ลานทับทิม(อาม่า)

นับตั้งแต่เล็กจนโตชอบเล่นกีฬาทุกชนิด เป็นเพราะเป็นกฏระเบียบของทางบ้าน ที่ทุกคนจะต้องเล่นคนตรี หรือเล่นกีฬา โดยคุณพ่อจ้างครูมาสอนคนตรีที่บ้าน มีกีร์ต้า ออร์แกน แอคคอร์เดี้ยน ไวโอลิน และกลอง ตั้งวงได้สบายๆ คุณพ่อเล่นทั้งกีร์ต้า ออร์แกน และแอคคอร์เดี้ยน น้องชายคนโตเล่นกลองคนหนึ่ง ส่วนน้องชายอีกคนเล่นไวโอลิน สำหรับ Lin Hui ชอบฟังเพลง เล่นออร์แกนได้นิดหน่อย พวกน้องๆ ผู้หญิงตัวเล็กๆ ก็จะคอยเต้นระบำ ส่ายฮาวาย แล้วจะได้รางวัลเป็นเงิน Lin Hu ไม่ถนัดดนตรี แต่ชอบกีฬามากกว่า และเล่นได้ดีพอต้วเกือบทุกชนิด สำหรับบาสเก็ตบอลชอบเป็นพิเศษ ด้วยเหตุที่ชอบตามพี่สาวตนโตไปซ้อมบาสเก็ดบอลที่สนามบาสฯ ประจำจังหวัดสตูลตั้งแต่อายุ ๘ ขวบ ตอนแรกก็ช่วยเก็บลูกบอลส่งให้นักกีฬาเวลาลูกบอลออกนอกสนาม  ชนิดครูพักลักจำ ชูดลูกไม่ถึงแป้นเสียด้วยซ้ำ ส่วนเรื่อง เทคนิคแครีบอล รับส่งบอลเป็นเรื่องถนัด เพราะแอบไปเรียนรู้ดูนักกีฬาผู้ชายซ้อม พอเขาหยุดพัก ก็เล่นสนุกไปเลยมีพี่ๆ ผู้ชายช่วยสอนพื้นฐานให้ อยู่มาวันหนึ่งเป็นวันแข่งจริงนักกีฬาตัวจริงเกิดปวดท้องลงแข่งไม่ได้ เขาก็เลยจับลงแข่งบาสเก็ตบอลแทน จำได้ว่าใส่ชุดกีฬาตัวโตลุ้มล่ามมาก เพราะLin Hui ตัวเล็กที่สุด อายุแปดขวบเอง ใจนั้นเต็มร้อยเลย เรียกเสียงตบมือลั่นสนาม ตอนนั้นฮึกเหิมมาก ไม่กลัวอะไรเลย สามารถเล่นกับเขาได้ นับตั้งแต่นั้นมาได้เป็นนักบาสฯ สมใจตั้งแต่อยู่จังหวัดสตูล พอย้ายมาอยู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี  ก็เป็นนักกีฬาบาสฯ ระดับโรงเรียน และได้ผ่านการคัดตัวเป็นนักบาสฯ ของสโมสรเอี๋ยวอิง ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี(บ้านดอน) ที่อายุน้อยที่สุด และเคยแข่งกับทีมชาติขณะนั้นมาแล้ว

ผลปรากฏว่าแพ้ แต่ชนะใจกองเชียรทั้งสนามค่ะ แค่นี้ก็ภูมิใจแล้ว ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้แข่งบาสกับทีมชาติไทยค่ะ

วันครบรอบแต่งงาน 35 ปี เป็นปีวิเศษที่สุดในชีวิต เนื่่องจากจะได้รับความรักความใส่ใจ และมีการแอบทำ (big surprise)กุ๊กกิ๊กโดยความร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์สาขา มทส.  แล้วมาสารภาพความลับ(รัก)ว่าตอนแรกคิดว่าจะซื้อเช็คของขวัญให้ แต่ทางธนาคารว่าถ้าครึ่งล้าน ต้องซื้อหลายใบ แล้วต้องเสียเงินค่าเช็คใบละ ยี่สิบ บาท ผู้จัดการบอกว่าโอนเข้าบัญชีดีกว่า ไม่ต้องเสียเงิน ทางธนาคารรีบช่วยค้นชื่อและเลขบัญชีให้ ทุกอย่างเป็นไปตามประสงค์ของหมียักษ์ทุกประการ ขอบคุณค่ะ ที่รัก รักที่ยั่งยืน รักที่มีแต่รัก รักที่ดูแลกันตลอด ไม่ว่าสุขหรือทุกข์ เราเป็นลมหายใจของกันและกันค่ะ ขอบคุณธรรมชาติที่จัดสรรให้ชีวิตคู่ของเรา ยั่งยืนยาวนานตลอดชัวนิจนิรันดร์

เป็นภาพถ่ายหลังแต่งงานสามปี และมีลูกแล้วหนึ่งคน

วันนี้รีบตื่นเตรียมตัวไปเยี่ยมพ่อแม่ ของเพื่อนลูกสาวที่ฝั่งธน ทราบคร่าวๆ  ว่าพ่อนอนติดเตียงมาสองปีแล้วมีแม่คอยดูแลตลอด จึงไปเยี่ยมพร้อมของเยี่ยมที่เป็นมงคล เราพ่อแม่ลูก รวมสี่คนไปกัน เพราะลูกคนเล็กกลับโคราช มาช่วยเลี้ยงน้องเหมียว เพื่อให้พ่อแม่ไปทำธุระสำคัญพร้อมกันที่กรุงเทพ ไปเห็นสภาพแล้วรู้สึกเกิดความเมตา  อาม่าเฝ้าสังเกตุพิจารณาห่างๆ อยู่นาน จนหมียักษ์ หันมามองหน้าเหมือนรู้ใจอาม่า แล้วบอกว่าลองปรึกษาหมอภาคภูมิดีไหม อาม่ารีบติดต่อหมอภาคภูมิทันที่บอกลักษณะอาการที่เห็นพอสังเขป แล้วยื่นโทรศัพท์ บอกให้ลูกชายเป็นผู้ให้รายละเอียดทั้งหมด จากนั้นคุณหมอภาคภูมิก็ขอคุยกับอาม่า และอธิบายให้ฟังเป็นที่ชัดเจนว่า สามารถนวดเองได้ไม่ว่านวดกับหมอคนไหน ความจริงนวดเองก็ได้ ไม่ต้องไปเสียเงินทองมากมาย เพราะสาเหตุเกิดจากเส้นโลหิตในสมองแตก  เพียงแต่ต้องใช้ความอดทน ช่วยนวดกระตุ้นให้มีการเคลื่อนไหวสม่ำเสอ อย่าให้ข้อต่อทุกข้อติด อย่าให้เอ็นยึด จะทำเคลื่อนไหวไม่ได้ อ่านต่อ »

ยีราฟเป็นอีกจุดหนึ่ง ที่ดึงดูดความสนใจจากผู้ที่เข้าไปเที่ยวสวนสัตว์ แห่งนี้ รวมทั้งอาม่าและครอบครัวของลูกศิษย์ เราหยุดรถกอล์ฟแล้วลงมาสมทบกับผู้ชมคนอื่นที่ชื่นชอบยีราฟ หลายคนซื้อถั่วฝักยาวป้อนยีราฟ ซึ่งน่าประทับใจมากค่ะ ยีราฟช่างสุภาพ และมีมารยาทมากค่ะ ค่อยเดินมาทำตาละห้อย ออดอ้อนขอกินถั่ว พอมีคนยื่นถั่วไปให้ ก็จะยืดคอมารับถั่วอย่างนุ่มนวล แ้ม้กระทั่งเด็กตัวเล็กๆ ก็กล้ายื่นถั่วให้ยีราฟกิน ได้ยินเสียงเด็กคนหนึ่งร้องบอกแม่ด้วยว่า “แม่ๆ น้ำลายยีราฟหยดใส่มือหนูด้วย” ส่วนพ่อบอกว่า “พ่อโดนยีราฟเลียหน้าด้วย” อาม่าทำได้แค่ จ้องถ่ายภาพ เพื่อนำมาให้ทุกคนดู ท่าทางที่เขารับอาหารจากผู้มาเยี่ยมเยียนเขาค่ะ

ยีราฟที่สวนสัตว์โคราช ตกลูกหลายตัวแล้วค่ะ แสดงว่าเขาปรับตัวเข้ากับภูมิอากาศของโคราชได้เป็นอย่างดี สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข จนสามารถมีลูกเองตามธรรมชาติได้ ไม่เหมือนหมีแพนด้าที่เชียงใหม่ ทีีต้องอาศัยเทคโนโลยี ลูกๆ ของยีราฟจะมีสีอ่อนกว่าพ่อแม่ ลูกตัวล่าสุดดูเหมือนอายุยังไม่ถึงเดือนเลยค่ะ พวกลูกๆยีราฟ จะหลบอยู่หลังก้อนหินใหญ่

เที่ยวสวนสัตว์เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ สวนสัตว์นครราชสีมา ปรับปรุงขยายพื้นที่ ประมาณ 500 กว่าไร่ เส้นทางเดินชมสัตว์ยาวประมาณ 5 กิโเมตรกว่าๆ มีเวลาแค่สองชั่วโมงกว่า จำเป็นต้องวางแผนเที่ยวสวนสัตว์ให้คุ้มที่สุด เห็นที่จะเดินชมเล่นในเวลา สองชั่วโมงคงไม่ทัน จึงนั่งรถพ่วงที่ทางสวนสัตว์จัดให้บริการ อัตราค่าโดยสาร ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท สามารถลงชมสัตว์เป็นจุดๆ ได้ แล้วขึ้นรถบริการที่ผ่านมาได้ทุกคัน Lin Hui และกลุ่ม จึงตัดสินใจ นั่งรถบริการหนึ่งรอบเสียก่อน เพื่อให้รู้ว่ามีสัตว์อะไรอยู่ที่ไหน จากนั้นก็หาเช่ารถกอล์ฟไฟฟ้า ที่มีให้บริการในราคาชั่วโมงละ 300 บาท ถ้าสองชั่วโมงคิด 500 บาท

เหลือเวลาประมาณชั่วโมงจึงเช่ารถกอล์ฟแค่ชัวโมงเดียวค่ะ ตั้งใจจะไปถ่ายรูปช้างค่ะ เป็นช้างอัฟริกา รูปร่างสง่างามมาก ชอบเวลากางหูออก จะยิ่งดูดีมาก แต่ก็จับภาพยากมากค่ะ ที่เห็นเป็นสีโคลนทั้งตัว เนื่องจากช้างเขาใช้งวงสูบโคลน พ่นทั่วตัว เพื่อป้องกันแมลงรบกวนค่ะ ที่จุดชมช้าง มีช้างสามตัว พ่อแม่ลูก ซึ่งลูกจะแยกตัวออกไปอยู่ห่างจากพ่อแม่ จึงเก็บภาพช้างคู่นี้ ที่เขาจะอยู่คู่กัน และจะมารับกล้วยจากผู้เข้าชม โดยไม่ยอมแยกจากกันค่ะ ช่างเป็นคู่ที่น่ารักมาก

จึงเก็บภาพมาฝากทุกๆ คนค่ะ