโต และได้เห็นกระบวนการเจริญเติบโตของต้นกล้าอย่างละเอียด )
เมื่อวานอีกเหมือนกันที่แม่ใหญ่ เข้าไปในที่ศูนย์วิจัยข้าวขอนแก่น ได้ไปพบนักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ ชื่อ อาจารย์พิศาล กองหาโคตร เพื่อไปขอคำแนะนำและซื้อพันธุ์ข้าวที่เหมาะสมกับที่นาของโรงเรียน โชคดีอีกแล้วที่ไปเจออาจารย์พิศาล ที่เคยเป็นนักศึกษาคณะเกษตร มหาวิทยาลัยขอนแก่น รุ่น 8 และอาจารย์จำแม่ใหญ่ได้ แม้ไม่เคยเรียนด้วยก็ตาม เราก็ได้เลยคุยกันยาว จนเลยเวลาทานข้าวกลางวัน แม่ใหญ่เล่าว่าทำไมแม่ใหญ่ถึงอยากจะทำนาทดลองให้กับเด็กๆ ได้เรียนรู้ อาจารย์ชอบใจบอกว่า ดูทีวีเห็นดารามาทำนา ยัง คิดชื่นชม และอยากให้คนรู้เรื่องทำนากันมากๆ เพราะเป็นอาชีพสำคัญของเมืองไทย แม่ใหญ่เลยต้องรีบบอกคิดเหมือนอาจารย์ แต่ว่า ไม่ได้เอาอย่างดารานะคะ โครงการนี้เริ่มซื้อที่มาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ทำไม่ทัน เพราะยังไม่มีข้อมูลพอเพียง
อาจารย์เปิดกูเกิ้ล ให้แม่ใหญ่ชี้ให้ดูว่า ที่นาอยู่ตรงไหน เพราะอาจารย์ได้เคยศึกษามาก่อนแล้วว่า ที่ดินส่วนไหนของขอนแก่น ควรปลูกข้าวชนิดไหน เมื่อรู้ที่ตั้งของที่นาแล้ว อาจารย์ก็แนะนำว่าให้ใช้พันธุ์ข้าวหอมมะลิ สำหรับการทดลองคราวนี้ เพราะเป็นการทำนาปี ถ้าครั้งต่อไป เป็นนาปรังจึงจะต้องใช้ข้าวอีกพันธุ์หนึ่ง อาจารย์ถามว่า จะมาซื้อพันธุ์ข้าววันนี้ เตรียมดินแล้วหรือยัง แม่ใหญ่ก็เล่าว่าเพิ่งจ้างเขาปรับและไถที่นา เพราะทำเองไม่เป็น อาจารย์จึงบอกว่าเตรียมที่นาดำ ต้องเตรียมแบบประณีตหน่อย อาจารย์จะไปช่วยดูให้ แล้วอาจารย์ก็ถามว่า จะให้ใครดำ แม่ใหญ่จะลงมือดำเองหรือ แม่ใหญ่ก็บอกว่า จะลงแขก กัน ทั้งแม่ใหญ่ ครู นักเรียน พนักงานที่โรงเรียนผู้ปกครอง และลูกๆหลานๆที่สนใจ และอาจจะมีดารารับเชิญ ชื่อ ป้าจุ๋ม จาก กรุงเทพ ป้าหวาน และออต จากขอนแก่น มาร่วมดำนาด้วย อาจารย์บอกว่าถ้าที่นาประมาณสองไร่เศษ และมีคนช่วยกันหลายๆคน วันเดียวก็อาจจะเสร็จ เพราะตามปกติแล้วชาวนาเขาจะดำได้ 6 คน ต่อไร่ต่อวัน แต่เนื่องจากชาวนาสมัยนี้เขาไม่ค่อยมีเวลา และไม่สามารถลงแขกกันได้ เขาจึงต้องจ้างรถดำนาบ้าง หรือไม่ก็ทำนาหว่านไปเลย
กำหนดหยอดเมล็ดข้าวปลูกต้นกล้าวันที่ 24 มิถุนายน ต้นกล้าใช้เวลางอก พร้อมที่จะปลูก ใช้เวลา 20 วัน (ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ) ตรงกับวันที่ 14 กรกฎาคม ซึ่งดูจากปฏิทินแล้ว วันที่ 15-16 เป็นวันหยุดอาสฬหบูชา และต่อด้วยวันเข้าพรรษา ซึ่งตรงกับศุกร เสาร์ และ วันที่ 17 เป็นวันอาทิตย์ ดังนั้นน่าจะเป็นช่วงที่จะนัดใครๆที่สนใจมาร่วมดำนาทดลองกันได้ อาจจะมีใครอื่นที่อ่านบล็อกนี้ นึกสนุกมาร่วมด้วยก็เป็นได้ ใครจะไปรู้
ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง กำหนดการก็คงจะเป็นตามที่กล่าวมาแล้วนี้